กรุงเทพฯ 21 ธ.ค.-ครอบครัว “ศิริหงษ์ทอง” ยังอยู่ในความโศกเศร้า ขณะเข้ารับศพน้องชาย 2 คน ที่ถูกพี่ชายคนโตยิงเสียชีวิตคาร้านอะไหล่ยนต์ ย่านวรจักรวานนี้ ส่วนปมสังหารมาจากทะเลาะกันเรื่องผลประโยชน์
จากกรณี นายภาณุ ศิริหงษ์ทอง อายุ 44 ปี พี่ชายคนโต ใช้อาวุธปืนยิง นายณัฐชัย ศิริหงษ์ทอง อายุ 37 ปี และนายวศณัช ศิริหงษ์ทอง อายุ 31 ปี น้องชายคนที่ 3 และ 4 เสียชีวิตทั้ง 2 คน ภายในร้านหงษ์ทองอาหลั่ยยนต์ ใกล้ 4 แยกวรจักร ถนนหลวง แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.เมื่อวาน
ล่าสุด ญาติและครอบครัวเดินทางมารับศพนายณัฐชัย และนายวศณัช ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศล บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก โดยญาติขอความร่วมมือสื่อมวลชนไม่ให้ทำข่าวและให้สัมภาษณ์ใด ๆ เนื่องจากเป็นเรื่องภายในครอบครัว
โดยญาติจะนำทั้ง 2 ศพ ไปบำเพ็ญกุศลที่ วัดปุรณาวาส หรือวัดราชบุญธรรม แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. สวดอภิธรรม 3 วัน และทำพิธีฌาปนกิจ อังคาร ที่ 24 ธันวาคมนี้
ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ คุมตัวนายภาณุ มือปืนไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขังในข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา” พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาล เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ อัตราโทษสูง ซึ่งนายภาณุ มีสภาพอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ก้มหน้าตลอดเวลา ไม่พูดหรือให้ข้อมูลใด ๆ และตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา นายภาณุมีอาการเครียดจึงประสานภรรยามาช่วยเกลี้ยกล่อมจนผ่อนคลายขึ้น โดยเจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น แต่จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าชนวนสังหารมาจากปมขัดแย้งผลประโยชน์มรดก ขณะที่คนงานในร้านเปิดเผยว่า หลายเดือนก่อนเคยเห็นว่าคนในบ้านทะเลาะกัน บางครั้งถึงขั้นชกต่อย ขณะที่ผู้เป็นพ่อเข้าห้ามปรามก็ไม่เป็นผล แต่ไม่ทราบว่ามีปัญหาเรื่องอะไร ล่าสุดเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา ก็เพิ่งทะเลาะกัน ก่อนเกิดเหตุยิงกันขึ้น
พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รองผบก.น.6 เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้ก่อเหตุเป็นพี่คนโต ผู้ตายเป็นน้องคนที่ 3 และ 4 ทั้งหมดมีปัญหาส่วนตัว เกี่ยวกับเรื่องเงินผลประโยชน์ในครอบครัว จากการสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นทราบว่า คนก่อเหตุปัจจุบันใช้รถกระบะเก่า ส่วนผู้ตายทั้ง 2 คน ใช้รถเก๋ง ราคาหลายล้านบาท.-สำนักข่าวไทย