ส่งออก พ.ย.ติดลบร้อยละ 7.39

นนทบุรี 23 ธ.ค. – พาณิชย์เผยส่งออก พ.ย.ติดลบร้อยละ 7.39 แม้สงครามการค้าสหรัฐและจีนจะเบาลง ชี้ปี 62 ติดลบมากกว่าร้อยละ 2 แต่ปีหน้าคาดการณ์เป็นบวกได้


น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ รายงานสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนพฤศจิกายน 2562 พบว่า มีมูลค่า 19,656 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวต่อเนื่องถึงร้อยละ 7.39 เนื่องจากส่งออกสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เช่น เคมีภัณฑ์ ส่งออกลดลงถึงร้อยละ 29.1 และเม็ดพลาสติก ลดลงร้อยละ 11.6 ซึ่งอยู่ในกลุ่มสินค้าส่งออก 10 อันดับแรก มีสัดส่วนการส่งออกรวมกันกว่าร้อยละ 11 จากการทยอยปิดปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันในประเทศตั้งแต่เดือนกันยายน 

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมการส่งออกไปจนถึงสิ้นปี เช่นเดียวกับการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวร้อยละ 3.6 จากการส่งออกลดลงของผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว และยางพารา รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้การส่งออกไปตลาดสำคัญทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และอาเซียน ยังคงหดตัว ส่งผลให้ในช่วง 11 เดือนของปีนี้ มีมูลค่าการค้ารวม 227,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังหดตัวร้อยละ 2.77 ทำให้คาดว่าหากการส่งออกเดือนสุดท้ายของปีนี้ได้มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้การส่งออกปีนี้ติดลบร้อยละ 2 การนำเข้าเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามีมูลค่า 19,108 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ 13.78 จากการปิดโรงกลั่นน้ำมัน ทำให้การนำเข้าน้ำมันดิบลดลง แต่ไทยยังเกินดุลการค้า 548 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง 10  เดือนแรกของปีนี้ มีการนำเข้ารวม 218,081 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยยังเกินดุลการค้า 9,008 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


ทั้งนี้ การส่งออกที่ลดลง ถือว่าเป็นไปตามทิศทางเดียวกันทั้งโลก แต่ไทยยังรักษาระดับมูลค่าการส่งออกได้ดีกว่าหลายประเทศ และผลกระทบจากสงครามการค้าที่เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมทั้งผู้ประกอบการไทยปรับตัวได้ดีในการส่งออกสินค้าไปทดแทนสินค้าในกลุ่มที่สหรัฐและจีนขึ้นภาษีระหว่างกัน ประกอบกับแผนผลักดันการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งการเจรจาเขตการค้าเสรี หรือ FTA  และการรักษาตลาดเดิมและทำตลาดใหม่ จะเป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออกปีหน้า ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะมีการประชุม กรอ.พาณิชย์ร่วมกับภาคเอกชนหลังปีใหม่ เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกปีหน้า จากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะขยายตัวเป็นบวกร้อยละ 3 หรือมีเฉลี่ยต่อเดือน  21,278 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตัวเลขส่งออกคาดการณ์ที่ชัดเจนทางรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะมีการประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกอีกครั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เพื่อพิจารณาตัวเลขส่งออกที่ชัดเจนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย