กรุงเทพฯ 3 ธ.ค. – มติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา มีทั้งนักกฎหมาย และเครือข่ายผู้บริโภค ออกมาระบุว่า อาจเข้าข่ายไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนอาจถึงขั้นนำไปสู่การยื่นฟ้องนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในการทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ขณะที่นายสุริยะ ยืนยันเป็นมติตามกฎหมาย และจ่อฟ้องกลับ
มติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ให้เลื่อนการแบนพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ออกไปอีก 6 เดือน เป็นวันที่ 1 มิถุนายน 2563 และไม่แบนไกลโฟเซต แต่ให้จำกัดการใช้ โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ระบุว่าเป็นมติเอกฉันท์ แต่กลับถูกตั้งคำถามจากหลายฝ่ายว่า เป็นมติที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
อาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก อ้างถึง พ.ร.บ.วัตถุอันตราย มาตรา 12 วรรคสอง ว่า กรรมการ 1 คน มี 1 เสียง มติที่ใช้คือเสียงข้างมาก ซึ่งหมายถึงเสียงข้างมากของผู้เข้าประชุม เมื่อมีการออกเสียง ต้องมีการตรวจสอบองค์ประชุม ซึ่งตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย มาตรา 12 วรรคหนึ่ง ระบุไว้ว่า กรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม
แต่จากการที่อาจารย์จิราพร ลิ้มปานานนท์ อดีตกรรมการวัตถุอันตราย ออกมาแย้งว่า ในการประชุมไม่ได้ให้กรรมการแต่ละคนลงมติ 1 คน 1 เสียง สอดคล้องกับที่นายสุริยะให้สัมภาษณ์ไว้ คือเป็นการสันนิษฐานเอา และไม่ปรากฏว่ามีการตรวจสอบองค์ประชุมว่ามีสมาชิกมาประชุมอย่างน้อยกึ่งหนึ่งแล้วหรือไม่ มตินี้จึงมิใช่มติที่ดำเนินการถูกต้องตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย #จึงไม่ใช่มติที่ชอบด้วยกฎหมาย เท่ากับยังไม่มีมติใหม่
ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) ระบุว่า เครือข่าย 686 องค์กร และเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค เห็นตรงกันว่า การปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการประชุมของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นไปโดยมิชอบ เนื่องจากในการลงมติไม่ได้เป็นเอกฉันท์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งควรจะเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ควรเป็นผู้ยื่นคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ ซึ่งหากมีความเห็นว่าคำสั่งนั้นมีผลบังคับใช้ได้ เครือข่ายจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้เพิกถอนมติดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เครือข่ายที่เกี่ยวข้องได้เรียกร้องให้เคารพมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ให้แบนทั้ง 3 สารเคมี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา และให้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา
ล่าสุดนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ออกมาระบุว่า หากมูลนิธิชีววิถียื่นฟ้องต่อศาลปกครอง และทำให้เกิดความเสียหาย จะให้ฝ่ายกฎหมายฟ้องร้องกลับ พร้อมชี้แจงว่า ในการประชุมมีกรรมการ 3 คน เสนอให้เลื่อนออกไป 3 เดือน บางคนไม่ให้แบนและให้ใช้ได้ต่อไป ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการเสนอแนะของกรรมการ ได้ร่วมกันร่างมติ มีการปรับแก้จนพอใจทุกฝ่าย ขั้นตอนสุดท้ายยังถามที่ประชุมว่า จะปรับหรือเสนออะไรเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ที่ประชุมยังยืนยันมติให้เลื่อนออกไปอีก 6 เดือน จึงถือว่ามติดังกล่าวเป็นเอกฉันท์ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ถอดเทปการประชุมไว้แล้ว
ส่วนประเด็นที่กฎหมายวัตถุอันตราย มาตรา 12 กำหนดว่าต้องมีมตินั้น มองว่า การลงมติไม่ใช่แค่วิธียกมือเท่านั้น ในที่ประชุมได้ใช้วิธีสอบถามความเห็น เมื่อเสียงส่วนใหญ่มีความเห็น ก็ถือว่าเป็นมติ. – สำนักข่าวไทย