รัฐสภา 14 พ.ย.-ส.ส.พรรคเพื่อไทย ชี้มีมาเฟียผูกขาดจัดเลี้ยงอาหาร ส.ส. ทั้งที่อาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ขณะเลขาธิการสภาฯ รับไปแก้ไขให้เหมาะสม ด้านประธานสภาฯ ยืนยันเร่งแก้ปัญหาทุกเรื่องที่สมาชิกสะท้อนมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการหารือของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (14 พ.ย.) นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้หารือถึงคุณภาพอาหารของสมาชิกว่าไม่ถูกสุขลักษณะ และไม่มีคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐาน ไม่เหมาะสมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทราบมาว่ามีผู้มีอิทธิพลผูกขาดการจัดอาหารของสมาชิก 2 ราย จึงต้องการให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และพัฒนาคุณภาพอาหารให้เหมาะสมกับสมาชิก
จากนั้น นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า มีการจัดอาหารไว้ 3 ประเภท โดยจัดเป็นอาหารสำหรับกรรมาธิการ สำหรับสมาชิกในวันที่มีประชุมใหญ่ และในศูนย์อาหารสำหรับสมาชิก ข้าราชการ และผู้มาติดต่อราชการ สำหรับสิ่งที่นายพิเชษฐ์ สะท้อนมา ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะรับไปปรับปรุงแก้ไขให้อาหารเหมาะสมสำหรับสมาชิกมากขึ้น
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า ทุกเรื่องที่สมาชิกสะท้อนมา ได้ดำเนินการให้ไปบ้างแล้ว เช่น ปัญหาเรื่องการใช้ห้องน้ำ รวมถึงเพิ่มเครื่องมือให้กับฝ่ายทำความสะอาดห้องน้ำ ตามที่สมาชิกร้องเรียนว่าห้องน้ำไม่สะอาดและอุปกรณ์ทำความสะอาดไม่เพียงพอ รวมถึงที่นั่งคอยของผู้มาชี้แจง ก็ได้เพิ่มเครื่องปรับอากาศให้แล้วเช่นกัน
ด้าน นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร หารือถึงความแออัดของที่จอดรถของสมาชิกและข้าราชการ โดยนายชวน ชี้แจงว่า เนื่องจากสมาชิกมีผู้ติดตามจำนวนมาก และมีรถเป็นของตัวเอง จึงทำให้มีรถจำนวนมาก จึงได้กำชับให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัยเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบรถที่จะเข้าออก รวมถึงบุคคลต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่สมาชิก หรือผู้ติดตาม เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยให้กับสถานที่ หากเกิดความวุ่นวายขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบ
จากนั้น นายชวน ขอบคุณสมาชิกที่ร่วมกันแสดงความคิดเห็นและสะท้อนปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไข เพราะต้องการให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นสถาบันหลักของบ้านเมือง เพราะมีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จึงต้องรักษาเกียรติยศและศักดิ์ศรี มาตรฐานไว้ สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ทะเลาะกัน ไม่ใช่ที่แย่งกันพูด และไม่ใช่ที่มาเรียกร้องผลประโยชน์ของสมาชิก อย่างที่หลายคนกล่าวหา ดังนั้นสภาผู้แทนราษฎรจึงต้องเป็นที่พึ่ง เป็นสถานที่ออกกฏหมาย อย่าให้สภาท้องถิ่นมาวิพากษ์วิจารณ์สภาผู้แทนราษฎรได้ ถ้าสภาผู้แทนราษฎรยังทะเลาะกันแล้วสภาท้องถิ่น จะไม่ทะเลาะกันได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับสมาชิกจะต้องมีส่วนร่วมและให้ความร่วมมือด้วย.-สำนักข่าวไทย