ส.ว.ตั้งกระทู้ถาม เรื่องขยายอายุเกษียณราชการ 70 ปีบริบูรณ์

รัฐสภา 18 พ.ย.-ส.ว.ตั้งกระทู้ถามด้วยวาจาเรื่องการขยายอายุเกษียณราชการ 70 ปีบริบูรณ์ ด้าน “วิษณุ” ยืนยันข่าวมติ ครม.ให้ข้าราชการเกษียณอายุได้ถึง 70 ปีบริบูรณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ ไม่เป็นความจริง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (18 พ.ย.) มี นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามด้วยวาจา นายอำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องการขยายอายุเกษียณราชการ หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2562 ที่ให้ข้าราชการเกษียณอายุ ได้ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยสอบถามถึงข้อเท็จจริงของมติดังกล่าว รวมทั้งแสดงความกังวลหากมีการขยายอายุราชการตามแผนปฏิรูปประเทศรองรับระบบสังคมผู้สูงวัย ใช้วิธีการขยายอายุราชการทั้งระบบเป็นขั้นบันไดในระยะเวลา 6 ปี จากอายุ 60 ปี ถึงอายุ 63 ปี จะส่งผลกระทบทำให้จำนวนข้าราชการใหม่ลดลง จึงต้องการทราบว่ารัฐบาลได้ศึกษาทางเลือกอื่นนอกจากการขยายอายุราชการหรือไม่

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ต้อบกระทู้ถาม ชี้แจงว่า ข่าวที่ปรากฏ ไม่เป็นความจริง และมีการทำความเข้าใจต่อสังคมไปแล้ว ซึ่งข้อเท็จจริงในส่วนของข้าราชการพลเรือนไม่รวมข้าราชการหน่วยงานอื่น เป็นไปตามกฎหมายเก่า คือ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน ปี 2551 มาตรา 108 ที่บัญญัติไว้ว่า แม้ข้าราชการพลเรือนจะมีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ แต่ข้าราชการที่มีตำแหน่งหน้าที่ทักษะพิเศษที่ไม่ใช่ตำแหน่งผู้บริหาร หากมีความจำเป็นสามารถต่ออายุราชการได้ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ซึ่งมีการต่ออายุ 3 ครั้ง ครั้งแรกไม่เกิน 4 ปี ครั้งที่สองไม่เกิน 3 ปี และครั้งที่สามไม่เกิน 3 ปี


นายวิษณุ กล่าวว่า โดยตามกฎหมายมีการอนุญาตให้ต่ออายุราชการได้ใน 36 ตำแหน่ง ขณะที่การขยายอายุราชการถึง 63 ปี ทั้งระบบสืบเนื่องจากแผนปฏิรูปประเทศด้านสังคม ที่ประกาศใช้เมื่อปีที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้ทำการศึกษาแนวทางดังกล่าวนำร่องให้ข้าราชการพลเรือนสามารถต่ออายุราชการได้ แต่ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ เช่น ไม่ใช่ข้าราชการระดับบริหาร ส่วนข้าราชการอื่น ๆ อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกเป็นกฎหมายได้ต้องใช้เวลานานเป็นปี

นายวิษณุ ยังกล่าวถึงการจ้างงานหลังเกษียณ ว่า ปัจจุบันรัฐบาลดำเนินการอยู่แล้วในบางหน่วยงาน อยู่ในรูปแบบพนักงานราชการที่มีอายุ 1 ปี โดยหลังจากนี้จะมอบหมายให้ ก.พ.ไปศึกษาอย่างละเอียดอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง