เร่งอัดฉีดสภาพคล่องเอสเอ็มอี

กรุงเทพฯ 13 ก.ค. – ก.อุตฯ สั่งเอสเอ็มอีดีแบงก์ปล่อยสินเชื่อเติมสภาพคล่องเอสเอ็มอีจังหวัดสมุทรปราการและใกล้เคียง คิดดอกเบี้ยต่ำ 3% ต่อปี ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อนำไปใช้เสริมสภาพคล่อง ส่งเสริมการจ้างงาน ก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19  


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดโครงการ “เติมพลัง SMEsไทย ก้าวไปด้วยกัน”  ณ เทศบาลตำบลแพรกษา จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมกับเปิดเผยว่า เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีเร่งด่วน ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมจึงให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ดำเนินโครงการ “เติมพลัง SMEsไทย ก้าวไปด้วยกัน” ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจังหวัดสมุทรปราการและใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจาก ธพว.ได้สะดวกครบถ้วนในจุดเดียว เพื่อให้มีเงินทุนไปใช้หมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง ฟื้นฟูธุรกิจ และส่งเสริมการจ้างงานในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เอสเอ็มอีทั่วประเทศรับรู้ถึงบริการสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจาก ธพว. เพื่อเข้ามาใช้บริการอย่างกว้างขวาง

ทั้งนี้ จังหวัดสมุทรปราการเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจสูง เพราะมีโรงงานอุตสาหกรรมระดับเอสเอ็มอีตั้งอยู่จำนวนมาก การลงพื้นที่จัดโครงการครั้งนี้ ธพว.ได้จัดเตรียมทีมงานให้คำแนะนำและช่วยบริการพาเข้าถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษต่าง ๆ ได้ทันที  เช่น  สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash เพื่อกลุ่มนิติบุคคลธุรกิจท่องเที่ยว วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเพียง 3% ต่อปี  ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.875% ต่อปี ใน 3 ปีแรก เป็นต้น  ในงานครั้งนี้ยังมีพิธีมอบป้ายสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จ.สมุทรปราการ ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อจาก ธพว.ในโครงการ “เติมพลัง SMEsไทย ก้าวไปด้วยกัน”  รวม 41 ราย วงเงิน 62,319,000 บาท  โดยนับแต่ต้นปีที่ผ่านมา ธพว.สนับสนุนสินเชื่อให้แก่เอสเอ็มอีในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จำนวน 431 ราย วงเงิน 565  ล้านบาท โดยเป็นการอนุมัติเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  จำนวน 250 ราย  วงเงิน 285 ล้านบาท


นายสุริยะ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงอุตสาหกรรมมอบหมายให้ ธพว.ช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  โดยดำเนินมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน ควบคู่กับเติมทุนใหม่เสริมสภาพคล่อง วงเงิน 1,700 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี อายุสัญญา 5 ปี ให้แก่เอสเอ็มอีในโครงการสินเชื่อประชารัฐต่าง ๆ  เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเป็นทุนหมุนเวียน โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 มีเอสเอ็มอีเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้เงินต้น รวม 3,123 ราย วงเงิน 6,230.27 ล้านบาท  และได้รับอนุมัติสินเชื่อใหม่ 2,364 ราย วงเงิน 534.62 ล้านบาท

นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธพว. กล่าวว่า จากที่กระทรวงอุตสาหกรรมมอบนโยบายให้ ธพว.ดำเนินโครงการ “เติมพลัง SMEsไทย ก้าวไปด้วยกัน” นั้น  ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2563 จัดกิจกรรม “SME D Services Extra Cash” หลายพื้นที่  เช่น กรุงเทพฯ  เชียงใหม่ ระยอง น่าน และนครราชสีมา เป็นต้น สามารถสร้างประโยชน์ให้เอสเอ็มอี  276 ราย พาเข้าถึงแหล่งทุนแล้ววงเงินกว่า 326 ล้านบาท และจะดำเนินการจัดอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศต่อไป

สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ  เทศบาลตำบลแพรกษา จังหวัดสมุทรปราการ และ ธพว. ภายในงานมีกิจกรรม “SME D Services Extra Cash” ซึ่งเป็นบริการ ONE Stop Services สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยพิเศษของ ธพว.ได้ครบถ้วนในจุดเดียว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

“วันนอร์” ขอตัว “ผู้กองแคท” มาช่วยราชการรัฐสภากรณีพิเศษ

กทม. 26 ก.ย.- “วันนอร์” ขอตัว “ผู้กองแคท” จากอธิบดีปกครอง มาช่วยราชการรัฐสภาเป็นกรณีพิเศษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเพจ CSILA ตั้งข้อสังเกตการเติบโตทางราชการของ ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก หรือผู้กองแคท ย้ายไปเป็น ปลัดอำเภอเมืองศรีสะเกษ ในวันที่2 ตค.68 ล่าสุดมีหนังสือด่วนที่สุดจากรัฐสภา เลขที่0001.02/4792 ลงวันที่ วันที่ 25 กันยายน 2568 ถึงอธิบดีกรมการปกครอง เรื่อง ขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ ลงนามโดยนายธงชาติ รัตนวิชาเลขานุการประธานรัฐสภา โดยมีรายละเอียดว่า ตามที่ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 นั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีความประสงค์ขอยืมตัว ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ สังกัดสำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร […]

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน”​ เข้า ก.มหาดไทย วันแรก​ มอบนโยบาย​ข้าราชการ

ก.มหาดไทย 26 ก.ย.-“อนุทิน”​ เข้ากระทรวงมหาดไทย วันแรก​ มอบนโยบาย​ข้าราชการ บอก​พักร้อนไป 2 เดือน มีความพยายามใช้อำนาจการเมืองโยกย้ายข้าราชการ ย้ำ​ถ้าวันนั้นไม่จากไป​ คงไม่มีวันนี้ที่กลับมา​ ขอ​ยึดหลักซื่อสัตย์-สุจริต ไม่เกรงกลัวอำนาจใด พร้อมรักษาความสัมพั​นธ์ ​สนับสนุนงานกัน​ ก่อนทิ้งท้ายเนื้อเพลง​ “บอกที่แล้วก็แล้วไป” เมื่อเวลา 14.50 น. นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย​ นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายศักดิ์ดา​ วิเชียรศิลป์​ และนางสาวศศิธร​ กิตติธรกุล​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ากระทรวงมหาดไทยวันแรก หลังเปลี่ยนรัฐบาลนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ​ เพื่อมอบนโยบาย​ โดยมีนายอรรถษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการระดับสูงให้การต้อนรับ ​นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบายว่า​ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ ตนดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้เรารู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้​ และตั้งใจไว้ว่าจะทำงานสนองพระเดช​ พระคุณอย่างสุดความสามารถร่วมกับพวกท่าน เหนือสิ่งอื่นใดตนมีความยินดี​ ดีใจที่ได้กลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้งในกระทรวงมหาดไทยแห่งนี้ “ในขณะที่ตนพักร้อนไป 2 เดือนกว่า ได้ทราบว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายข้าราชการ […]

เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล-สน.สามเสน

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล และ สน.สามเสน คาดวันนี้ต้องเทอีกประมาณ 200 คันรถโม่ปูน จึงจะได้ความสูงของปูนในหลุมตามแผนที่วางไว้ .-สำนักข่าวไทย

จับตาหนองหญ้าแก้ว หวั่นเขมรปลุกปั่นม็อบซ้ำรอย

สระแก้ว 26 ก.ย.- จับตาความเคลื่อนไหวชายแดนไทย-กัมพูชา “บ้านหนองหญ้าแก้ว” หวั่นม็อบเขมรปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายซ้ำรอย ชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เช้าวันนี้ กัมพูชาพาคณะทำงานประสานงานชายแดน หรือ IOT ลงพื้นที่ใกล้จุดผ่านแดน โดยมีเจ้าหน้าที่และผู้ติดตาม 50–60 คน เข้ามาสำรวจและสังเกตการณ์ในรัศมีไม่ไกลจากแนวเขตสแลนตรงจุดพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าหลังจากคณะผู้แทนกลับไปแล้ว อาจมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดการรวมตัวในหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ค่อนข้างสงบ แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะต่างมีการขยับกำลังในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่คณะ IOT ลงพื้นที่ ซึ่งถือเป็นอีกจุดที่ต้องจับตาว่าจะมีความเคลื่อนไหวตามมาหรือไม่ในช่วงค่ำและวันถัดไป -สำนักข่าวไทย

“ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง”

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “รมต.ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง” เผยหลังแถลงนโยบาย เตรียมคุยผู้บริหาร “อสมท-กรมประชาสัมพันธ์-องค์กรสื่อ” ผลักดันงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนตั้งแต่ครัวเรือนถึงรากหญ้า ในช่วงเวลา 4 เดือน ยังไม่ชัดมีรายการนายกฯ พบประชาชนหรือไม่ นางศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์ 09:09 น. เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09:45 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนางศุภมาศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะมีนโยบายผลักดันในเรื่องใดบ้างในฐานะที่เข้ามากำกับดูแลด้านสื่อสารมวลชน ว่า เพิ่งจะได้รับทราบการแบ่งงาน ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล “ถือว่ากลองดี แต่ไม่ตีก็ไม่ดัง” เพราะรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน โดยเราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4 ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชน และให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ นางศุภมาศ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกรัฐบาล หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกรัฐบาลอีกครั้ง และมีโอกาสจะได้พบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และสื่อมวลชนทั้งหมด เพื่อที่เราจะช่วยกันวางแผน รวมถึงยังต้องขอความรู้ ความร่วมมือ และความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนที่จะทำอย่างไรให้นโยบายต่างๆ ที่เตรียมไว้ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มรากหญ้า และทุกครัวเรือน […]