fbpx

“อนุทิน” รับหนังสือสนับสนุน แบน 3 สาร ยันเจตนาเดิม

สธ.26 ธ.ค.-รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารณสุข รับหนังสือสนับสนุนการแบน 3 สารเคมีอันตรายจากตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์ ยืนยันเจตนารมณ์เดิมคือ แบน 3 สาร เพื่อสุขภาพ เพราะประชาชนสำคัญกว่ากำไรขาดทุน จากนี้เร่งให้ความรู้ประชาชนถึงผลกระทบจากการบริโภคอาหารปนเปื้อนสารเคมีทางการเกษตร


วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลัง ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ในฐานะตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์ และตัวแทน พยาบาล เภสัชกร และนิสิตนักศึกษา เข้ายื่นหนังสือปิดผนึกมีรายชื่อกว่า 57,000 รายชื่อ สนับสนุนการแบนสารพิษ พาราควอต ไกลโฟเสต และคลอไพริฟอส ว่า ขอขอบคุณตัวแทน แพทย์ พยาบาล เภสัชกร และภาคประชาชน มีความเป็นห่วงสุขภาพประชาชน ข้อมูลได้รับในวันนี้ จะนำเรียนนายกรัฐมนตรี ซึ่งเสียงและการยืนยันของท่านมีน้ำหนัก มีคุณค่าและมีประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด กระทรวงสาธารณสุขขอยืนยันว่า สุขภาพที่ดีของประชาชนต้องมาก่อนกำไรหรือรายได้ หวังว่าท่านทั้งหลายจะสนับสนุนภารกิจและสืบสานเจตนารมณ์ของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป 

นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ ตนและผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขจะไปชี้แจงกรรมาธิการการสาธารณสุขตามที่ได้รับคำเชิญ เพื่อแสดงความคิดเห็นต่อผลกระทบด้านสุขภาพที่เกิดจากการใช้สารเคมีทางการเกษตร ซึ่งขอยืนยันจุดยืนเดิม คือไม่สนับสนุนการใช้สารเคมีทางการเกษตรทั้ง 3 สาร อย่างไรก็ตาม เคารพมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย “เรายอมแพ้ในเกมส์ แต่ไม่ยอมแพ้ในสุขภาพ” สิ่งที่จะดำเนินการต่อจากนี้คือการเผยแพร่องค์ความรู้ ข้อมูล ให้ประชาชนเห็นถึงผลกระทบจากสารพิษเพื่อให้ดูแลตัวเองได้


“ถ้ามีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษา เราจะรับรักษาทั้งหมด เพราะระบบประกันสุขภาพครอบคลุมอยู่แล้ว  จากนี้ไปสิ่งที่รับปากคือ จะทำทุกทางให้ประชาชนสามารถเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดภัยได้เอง” นายอนุทิน กล่าว  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553