“กัน จอมพลัง” เอาผิดอินฟลูบางนา กล่าวหาหิวแสงช่วย “แบงค์ เลสเตอร์”

กทม. 4 ม.ค.-“กัน จอมพลัง” เอาผิดอินฟลูบางนา กล่าวหาช่วย “แบงค์ เลสเตอร์” เพราะหิวแสง เปิดรับเงินบริจาค พร้อมแจ้งความ บก.รายการดัง ช่องมากสี ลั่นไม่ใช่มาเฟีย แต่มาฟรี!

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ม.ค. ที่ สน.ทองหล่อ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ ‘กัน จอมพลัง’ พร้อมด้วย ทนายโรส น.ส.อังศวีร์ อนุวัตน์รุจิกร ทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าแจ้งความกับ อินฟลูเอนเซอร์บางนา หลังจากอีกฝ่ายไลฟ์สด กล่าวหาว่าตนเข้ามาช่วยเหลือ แบงค์ เลสเตอร์ เพราะหาแสง เพื่อจะเปิดรับเงินบริจาค พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหากับ บก.ของรายการดังช่องมากสี หลังจากโพสต์ข้อความต่อว่า ว่าเป็นมาเฟีย ทั้งหมดล้วนไม่เป็นความจริงอย่างใดส่งผลให้ตนเสียชื่อเสียง


‘กัน จอมพลัง’ กล่าวว่า วันนี้ตนมาเพื่อปกป้องตัวเอง เพราะที่ผ่านมาตนเองไปปกป้อง “แบงค์” และครอบครัวของแบงค์เต็มที่แล้ว และระหว่างทางก็เกิดอะไรขึ้นมากมาย ซึ่งๆ ตนเองก็สู้กับปัญหาต่างๆ แต่สิ่งที่ติดใจคือ อินฟลูบางนา และ บก.รายการดังช่องมากสี

โดยกรณีของอินฟลูบางนา มากล่าวหาว่า “กัน จอมพลัง” จะเอาความน่าสงสารของครอบครัวนี้มาแสวงหาผลประโยชน์จากการเปิดรับบริจาค ทำให้ก่อนหน้านี้มีทัวร์มาลงตัวเองไปแล้ว และตนเองก็ตกใจกับกรณีนี้ จากที่ช่วงแรกๆก็มองว่าคงไม่เป็นไร แต่หลังๆ สังคมเริ่มเข้าใจว่า ตนเองมาหาผลประโยชน์ตามที่อินฟลูคนดังกล่าวไลฟ์ทางโซเชียล ซึ่งความเป็นจริงตนเองไม่เคยเปิดรับบริจาคใดๆเลย ขนาดมีคนจะเอาบัญชีครอบครัวไปเขียนเพื่อรับบริจาคตนเองยังบอกว่าให้ปรึกษาก่อนเลย เพราะตนเองรู้เรื่องของครอบครัวนี้


ซึ่งพอมีสังคมไปเชื่อว่าตนเองไปเปิดรับบริจาค ทำให้รู้สึกว่ามันแฟร์ เพราะความจริงไม่ใช่แบบนั้น และสิ่งที่น่าหดหู่คือ อินฟลูบางนา ยังไปว่ายายว่าตอแหล ซึ่งมองว่าการไปพูดในลักษณะนี้เป็นคำพูดที่แรงเกินไป แต่พออินฟลูบางนารู้ว่าตนเองจะฟ้องก็มีการติดต่อมา ซึ่งถ้าไม่มีเจตนาจะว่าร้ายตนเองทำไมไม่ติดต่อมาตั้งแต่แรก “ตอนคุณด่าผมในที่แจ้งคือในไลฟ์ แล้วจะมาคุยกับผมในที่ลับ มันแฟร์หรือไม่”

และอีกจุดหนึ่งที่ตนเองติดใจคือ กรณีที่ อินฟลูบางนากล่าวอ้างว่า ผู้ใหญ่ส่งข้อมูลมาให้ ซึ่งผู้ใหญ่สำหรับเขาอาจจะไม่ใช่ผู้ใหญ่สำหรับตนเอง และผู้ใหญ่ของเขาก็ติดต่อมาหาตนเพื่ออยากจะคุย อยากจะเคลียร์ ซึ่งตนเองก็ยินดีที่จะพูดคุย เพราะอยากรู้ว่าใช่คนที่ส่งข้อมูลให้อินฟลูบางนามสโจมตีตนเองหรือไม่ จึงได้นัดมาเจอที่ สน.ทองหล่อ

ยอมรับว่าอินฟลูบางนาติดต่อมาหาตนเอง 1 ครั้ง ช่วงปลายปี 2567 หลังจบงานศพของน้องแบงค์ ตอนนั้นตนรับสาย / แต่มีการพยายามติดต่อมาทางอื่นอีกหรือไม่ตนเองไม่ทราบ ซึ่งถ้าจะมาคุยเพื่อไม่ให้ตนไม่ฟ้องก็ไม่เอา และตนก็ยังเห็นเขาไปพูดในไลฟ์ในลักษณะว่าตัวเขาไม่ผิด และมีเอฟซีไปติติงเขา เขายังมาบอกว่า “ถ้ากัน จอมพลังคุมเอฟซีไม่ได้ก็ให้เลิกช่วยคนไป” จึงเกิดความสงสัยว่ามีปัญหาอะไรกับตนหรือไม่ มีปัญหาอะไรกับการที่ตนเองออกไปช่วยคนหรือไม่ พร้อมยอมรับว่า ตนเองรู้สึกบั่นทอนกับเรื่องที่เกิดขึ้น และรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก


“กัน จอมพลัง” ยังพูดถึงการแจ้งความดำเนินคดีกับ บก.รายการดังในช่องมากสี ด้วยว่า ตนเองรู้สึกไม่โอเคกับการไปโพสต์โซเชียลของ บก.คนดังกล่าว ที่ไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีคำหนึ่งในข้อความ คือคำว่า ‘มาเฟีย’ เพราะตนเองมองว่า “ความหมายของมาเฟียคือ แก๊งค์อาชญากร รีดไถ รีดเงิน ซึ่งผมไม่ยอมรับคำนี้ ผมไม่ได้เป็นมาเฟีย ผมเป็นมาฟรี และช่วยคนไม่เคยได้เงินมีแต่เสียเงิน” จุดเริ่มต้นคือกรณีเรื่องของแบงค์ ที่ตนเข้าไปช่วยเหลือเพราะครอบครัวเขาขอให้ตนเองช่วย น้าของแบงค์เป็นคนเรียกไปแล้วน้าเขาติดใจว่า ถ้าจะเอาคนออกจากบ้านควรคุยกับเขาก่อนหรือไม่ เนื่องจากวันนั้นตนไปเจอกับทีมสายไหมฯ ทีมสายไหมกำลังจะพายายไปออกรายการ แต่ตนเองได้คุยกับทีมสายไหมแล้ว และทีมสายไหมก็เข้าใจ

จากนั้นก็มีการไปเตรียมสถานที่ ที่วัด และหลังจากนั้น ก็มีข้อความว่าปรากฎออกมาทางโซเชียล ที่ระบุว่า บก.ดังกล่าว รู้จักกับแบงค์มานาน ตนเองก็รู้จักแบงค์มาตั้งแต่ตนขายของตลานัด แล้วแบงค์ยังขายพวงมาลัยอยู่เช่นกัน และยืนยันว่า ตนไม่ได้พายายหนี

“คำที่มันเจ็บคือ คนดีเขาไม่จ้างการ์ดมาเดินตามให้เหมือนมาเฟียหรอก จึงอยากถามว่า วันนี้การที่ให้การ์ดมาดูแลความปลอดภัยให้เคส ถามว่าผมเป็นมาเฟียเหรอ และแต่ละเคสผมชนกับผู้มีอิทธิพลทั้งนั้น แล้วการที่ตนมีการ์ดมาดูแลเคส ตนดูไม่ดีเหรอ และที่ผ่านมา ช่องมากสี ก็ไม่ออกมาทำอะไรเลย ผมจึงมองว่า แล้วแบบนี้จะให้ความเป็นธรรมกับคนอื่นได้อย่างไร ถ้าจะด่าใครก็ได้ เงียบแล้วก็จบ”

“กัน จอมพลัง” ยังบอกทิ้งท้ายว่า “ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกคุณทำเพื่ออะไร อาจจะหมั่นไส้ หรือเกลียดการที่ผมออกมาช่วยสังคมมัน ลองนึกกลับกัน ถ้ามีคนไปทำแบบนี้กับลูกคุณ แม่คุณ ครอบครัวคุณ คุณจะโอเคหรือไม่ และหวังว่าเรื่องนี้จะบทเรียน และหวังว่าต้นสังกัดจะเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ และตนเองจะตามเรื่องนี้ต่อเนื่องด้วย ยืนยันด้วยว่า ทั้ง 2 เคส จะดำเนินคดีถึงที่สุด เต็มที่แน่นอน

โดยหลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ นายจี ที่ถูกระบุว่า เป็นผู้ใหญ่ของอินฟลูบางนาก็ได้เดินทางเข้ามาพูดคุยกับ “กัน จอมพลัง” ที่หน้า สน.ทองหล่อ

นายจี บอกว่า ตนเองคือบุคคลที่อินฟูบางนา กล่าวอ้างว่าอยู่เบื้องหลัง ทำให้ตนเองรู้สึกไม่สบายใจ วันนี้จึงต้องออกมา ซึ่งกรณีที่พูดว่า ผู้ใหญ่ฝากมาเตือน “กัน จอมพลัง” นายจี ยืนยันว่า ไม่เคยพูด ไม่เคยไปบอกให้อินฟูบางนามาเตือน “กัน จอมพลัง” เลย และตนเองก็ชื่นชม “กัน จอมพลัง” ด้วยซ้ำ ไม่จำเป็นต้องเตือน เพราะรู้อยู่แล้วว่ากัน จอมพลัง ทำอะไร ตนก็เป็นผู้ใหญ่พอจึงมาแสดงตัวในวันนี้

นายจี ยังบอกอีกว่าอินฟลูบางนาพยายามที่จะชวนตนเองเข้าไปในไลฟ์ของคืนวันที่ 26 ธันวาคม ซึ่งตอนนั้นตนเองก็รู้สึกว่าไม่ควรมายุ่งกับตนเองจึงได้ตอบปฏิเสธไปและเมื่อจบไลฟ์นั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่หลังจากนั้นก็พบว่ามีข้อมูลที่บิดเบือนจึงทำให้เกิดการไม่สบายใจ หลังจากนั้นวันที่ 27 ธันวาคม ก็ยังมีการพยายามชวนเข้าไลฟ์อีก

ย้ำว่า ตนไม่ได้ให้อินฟลูบางนาคนดังกล่าวไปพูดตามที่เค้าพูดในไลฟ์ และยืนยันว่าตนไม่ได้ฝากไปบอกคุณกัน จอมพลัง และตนเองยังมองด้วยว่า การที่อินฟลูบางนา ไปพูดในไลฟ์ลักษณะนั้นเป็นการกระทำที่แรง เพราะตนเองก็แอนตี้อินฟลูสายเทา สายดำอยู่แล้ว ส่วนจะมีผู้ใหญ่คนอื่นอีกหรือไม่ตนเองไม่ทราบ เพราะเวลาที่อินฟลูบางนามีการพูดคุยงานก็จะพูดถึงคำว่าผู้ใหญ่อยู่หลายครั้ง และส่วนตัวก็รู้จักกับอินฟลูบางนา เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น

โดยหลังนายจี ได้พูดคุยกับ “กัน จอมพลัง” เสร็จ “กัน จอมพลัง” บอกว่า “ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร เป็นคนแฟร์ๆอยู่แล้ว ก็รู้สึกโอเคที่กล้ามาคุย”.-420.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 หวัง GBC ได้ข้อสรุปที่ดี ลั่นไม่ถอยกำลังทหาร

กองทัพบก 4 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่น ไม่ถอยกำลังทหาร หวังถก GBC ได้ข้อสรุปที่ดี แต่ยังคาดหวังอะไรไม่ได้หากสองประเทศยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกันก็จบง่าย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปชายแดนไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ประเทศมาเลเซีย ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่ก็คาดหวังว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี หาข้อตกลงร่วมกันให้ดีที่สุด ส่วนที่หลายฝ่ายมีความกังวลสถานการณ์ชายแดน หลังวันที่ 7 สิงหาคม จะมีความตึงเครียดนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้นำทั้งสองประเทศ จะเจอกันตรงจุดไหน หากยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกัน ก็จบง่าย ซึ่งตอนนี้ยังคาดเดาอะไรไม่ได้ ว่าผลจะออกมาอย่างไร เมื่อถามว่า ประเด็นเรื่องการถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า “กองทัพไม่ถอย เพราะเรารุกในเขตพื้นที่อธิปไตยของเรา” สำหรับการดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพทั้งสองประเทศได้ปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิง ที่สองรัฐบาลได้พูดคุยกันไว้เพื่อความสงบสุขบริเวณชายแดน ซึ่งเราพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ยอมรับว่า มีปัญหาเรื่องโดรนไม่ทราบฝ่าย ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงการติดตามกลุ่มบุคคลที่ทำตัวเป็นสายลับ และไส้ศึก […]

สำนักโฆษก กห. พาย้อนเหตุการณ์ยุคเขมรแดงปี 1979-1980

4 ส.ค.- เตือนความจำเขมร! สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม โพสต์ย้อนเหตุการณ์ไทยช่วยเขมร ยุคเขมรแดง ปี 1979-1980 เปิดประตูรับคนเขมรเป็นที่พึ่งสุดท้าย-เปิดค่ายพักพิงแบบไม่ลังเล วันนี้(4 ส.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้เผยแพร่ข้อมูลการช่วยเหลือของฝ่ายไทยที่มีต่อชาวกัมพูชาในยุคเขมรแดง โดยข้อความระบุว่า จากคนที่หนีตายสู่คนที่หันปากกระบอกปืนกลับมา” เมื่อ ‘เขมร’ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้ ปี 𝟏𝟗𝟕𝟗… ชาวกัมพูชานับแสน นับล้าน วิ่งหนีตายจากนรกบนดินที่ชื่อว่า “เขมรแดง” ข้ามพรมแดนมายังไทย ในสภาพหมดเรี่ยวแรง หิวโหย และเกือบสิ้นลมหายใจ คนไทยเปิดประตูให้เขาพักพิง ตอนนั้นประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “เพื่อนบ้าน” แต่กลายเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” เราส่งอาหาร เราเปิดค่ายพักพิง เราช่วยเหลือทั้งในนามรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และแม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ยอมแบ่งข้าวเพียงคำเดียวให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา การอพยพที่ไม่มีแผนที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 𝟏𝟗𝟕𝟗 จนถึงต้นยุค 𝟏𝟗𝟖𝟎𝐬 มีชาวกัมพูชาจำนวนมหาศาล บางแหล่งบอกว่ารวมกันถึง 𝟔 แสนถึง 𝟖 แสนคน อพยพอย่างไร้ทิศทางบางคนเดินเท้าเป็นร้อยกิโลเมตรจากกลางประเทศกัมพูชา หลายคนไร้เอกสาร ไม่มีอาหาร ไม่มีเป้าหมาย […]

กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ

ก.ต่างประเทศ 4 ส.ค.-กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คาดแจงข้อมูลที่บิดเบือน หลังกัมพูชาปล่อยเฟคนิวส์ต่อเนื่อง ด้าน “มาริษ” ย้ำไทยไม่ได้เริ่มก่อน ยึดแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี เรียกร้องกัมพูชายึดหลักสันติวิธี-จริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับ นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และ นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังจากที่ฝ่ายกัมพูชามีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก่อนการบรรยาย นายมาริษ กล่าวเปิดโดยขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในวันนี้ พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และท่าทีของไทยต่อกรณีดังกล่าว โดยตนตั้งใจจะแบ่งการบรรยายเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ 1. การเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไทยขอประท้วงต่อฝ่ายกัมพูชากรณีที่ละเมิดกฎหมายมนุษยชนและใช้ความรุนแรง โดยมีเป้าหมายแบบไม่เลือกเป้าและโจมตีไปที่พลเรือน รวมถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งขัดต่อหลักการของอนุสัญญาออตโตวา ในขณะที่ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด จึงหวังเป็นอย่างยิ่งให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน ภายใต้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ส่วนประเด็นที่ 2 คือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม […]

EOD ทำลายวัตถุระเบิด ใกล้ปั๊มน้ำมันบ้านผือ จ.ศรีสะเกษ 

ศรีสะเกษ 4 ส.ค. – เจ้าหน้าที่อีโอดีเก็บกู้จรวด BM 21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาตกและฝังอยู่ในพื้นถนนกันทรลักษ์อีกจุด ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่วันที่ 24 ก.ค. เช่นเดียวกัน บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บวัตถุระเบิดหรือ EOD จากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC เข้าเตรียมความพร้อมเพื่อเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดแรงสูง ประเภท BM21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่ แล้วตกลงไปฝังอยู่ในถนน กันทรลักษ์-เขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ เป็นจรวด BM 21 ที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม ปตท. บ้านผือ ระเบิดจุดนี้ อยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ประเมาณ 500 เมตร และห่างจากจุดที่มีการเก็บกู้ จรวดบีเอ็ม 21 บนถนนกันทรลักษ์ลูกแรก ในวันที่ 2 สิงหาคม […]