กรุงเทพฯ 20 พ.ย. – พาณิชย์เร่งจับคู่ธุรกิจ หวังขยายตลาดสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าว และสินค้าเกษตรอื่น ๆ สู่ตลาดโลก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานสักขีพยาน การทำข้อตกลง MOU ในงานการจับคู่ธุรกิจ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ วันนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกและใช้เวทีการเจรจาการค้าโครงการจับคู่ธุรกิจสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป เบื้องต้นมูลค่าจากการจัดโครงการจับคู่ธุรกิจ (Bisiness Matching) สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป 232.6 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,980 ล้านบาท
ทั้งนี้ แบ่งเป็นการเจรจาจากการลงนาม MOU ระหว่างบริษัทไทยและคู่ค้าต่างประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ จีน และอินเดีย จำนวน 14 ฉบับ มูลค่าการซื้อขาย 138.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,160 ล้านบาท ประกอบด้วย สินค้าข้าว ได้แก่ ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวหอม ข้าวขาว ข้าวเหนียว ปริมาณรวม 145,000 ตัน ภายใน 1 ปี สินค้าผลไม้อบแห้ง มะพร้าวอบแห้ง มะม่วงอบแห้ง 500 ตู้ ภายใน 5ปี สินค้ามะขามหวาน 20 ตู้ ภายใน 1 ปี การลงนาม MOU ข้อตกลงซื้อขายสินค้าเกษตรระหว่างกรมฯ กับ Bigbasket.com (บริษัท Supermarket Grocery Supplies Pvt. Ltd.) 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 150 ล้านบาท ภายใน 2 ปี และคาดว่าจะมีมูลค่าการค้าภายในงานเจรจาจับคู่ธุรกิจ 94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,820 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นในช่วงการเป็นประธานเปิดโครงการจับคู่ธุรกิจสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป และถือว่าเป็นวันพิเศษของประเทศไทยที่กระทรวงพาณิชย์ได้มีโอกาสจัดให้มีการพบปะกันระหว่างผู้ส่งออกของไทยและผู้นำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ที่มาจากประเทศจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อาเซีย ตะวันออกกลาง สหภาพยุโรป (อียู) อเมริกา และแอฟริกา รวม 176 บริษัท ขณะเดียวกันมีบริษัทจากประเทศไทยที่เป็นผู้ส่งออกมารวมกันอยู่ในที่นี้ 150 บริษัท เพื่อเจรจาทำธุรกิจกันก่อให้เกิดการซื้อขายระหว่างกันสามารถคำนวณเป็นตัวเลขส่งออกของประเทศไทยได้ในทันที และได้วางแผนปีหน้าจะเดินหน้าผลักดันภาคการส่งออกมากขึ้น และวางเป้าหมายโดยเฉพาะกลุ่มผลไม้สดและผลไม้แปรรูปของไทยไปตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งมีประเทศเป้าหมาย ได้แก่ จีน อินเดีย รัสเซีย และอีกหลายประเทศ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย