สปสช.แจ้งประชาชนสิทธิบัตรทอง เดินทางหยุดยาวปีใหม่

สปสช.26 ธ.ค.-“อนุทิน”ห่วงประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ระมัดระวังอุบัติเหตุเดินทาง เพิ่มความเข้มข้นระบบ UCEP พร้อมรองรับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ด้านเลขาฯสปสช.แนะผู้มีสิทธิบัตรทอง หากเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตเข้ารักษาได้ทุก รพ.ที่อยู่ใกล้ หากไม่ถึงขั้นวิกฤติแต่จำเป็นต้องรับการรักษา ใช้สิทธิรักษา ม.7พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ย้ำเข้า รพ.รัฐ ใกล้สุดไว้ก่อน


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  กล่าวว่า ในการดูแลผู้ป่วยเจ็บป่วยวิกฤตฉุกเฉินเป็นไปตามที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้วางระบบรองรับการรักษาพยาบาลที่เป็นมาตรฐานไว้ ซึ่งได้ดำเนินการมาโดยตลอด โดยครอบคลุมดูแลประชาชนทุกสิทธิ เพียงแต่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 นี้ จะมีความเข้มข้นในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์เพิ่มขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจ โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ขอให้ประชาชนทั้งที่เดินทางกลับบ้านและท่องเที่ยวระมัดระวังอุบัติเหตุในการเดินทาง แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัย หน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ได้เตรียมความพร้อมเพื่อดูแลและช่วยเหลือ

ทั้งนี้ในส่วนนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่ หรือ UNIVERSAL COVERAGE FOR EMERGENCY PATIENTS (UCEP) ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างดี ทั้งจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการ เรียกได้ว่ามีปัญหาและมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาน้อยมาก รวมถึงปัญหาการเรียกเก็บเงินจากผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินในช่วง 72 ชั่วโมงแรก ประชาชนส่วนใหญ่พอใจ  ซึ่งเป็นอย่างที่นายกรัฐมนตรีเคยกล่าวไว้ว่าใน 100 ราย อาจมีผู้ไม่พอใจเพียง 1 รายเท่านั้น แต่เราก็แก้ไขปัญหาให้ลุล่วง ซึ่งขอให้ประชาชนทุกคนระมัดระวังการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้    


ด้าน นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 นี้ เป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว ประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางกลับบ้านและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลนี้ โดยในระหว่างนี้ประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือ “สิทธิบัตรทอง” หากมีความจำเป็นต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล แบ่งเป็น   2 กรณี คือ

1.กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤติที่หากไม่รักษาทันทีมีโอกาสเสียชีวิตสูง สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ที่สถานพยาบาลทุกแห่งที่อยู่ใกล้สุด ตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิ์ทุกที่ และให้สถานพยาบาลที่ให้การรักษาเบิกค่าใช้จ่ายจาก สปสช.ตามอัตราที่กำหนด 

2.กรณีเจ็บป่วยที่ไม่ใช่ฉุกเฉินระดับวิกฤติ หรือผู้มีสิทธิบัตรทองที่เดินทางไปต่างถิ่นแล้วมีความจำเป็นต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล เช่น ความดันโลหิตขึ้นสูง ปวดศีรษะมาก ท้องเสียรุนแรง เป็นต้น เป็นภาวะที่ไม่ถึงขั้นฉุกเฉินแก่ชีวิต กรณีนี้ เป็นไปตามข้อบังคับ สปสช.ว่าด้วยการใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขกรณีที่มีเหตุสมควร กรณีอุบัติเหตุหรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 ระบุว่า ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองหากมีเหตุสมควร หรือกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉิน หรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลอื่นที่ไม่ได้ลงทะเบียนหน่วยบริการประจำและสถานพยาบาลที่ไม่ได้เข้าร่วมให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามมาตรา 7 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ทั้งนี้ขอแนะนำให้เข้ารับบริการที่สถานพยาบาลของรัฐและสถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อน ไม่มุ่งเจาะจงเข้าสถานพยาบาลเอกชนเท่านั้น เนื่องจากการเบิกจ่ายค่ารักษาจะเป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้


“ในการเข้ารับบริการรักษาพยาบาลฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้เพื่อความสะดวก นอกจากการเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนที่เป็นหลักฐานสำคัญแล้ว ควรศึกษาข้อมูลหน่วยบริการที่อยู่ในพื้นที่ระหว่างเดินทางและจุดหมายปลายทาง เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญในการเข้ารับการรักษาพยาบาลยังหน่วยบริการที่ใกล้ที่สุดโดยเร็วและเพื่อความไม่ประมาท ส่วนประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหอบหืด เป็นต้น ควรเตรียมพร้อมยารักษาโรคเพื่อให้เพียงพอสำหรับการเดินทาง” เลขาธิการ สปสช. กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยประเทศอาเซียนส่งข้อเสนอถึงสหรัฐ รอคุยกำแพงภาษี

มาเลเซีย 27 พ.ค.- นายกฯ ระบุประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 ไทยได้ประโยชน์ ร่วมมือแก้ปัญหาอาเซียน-จับเข่าคุยกับประเทศอาหรับ-จีน มั่นใจสร้างความมั่นคง มั่งคั่งระหว่างกัน เผยประเทศอาเซียนส่งข้อเสนอถึงสหรัฐ รอนัดคุยกำแพงภาษี ยันไทยไม่ช้าเกินไป นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 46 ณ กรุงกลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่า พอใจผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยมีผลสำเร็จสำคัญ 2 ประการ คือ 1) อาเซียนได้ลงนามและตกลงในปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยอาเซียน 2045: อนาคตร่วมกันของเรา (Kuala Lumpur Declaration on ASEAN 2045: Our Shared Future) เพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ฉบับใหม่ที่กำหนดทิศทางการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนในอีก 20 ปีเพื่อรับรองวิสัยทัศน์นี้ 2) เป็นครั้งแรกที่มีการประชุม 3 ฝ่าย ระหว่าง อาเซียน คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ(GCC) […]

น้ำหลากจากดอยอินทนนท์ทะลักท่วมชุมชนริมน้ำ

เชียงใหม่ 27 พ.ค. – จ.เชียงใหม่ ยังมีฝนตกหนักเป็นระยะ โดยเฉพาะบนดอยอินทนนท์ ปริมาณฝนตกมากกว่า 130 มิลลิเมตร ทำให้มวลน้ำมหาศาลไหลหลากลงสู่น้ำตกและลำน้ำหลายสาย ทะลักท่วมบ้านเรือนในชุมชนริมน้ำ อ.จอมทอง ชาวบ้านกังวลน้ำจะท่วมใหญ่เหมือนปีที่แล้ว ขณะที่อำเภอทางตอนเหนือของเชียงใหม่ ถนนถูกน้ำป่ากัดเซาะจนเส้นทางขาด ต้องใช้การเดินเท้าขนย้ายผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลอย่างทุกลักทุกเล.-สำนักข่าวไทย

KNLA บุกโจมตีฐานทิบาโบ ชาวเมียนมาอพยพข้ามมาฝั่งไทย

ตาก 27 พ.ค.- เดือดอีก กองกำลัง KNLA บุกโจมตีทหารเมียนมา ถล่มฐานทิบาโบ ผู้หนีภัยสู้รบในเมียนมาหลายร้อยคน อพยพข้ามมาฝั่งไทย พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) เปิดเผยว่า ตลอดช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่ายวันนี้ กองกำลังปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง (กกล.KNLA) รวมกำลังเข้าโจมตีทหารเมียนมา ที่ฐานทิบาโบ บ.ทิบาโบ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา โดยใช้โดรนโจมตีทางอากาศ ทิ้งระเบิด, จรวด, ปืนกล และปืนซุ่มยิง ด้านทหารเมียนมาใช้เครื่องยิงลูกระเบิดตอบโต้อย่างหนัก บริเวณฝั่งตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก ส่งผลให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) อพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 3 แห่ง รวม 290 คน รายละเอียดดังนี้ โดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กกล.นเรศวร ร่วมกับฝ่ายปกครอง ,จนท.ตร.สภ.พบพระ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ที้งนี้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู […]

น้ำท่วมภูกระดึง จ.เลย บ้านจมกว่า 150 หลัง

เลย 27 พ.ค. – บ้านเรือนใน อ.ภูกระดึง จ.เลย ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 150 หลังคาเรือน หลังฝนตกต่อเนื่อง ด้าน ปภ.แจ้งเตือนน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่งริมแม่น้ำพอง กระทบ ต.ภูกระดึง และ ต.ศรีฐาน ให้ยกของขึ้นที่สูง เคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางไปอยู่ในที่ปลอดภัย สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 ตำบลของ อ.ภูกระดึง จ.เลย บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 150 หลังคาเรือน หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ระดับแม่น้ำพองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านติดริมแม่น้ำ จากภาพมุมสูงจะเห็นได้ว่าลำน้ำพองที่ไหลลงมาจาก อ.ภูกระดึง และลำน้ำพองโก ที่ไหลมาจากด้านหลังของอุทยานฯ ไหลมารวมกันที่แม่น้ำพอง มวลน้ำทั้งหมดนี้ไหลผ่าน ต.ผานกเค้า ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง จ.เลย และ จ.ขอนแก่น จนถนนถูกตัดขาดหลายสาย ส่วนที่โรงเรียนชุมชนผานกเค้า ครูอนุญาตให้เด็กอนุบาลกลับบ้านได้ พร้อมช่วยกันขนย้ายอุปกรณ์การเรียนขึ้นไว้บนที่สูง เพราะเป็นจุดต่ำที่สุด อีกทั้งลำน้ำพอง อยู่ด้านหลังติดกับโรงเรียน ด้าน ปภ. ส่งข้อความเตือนน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่งริมแม่น้ำพอง […]