สปสช.หนุนนนโยบาย สธ.ปฏิรูปห้องฉุกเฉิน

สปสช.30 พ.ย.-สปสช.หนุน สธ.นำร่อง “ห้องฉุกเฉินคุณภาพ” ใน 21 รพ. เริ่ม 1ธ.ค.นี้ โดยแยกจัดบริการนอกเวลาราชการ ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตและผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง พร้อมเพิ่มรายการบริการใหม่ “บริการผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรงนอกเวลาราชการ” ดูแลประชาชนเข้าถึงบริการเพิ่ม ลดความขัดแย้งวินิจฉัยกรณีฉุกเฉิน


นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)กล่าวว่า จากที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบในหลักการตามข้อเสนอ “แนวทางการปฏิรูปห้องฉุกเฉิน” ของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) โดยเพิ่มรายการบริการใหม่ กรณีผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วนและเหตุสมควรอื่นกรณีเจ็บป่วยทั่วไปที่เป็นความจำเป็นของประชาชนที่เข้ารับบริการนอกเวลาราชการ เนื่องจาก สปสช.ได้มองเห็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการดูแลผู้ป่วยที่ห้องฉุกเฉินที่มีทั้งกลุ่มผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติและผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วนต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว และกลุ่มผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วน  แต่ในมิติของชาวบ้านจะรู้สึกเป็นความฉุกเฉินที่ต้องได้รับบริการโดยเร็วเช่นกัน  ส่งผลให้ที่ผ่านมาเกิดความแออัดในห้องฉุกเฉิน ทำให้ผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่มไม่ได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วนและวิกฤต ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขหน่วยงานหลักในเรื่องนี้ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) และ สปสช.จึงได้ร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบบริการห้องฉุกเฉินเพื่อแก้ไขปัญหา


นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่าเบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุขได้นำร่องห้องฉุกเฉินคุณภาพในโรงพยาบาล 21 แห่ง และจะดำเนินการให้ครบ 34 แห่งภายในปี 2563 ซึ่งจะมีการแยกห้องบริการให้ชัดเจน คือ ห้องฉุกเฉินคุณภาพที่ให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตและเร่งด่วน ภายในห้องนี้จะมีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบครันเพื่อดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตและเร่งด่วนได้อย่างเต็มที่ และห้องฉุกเฉินไม่เร่งด่วนที่ดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ไม่รุนแรงและเหตุสมควรอื่นกรณีเจ็บป่วยทั่วไปที่เป็นความจำเป็นของประชาชน ผลที่เกิดขึ้นนอกจากทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินทั้ง 2 กลุ่ม ได้รับบริการที่ดีและมีมาตรฐานแล้ว ยังช่วยลดความเห็นที่ไม่ตรงกันที่นำมาสู่การเผชิญหน้า ทั้งทำให้เกิดความเข้าใจระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการมากขึ้น ตอบโจทย์ต่อสถานการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้นได้   

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการดูแลผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บัตรทอง)ให้ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วนและเหตุสมควรอื่นกรณีเจ็บป่วยทั่วไปที่เป็นความจำเป็นของประชาชนที่เข้ารับบริการช่วงนอกเวลาราชการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย บอร์ด สปสช.ยังได้ขยายการชดเชยค่าบริการให้ครอบคลุมส่วนนี้ เริ่มวันที่ 1ธันวาคม 2562 ในอัตราการจ่ายชดเชยค่าบริการ 150 บาทต่อครั้ง โดยปีงบประมาณ 2563 คาดว่าจะมีจำนวนการรับบริการ 1.05 ล้านครั้ง เป็นงบประมาณไม่เกิน 157.50 ล้านบาท เป็นการคาดการณ์จากข้อมูลในปีที่ผ่านมา 


“สปสช.เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาระบบบริการให้มีมาตรฐาน ในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายบริการผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วนและเหตุสมควรอื่นนอกเวลาราชการ โดยกระทรวงสาธารณสุขดูแลในส่วนพัฒนาอาคารสถานที่และการเชื่อมโยงข้อมูลการแพทย์ฉุกเฉิน งบประมาณ151.5 ล้านบาท ขณะที่ สพฉ.จะดำเนินการในส่วนค่าตอบแทนบุคลากร ทั้งแพทย์และพยาบาลเวชศาสตร์ฉุกเฉิน งบประมาณ 492.74 ล้านบาท การดำเนินการเมื่อครบทั้ง 3 ส่วนแล้ว เชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์บริการในห้องฉุกเฉินและการดูแลผู้ป่วยนอกเวลาดีขึ้น” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวและว่า การจ่ายชดเชยค่าบริการในรายการใหม่นี้ ขอให้เป็นกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วนและผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องรับบริการนอกเวลาราชการเท่านั้น เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่การบริการของโรงพยาบาลมีข้อจำกัดในด้านจำนวนบุคลากร และการบริการตรวจวินิจฉัยต่างๆ ซึ่งต่างจากการบริการในช่วงเวลาปกติ

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับญาติที่มาดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น ขณะนี้มีโรงพยาบาลหลายแห่งได้จัดระบบมาตรฐานแล้ว โดยติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ที่หน้าห้องฉุกเฉิน เช่น โรงพยาบาลชลบุรี โรงพยาบาลระยอง เพื่อให้ญาติผู้ป่วยรับทราบว่าผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างไรบ้าง .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทักษิณเหยียดผิว

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน ชี้เสี่ยงทำประเทศไทยถูกนานาชาติตั้งคำถาม ขัดหลักการสิทธิมนุษยชน

ข่าวแนะนำ

ซิงซิงดาราจีน

จนท.นำตัว “ซิงซิง” ถึง กทม.แล้ว ขอบคุณรัฐบาลไทยช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่นำตัว “ซิงซิง” ดาราหนุ่มจีน วัย 32 ปี เดินทางถึงกองบินตำรวจ 3 ย่านดอนเมือง หลังพบตัวที่ฝั่งเมียนมา เจ้าตัวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่าปลอดภัยดี เผยรอยที่ขาคือปาน ไม่ใช่แผลจากการถูกทำร้าย

ยิงกระสุนยางสยบชายคลั่งทำร้ายภรรยา-จับลูก 5 ขวบ ขังในบ้าน

ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง สยบชายคลั่งซ้อมภรรยา และจับลูกวัย 5 ขวบ เป็นตัวประกันขังไว้ในบ้าน ขู่ตัดสายแก๊สฆ่ายกครัว

รับตัว “ซิงซิง” จากเมียนมากลับฝั่งไทยแล้ว

เจ้าหน้าที่รับตัว “ซิงซิง” นักแสดงจีน จากเมียนมาข้ามมาฝั่งไทยแล้ว หลังหายตัวลึกลับจนญาติแจ้งความที่จีน พบโผล่ที่ไทยและข้ามแดนไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมียนมา ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำจุดประสงค์การข้ามแดน หลังไม่พบข้อบ่งชี้ถูกบังคับ โดยเจ้าตัวจ้างแท็กซี่จากสนามบินไปชายแดน อ.แม่สอด ด้วยตนเอง

พระราชพิธีสมมงคล

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้ ทั่วประเทศ พร้อมเลื่อนประชุม ครม. สัปดาห์หน้า เป็นวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. แทน