ปทุมธานี 4 ธ.ค.-ไฟไหม้โรงงานผลิตกล่องกระดาษย่าน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท พนักงาน 200 คน ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (3 ธ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในบริษัท เอส เอ็ม เปเปอร์ บ๊อกซ์ จำกัด เลขที่ 33/3 ถนนเลียบคลองชลประทาน (วัดสุทธาวาส) หมู่ 5 ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.ลาดหลุมแก้ว และดับเพลิงในเขตพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 40 คัน
ในที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ภายในตัวอาคารของโรงงาน ซึ่งมี 2 อาคาร โดยไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเข้าฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีลมแรงและเพลิงโหมไหม้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งมีเชื้อเพลิงเป็นกระดาษ ทำให้เพลิงลุกไหม้วอดทั้งหมด เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด ขณะเกิดเหตุมีพนักงานทำงานอยู่ 200 คน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
น.ส.กัลปังหา เฟอร์เรีย ผจก.บริษัท กล่าวว่า บริษัทแห่งนี้สร้างในเนื้อที่ทั้งหมด 36 ไร่ มีนายสามารถ อมรวรสิน เป็นเจ้าของ เป็นโรงงานรับผลิตกล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์ต่างๆ มีการสร้างเป็นตัวอาคาร 2 หลัง ก่อนเกิดเหตุพนักงานยังทำงานปกติ แต่จู่ๆ มีพนักงานตะโกนร้องว่าไฟไหม้ จึงชะโงกไปดูพบว่าบริเวณหลังโกดังอาคาร 2 ที่เก็บลังกระดาษ มีไฟไหม้ จึงให้พนักงานช่วยกันนำถังดับเพลิงมาฉีด แต่ไม่สามารถดับได้ เพราะมีลมแรง จึงต้องให้พนักงานวิ่งหนีออกมา ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นพบว่าทรัพย์สินภายในทั้งกระดาษและเครื่องจักรจำนวนหลายสิบตัวเสียหายทั้งหมด คาดว่าไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
นายแรม เพิ้งจันทร์ อายุ 66 ปี ชาวสุโขทัย ที่ขับรถบรรทุก 6 ล้อฝ่าเปลวเพลิงหนีรอดออกมาได้หวุดหวิด แต่รถถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย เล่าว่า ขณะจอดรถเพื่อรอขึ้นกล่องกระดาษอยู่บริเวณด้านข้างอาคารได้กลิ่นเหม็นไหม้ จากนั้นมีเสียงคนร้องตะโกนว่าไฟไหม้ จึงตัดสินใจรีบขับรถฝ่าออกมา แต่ถูกไฟโหมเข้ามาที่รถจนไฟไหม้ด้านข้างฝั่งคนขับเสียหาย รวมทั้งเบาะคนขับก็ถูกไฟไหม้ แต่ตนไม่มีบาดแผลหรือถูกไฟไหม้
ตำรวจตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัท ประกันวินาศภัย กรุงเทพประกันภัย และบริษัทสหนิรภัย อย่างไรก็ตาม จะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อมาตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย