นนทบุรี 30 พ.ย. – พาณิชย์เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอฟทีเอไทย – ตุรกี เร่งถกลด-เลิกภาษี ตั้งเป้าดันการค้า 2 ฝ่าย 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 63
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจาความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ไทย – ตุรกี รอบที่ 6 ระหว่างวันที่ 2 – 4 ธันวาคม 2562 กรุงเทพฯ โดยการเจรจารอบนี้จะเน้นหารือเรื่องการเปิดตลาด ลดและยกเลิกภาษีศุลกากรในการค้าสินค้าระหว่าง 2 ประเทศ รวมทั้งการจัดทำข้อบทเอฟทีเอต่อเนื่องจากการประชุมรอบที่แล้ว เบื้องต้นคาดว่า ความตกลงฉบับนี้จะประกอบด้วย 11 ข้อบท เช่น การค้าสินค้า กฎถิ่นกำเนิดสินค้า มาตรการเยียวทางการค้า พิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า มาตรการสุขอนามัย และอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า เป็นต้น โดยตั้งเป้าสรุปผลการเจรจาภายในปี 2563
นางอรมน กล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญกับการจัดทำเอฟทีเอกับตุรกี เนื่องจากตุรกีถือเป็นตลาดศักยภาพที่มีประชากรกว่า 80 ล้านคน มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 40 ล้านคนต่อปี รวมทั้งตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์การค้าที่สำคัญสามารถเป็นประตูสู่ 3 ทวีป ได้แก่ เอเชีย แอฟริกา และยุโรป ซึ่งคาดว่าการจัดทำความตกลงเอฟทีเอไทย – ตุรกี จะช่วยดันมูลค่าการค้า 2 ฝ่ายขยายตัวจาก 1,427 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 เป็น 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 ตามที่รัฐมนตรีด้านการค้าของทั้ง 2 ประเทศตั้งเป้าไว้ โดยสินค้าสำคัญที่คาดว่าไทยน่าจะได้รับประโยชน์จากเอฟทีเอ เช่น สิ่งทอ ยานยนต์และชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์อินทรีย์ พลาสติกและผลิตภัณฑ์จากพลาสติก ยางและผลิตภัณฑ์จากยาง หม้อไอน้ำ เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผักและผลไม้เมืองร้อน เป็นต้น
ทั้งนี้ ตุรกีเป็นคู่ค้าอันดับที่ 36 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยปี 2561 ทั้ง 2 ประเทศมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 1,427 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออกจากไทยไปตุรกี 1,082 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้าจากตุรกี 345 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เส้นใยประดิษฐ์ ยางพารา และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญของไทย เช่น เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องประดับ อัญมณี และรถไฟ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย