สรท.ปรับลดคาดการณ์ส่งออกปีนี้ติดลบร้อยละ 2.5-3

กรุงเทพฯ 3 ธ.ค. – สรท.ปรับลดคาดการณ์ส่งออกปี 62 ติดลบร้อยละ 2.5-3  แนะแบงก์ชาติดูแลไม่ให้เงินบาทแข็งค่าไปมากกว่านี้  ส่วนปี 63 คาดว่าส่งออกไม่โตหรือโตเล็กน้อยร้อยละ 1 


นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ( สรท.) เปิดเผยว่า สรท.ปรับคาดการณ์การส่งออกปี 2562 ใหม่ คาดว่าจะหดตัวลงร้อยละ  2.5 ถึงติดลบร้อยละ 3  อยู่บนสมมติฐานว่าค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33 บาท บวกลบ 0.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนปี 2563 คาดการณ์ว่าจะเติบโตร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 1 บนสมมติฐานค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.50  บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ไม่พบปัจจัยบวก 

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออก ด้านปัจจัยต่างประเทศ  เรื่องสงครามการค้ายังมีความกังวลต่อท่าทีในการลงนามเฟสที่ 1 เนื่องจากยังมีหลายประเด็นที่ไม่สามารถตกลงร่วมกันได้ เช่น การสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐและทรัพย์สินทางปัญญา ประกอบกับสหรัฐประกาศสนับสนุนผู้ชุมนุมประท้วงในฮ่องกง ซึ่งเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนโดยตรงและหากไม่สามารถตกลงกันได้ สหรัฐอาจปรับเพิ่มภาษีตามกำหนดการเดิม คือ วันที่ 15 ธันวาคมนี้ มูลค่า 160,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอัตราภาษีร้อยละ 15 ขณะที่จีนขอให้สหรัฐพิจารณาลดภาษีสำหรับสินค้าที่มีการปรับขึ้นไปแล้วก่อนหน้านี้


ปัจจัยที่ 2 มาตรการ IMO Low Sulphur 2020 :จะมีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2563 ส่งผลให้เรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเริ่มออกประกาศอัตราเรียกเก็บเพิ่มค่า Bunker Surcharge ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเพิ่มขึ้นของค่าระวางในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและกระทบต่อต้นทุนโดยรวมของผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้า 

ปัจจัยที่ 3  ปัจจัยในประเทศ เนื่องจากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่ยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง เนื่องจากเงินบาทยังคงถูกมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นเดียวกับค่าเงินเยนของญี่ปุ่น ส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อการชะลอตัวภาคการส่งออกทุกกลุ่มสินค้า ปัจจัยที่ 4 เศรษฐกิจภายในประเทศมีแนวโน้มชะลอตัวเห็นได้จากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี ไตรมาส 3 ปีนี้ขยายตัวเพียงร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 2.6 

ปัจจัยที่ 5 แนวโน้มการเรียกเก็บภาษี ซึ่งเป็นต้นทุนผู้ประกอบการมีมากขึ้น เนื่องจากภาครัฐต้องการเพิ่มรายได้สำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ ปัจจัยที่ 6 กฎหมายและมาตรการภาครัฐที่กำหนดเพิ่มเติมในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว นับเป็นการลดทอนความสามารถในการแข่งขันของภาคส่งออก อาทิ แนวคิดการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การแบนสารเคมีการเกษตรการเรียกเก็บภาษีความหวานและความเค็ม


นางสาวกัณญภัค กล่าวว่า  สรท.มีข้อเสนอแนะให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรบริหารจัดการค่าเงินบาทด้วยมาตรการที่เข้มข้นไม่ให้เงินบาทแข็งค่าไปมากกว่านี้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากรต้องสนับสนุนรูปแบบการชำระค่าใช้จ่ายเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินบาท เพื่อลดความสูญเสียจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน ทางกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง ควรให้ความสำคัญมากขึ้นกับการพลิกฟื้นการส่งออกในฐานะกลไกสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยต้องกำหนดมาตรการเร่งด่วน เพื่อลดต้นทุนการผลิตและโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ และภาครัฐควรสนับสนุนผู้ประกอบการในเรื่องการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงานให้เป็นพลังงานสะอาดหรือพลังงานทางเลือก เป็นต้น

นางสาวกัณญภัค กล่าวเพิ่มเติมว่า สรท.มีความกังวลต่อการชะลอตัวของการส่งออกไทย เนื่องจากเป็นเครื่องจักรสำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น หากการส่งออกชะลอตัวหรือหดตัวจะทำให้เกิดผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นลูกโซ่ เช่น การผลิตลดลงจะส่งผลต่อการจ้างงานและรายได้ครัวเรือน ค่าใช้จ่ายและต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับรายรับที่ลดลงจะทำให้เม็ดเงินที่กลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจน้อยลง มีเงินหมุนเวียนสำหรับการบริโภคภาคเอกชนลดลง ส่งผลต่อเนื่องไปถึงการชะลอตัวของจีดีพี ในที่สุด จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญมากขึ้นกับการส่งเสริมผู้ประกอบการและสินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย