fbpx

เลื่อนแต่งดำบุกทำเนียบเร็วขึ้นเป็น 26 พ.ย.

กรุงเทพฯ 22 พ.ย. – เกษตรกรทั่วประเทศลั่นแต่งดำเข้าพบนายกฯ ที่ทำเนียบฯ 26 พ.ย. ก่อนคณะกรรมการวัตถุอันตรายประชุม 27 พ.ย. ด้านผู้ประกอบการสารเคมีทางการเกษตร ระบุ รมช.เกษตรฯ ไม่เข้าใจข้อจำกัดการส่งสารเคมีคืนบริษัทว่าเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากผู้นำเข้าปรับสูตรให้เหมาะสมกับการใช้ในประเทศ โดยขึ้นทะเบียนถูกต้องต่อกรมวิชาการเกษตร ไม่ใช่ผสมมั่ว ไร้การควบคุมอย่างที่กล่าวหา


นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า เกษตรกรที่เดือดร้อนจากการยกเลิกใช้พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอสทั่วประเทศ พร้อมใจกันแต่งชุดดำ เพื่อเข้าร้องเรียนถึงความเดือดร้อนต่อนายกรัฐมนตรีวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ โดยเลื่อนจากเดิมที่นัดหมายวันที่ 28 พฤศจิกายน ทั้งนี้ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาก่อนที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายจะประชุมวันที่ 27 พฤศจิกายน 

สำหรับการยื่นข้อร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีครั้งนี้จะนำข้อมูลการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรรมเรื่อง การยกเลิกใช้ 3 สารที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรฯ ยกร่างประกาศและเปิดรับฟังความคิดเห็น ล่าสุดนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า มีผู้ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกถึงร้อยละ 75 จากผู้แสดงความคิดเห็นประมาณ 40,000 คน ซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องพิจารณาประกอบก่อนลงนามยกเลิก เพราะผลการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวสะท้อนว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้จำนวนมาก


ด้านสมาคมอารักขาพืชไทย สมาคมฯ นวัตกรรมเกษตรไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจออกแถลงการร่วมหลังประชุมกับ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า สมาคมฯ ไม่เห็นด้วยต่อการแบนสารเคมีทางการเกษตรทั้ง 3 ชนิด เนื่องจากตามที่ได้มีการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 สิ้นสุดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จากการออกความเห็นผ่านช่องทางออนไลน์มีผู้ไม่เห็นด้วยกับการแบนร้อยละ 58 และเห็นด้วยร้อยละ 42 ส่วนการรวบรวมผลการรับฟังความคิดเห็นผ่านแบบสอบถามของเกษตรกรที่ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์ได้มีผู้ไม่เห็นด้วยต่อการแบนคิดเป็นร้อยละ70 นอกจากนี้ไม่มีมาตรการรองรับการยกเลิกหรือชี้แจงให้ผู้มีผลกระทบรับทราบเพื่อเตรียมการแต่อย่างใด รวมถึงการกำหนดให้ผู้เสียหายรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายในการทำลายสารเหล่านี้เองนั้น ถือเป็นความอยุติธรรมอย่างยิ่ง เนื่องจากสารเคมีทางการเกษตรทั้ง 3 ชนิดได้รับการขึ้นทะเบียนโดยกรมวิชาการเกษตรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เมื่อมีมติให้แบนสารดังกล่าว โดยมีผลทางกฎหมายวันที่ 1 ธันวาคมนี้ สารทั้ง 3 ชนิดจะกลายเป็นสารที่ผิดกฎหมายทันที ดังนั้น เมื่อภาครัฐมีมติให้แบนจึงหมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ถูกกฎหมายจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย รัฐต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการชดเชยความเสียหายทั้งหมด ค่าใช้จ่ายในการเก็บส่งรัฐ ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา และค่าใช้จ่ายในการทำลาย จึงไม่ควรผลักภาระนี้ให้เอกชนและเกษตรกรรับผิดชอบเอง 

ทั้งนี้ สมาชิกของทั้ง 3 สมาคมปฏิบัติตามหลักกฎหมายอย่างดีเสมอมา ตั้งแต่ที่กรมวิชาการเกษตรมีมาตรการลดปริมาณการนำเข้า ฝึกอบรมผู้ใช้ ผู้ขาย ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติตามสากล ดังนั้น การจัดการสินค้าทั้งระบบซึ่งมีปริมาณมากกว่า 3๐,๐๐๐ ตัน จะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการจัดการสินค้า โดยเทียบเคียงกับที่ผ่านมาประมาณ 2 ปี ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในฤดูเพาะปลูกหลักและลดความเสียหายสำหรับภาคเกษตรอุตสาหกรรม ระยะเวลาที่กำหนดให้เก็บผลิตภัณฑ์นำส่งรัฐภายใน 15 วันนั้นเป็นระยะเวลาที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง การสืบและพิสูจน์สตอกสินค้าโดยปกติแล้วใช้ระยะเวลาอย่างต่ำ 6 เดือน ทั้งนี้ ยังไม่รวมถึงระยะเวลาในการเรียกเก็บคืนและนำส่งเพื่อทำลาย

ส่วน น.ส.มนัญญา จะให้ส่งออกกลับคืนประเทศต้นทางหรือประเทศที่ 3 นั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่อนำเข้ามาแล้วมีการนำมาปรับสูตร เพื่อให้เหมาะสมกับปัญหาของวัชพืชและศัตรูพืชในประเทศ ไม่ได้เป็นการผสมสารอื่นอย่างไร้การควบคุมและไม่ตรงประสิทธิภาพตามที่ น.ส.มนัญญา กล่าวหา ยิ่งไปกว่านั้น คือ เมื่อปรับให้เป็นวัตถุอันตรายประเภท 4 ซึ่งถือเป็นของผิดกฎหมายไทย จึงไม่มีประเทศใดรับให้นำเข้าประเทศได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Made in Thailand แดนไทยเท่ : เสน่ห์ผ้าทอชาวเขา สู่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเชียงใหม่

ผ้าทอชาวเขาและเครื่องแต่งกายชนเผ่าต่างๆ ของไทยที่มีลวดลายสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใคร ทำให้ดีไซเนอร์ชาวเชียงใหม่ นำมาออกแบบตัดเย็บ กลายเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่ทันสมัย

ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้องกรณีนักศึกษาไม่ได้รับเงิน

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.-ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้อง กรณีนักศึกษา ไม่ได้รับเงิน ยืนยันโอนเงินให้เแล้ว 

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้โกดังกระดาษดับหมดแน่คืนนี้ เสียหาย 500 ล้าน

เหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บกระดาษรีไซเคิล จ.สมุทรสาคร คุมเพลิงได้แล้ว 90% คาดดับไฟได้หมดภายในคืนนี้ ประเมินความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ด้านเจ้าของพร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

“นายกฯ-แพทองธาร” ขึ้นเวทีเพื่อไทย ยันเงินดิจิทัลได้แน่

“นายกฯ-แพทองธาร” ขึ้นเวทีเพื่อไทยพบประชาชน ขอบคุณชาวร้อยเอ็ด เลือก สส. ให้ได้เป็นรัฐบาล ย้ำเดินหน้าแก้ปัญหาภัยแล้ง-ยาเสพติด ยันดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่สิ้นปีนี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเดินหน้าช่วยประชาชนทุกมิติ

นายกฯ พบชาวบ้านมหาสารคาม ย้ำชัดเงินดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่ไตรมาส 4 ยืนยันรัฐบาลเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนในทุกๆ มิติ ทั้งภัยแล้ง ยาเสพติด หนี้นอกระบบ

ปภ.นำเฮลิคอปเตอร์บินโปรยน้ำดับไฟป่าห้วยตึงเฒ่า

เจ้าหน้าที่ ปภ. นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินโปรยน้ำดับไฟป่าหลังอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า และพื้นที่สวนลำไยของชาวบ้าน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่