สอบเครียดผู้ต้องหาฆ่ายกครัว 3 ศพ คาดปมหึงหวง

เชียงราย 3 ธ.ค.- สอบเครียดผู้ต้องหาฆ่ายกครัว 3 ศพ คาดปมหึงหวง เพราะแฟนเก่าฝ่ายหญิงติดต่อมาทางไลน์


วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พร้อมชุดสืบสวน บก.สส.ภ.5 ควบคุมตัวนายนวราธร คุณะแสงคำ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าแฟนสาวพร้อมพ่อแม่ของแฟนสาวยกครัว 3 ศพ ไปยังห้องคุมขัง สภ.บ้านดู่ หลังจากนายนวราธร ถูกจับกุมได้ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.วันชัย พร้อมชุดคลี่คลายคดีได้แยกเอาตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำที่ชั้น 3 ของ สภ.บ้านดู่ เพื่อให้สำนวนมีความละเอียดที่สุด ก่อนที่ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะเดินทางไปประชุมชุดคลี่คลายคดีในวันเดียวกัน


วันเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกสอบปากคำญาติของผู้ต้องหาเป็นบิดา มารดาและแฟนเก่าของนายนวราธร ซึ่งพบว่าแต่ละคนปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลต่อสาธารณชน แต่ผลการสอบถามเบื้องต้นทราบว่านายนวราธร เคยคบหากับแฟนเก่ามาได้กว่า 5 ปีแล้วจนเกือบจะมีการจดทะเบียนสมรสกัน แต่เมื่อ น.ส.สวรส กิมสี ได้กลับจากการไปทำงานที่กรุงเทพฯ และไปอาศัยอยู่ที่ภูมิลำเนาเดิมที่ จ.เชียงราย ได้ประมาณ 2-3 เดือน ก็ได้มีโอกาสพบปะกับนายนวราธร จนกลายเป็นแฟนใหม่ของผู้ต้องหา กระทั่งมาเกิดเหตุยิง นางสาวสวรส และพ่อแม่ภายในบ้านจนเสียชีวิตคาบ้านดังกล่าว

จากการสืบสวนทราบว่าสาเหตุที่ก่อเหตุมาจากเรื่องความหึงหวง โดยมีรายงานว่าหลังจาก น.ส.สวรส คบหากับนายนวราธรแล้วก็เลิกการคบหากับชายหนุ่มที่ผ่านๆ มาไปหมดแล้ว แต่ปรากฏว่ายังมีผู้ชายที่อาจจะเคยคบหาติดต่อไปหาทางไลน์อยู่ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ต้องหาเกิดอาการหึงหวง และใช้ปืนที่พกติดตัวจ่อยิงในระยะเผาขนภายในห้องนอน จากนั้นเกรงว่าพ่อแม่ของฝ่ายหญิงจะไปแจ้งญาติและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงก่อเหตุยิงทั้งหมดภายในบ้านเพื่อปิดปากก่อนจะจับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวหลบหนีไปทาง จ.เชียงใหม่ และถูกจับกุมได้ดังกล่าว


ในการจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดรถยนต์เก๋งที่ใช้หลบหนีเป็นยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีดำ หมายเลขทะเบียน กอ 8068 เชียงราย มาไว้เป็นของกลางและหลังสอบปากคำทั้งหมดแล้วหากผู้ต้องหายอมรับสารภาพก็จะมีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในบ้านที่เกิดเหตุต่อไปอีกด้วย

ล่าสุด พลตำรวจเอกสุชาติ  ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเดินทางมาถึง สภ.บ้านดู่ แล้วเข้าร่วมประชุมลับกับพนักสอบสวนจากคดีดังกล่าว ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กล่าวชมเชยการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมของ กองกำกับการสืบสวน จว.เชียงราย และ กองบัญชาการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกภาคส่วนที่บูรณาการการทำงานร่วมกัน จนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย