กทม. 4 ม.ค.-“กัน จอมพลัง” เอาผิดอินฟลูบางนา กล่าวหาช่วย “แบงค์ เลสเตอร์” เพราะหิวแสง เปิดรับเงินบริจาค พร้อมแจ้งความ บก.รายการดัง ช่องมากสี ลั่นไม่ใช่มาเฟีย แต่มาฟรี!
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ม.ค. ที่ สน.ทองหล่อ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ ‘กัน จอมพลัง’ พร้อมด้วย ทนายโรส น.ส.อังศวีร์ อนุวัตน์รุจิกร ทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าแจ้งความกับ อินฟลูเอนเซอร์บางนา หลังจากอีกฝ่ายไลฟ์สด กล่าวหาว่าตนเข้ามาช่วยเหลือ แบงค์ เลสเตอร์ เพราะหาแสง เพื่อจะเปิดรับเงินบริจาค พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหากับ บก.ของรายการดังช่องมากสี หลังจากโพสต์ข้อความต่อว่า ว่าเป็นมาเฟีย ทั้งหมดล้วนไม่เป็นความจริงอย่างใดส่งผลให้ตนเสียชื่อเสียง
‘กัน จอมพลัง’ กล่าวว่า วันนี้ตนมาเพื่อปกป้องตัวเอง เพราะที่ผ่านมาตนเองไปปกป้อง “แบงค์” และครอบครัวของแบงค์เต็มที่แล้ว และระหว่างทางก็เกิดอะไรขึ้นมากมาย ซึ่งๆ ตนเองก็สู้กับปัญหาต่างๆ แต่สิ่งที่ติดใจคือ อินฟลูบางนา และ บก.รายการดังช่องมากสี
โดยกรณีของอินฟลูบางนา มากล่าวหาว่า “กัน จอมพลัง” จะเอาความน่าสงสารของครอบครัวนี้มาแสวงหาผลประโยชน์จากการเปิดรับบริจาค ทำให้ก่อนหน้านี้มีทัวร์มาลงตัวเองไปแล้ว และตนเองก็ตกใจกับกรณีนี้ จากที่ช่วงแรกๆก็มองว่าคงไม่เป็นไร แต่หลังๆ สังคมเริ่มเข้าใจว่า ตนเองมาหาผลประโยชน์ตามที่อินฟลูคนดังกล่าวไลฟ์ทางโซเชียล ซึ่งความเป็นจริงตนเองไม่เคยเปิดรับบริจาคใดๆเลย ขนาดมีคนจะเอาบัญชีครอบครัวไปเขียนเพื่อรับบริจาคตนเองยังบอกว่าให้ปรึกษาก่อนเลย เพราะตนเองรู้เรื่องของครอบครัวนี้
ซึ่งพอมีสังคมไปเชื่อว่าตนเองไปเปิดรับบริจาค ทำให้รู้สึกว่ามันแฟร์ เพราะความจริงไม่ใช่แบบนั้น และสิ่งที่น่าหดหู่คือ อินฟลูบางนา ยังไปว่ายายว่าตอแหล ซึ่งมองว่าการไปพูดในลักษณะนี้เป็นคำพูดที่แรงเกินไป แต่พออินฟลูบางนารู้ว่าตนเองจะฟ้องก็มีการติดต่อมา ซึ่งถ้าไม่มีเจตนาจะว่าร้ายตนเองทำไมไม่ติดต่อมาตั้งแต่แรก “ตอนคุณด่าผมในที่แจ้งคือในไลฟ์ แล้วจะมาคุยกับผมในที่ลับ มันแฟร์หรือไม่”
และอีกจุดหนึ่งที่ตนเองติดใจคือ กรณีที่ อินฟลูบางนากล่าวอ้างว่า ผู้ใหญ่ส่งข้อมูลมาให้ ซึ่งผู้ใหญ่สำหรับเขาอาจจะไม่ใช่ผู้ใหญ่สำหรับตนเอง และผู้ใหญ่ของเขาก็ติดต่อมาหาตนเพื่ออยากจะคุย อยากจะเคลียร์ ซึ่งตนเองก็ยินดีที่จะพูดคุย เพราะอยากรู้ว่าใช่คนที่ส่งข้อมูลให้อินฟลูบางนามสโจมตีตนเองหรือไม่ จึงได้นัดมาเจอที่ สน.ทองหล่อ
ยอมรับว่าอินฟลูบางนาติดต่อมาหาตนเอง 1 ครั้ง ช่วงปลายปี 2567 หลังจบงานศพของน้องแบงค์ ตอนนั้นตนรับสาย / แต่มีการพยายามติดต่อมาทางอื่นอีกหรือไม่ตนเองไม่ทราบ ซึ่งถ้าจะมาคุยเพื่อไม่ให้ตนไม่ฟ้องก็ไม่เอา และตนก็ยังเห็นเขาไปพูดในไลฟ์ในลักษณะว่าตัวเขาไม่ผิด และมีเอฟซีไปติติงเขา เขายังมาบอกว่า “ถ้ากัน จอมพลังคุมเอฟซีไม่ได้ก็ให้เลิกช่วยคนไป” จึงเกิดความสงสัยว่ามีปัญหาอะไรกับตนหรือไม่ มีปัญหาอะไรกับการที่ตนเองออกไปช่วยคนหรือไม่ พร้อมยอมรับว่า ตนเองรู้สึกบั่นทอนกับเรื่องที่เกิดขึ้น และรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
“กัน จอมพลัง” ยังพูดถึงการแจ้งความดำเนินคดีกับ บก.รายการดังในช่องมากสี ด้วยว่า ตนเองรู้สึกไม่โอเคกับการไปโพสต์โซเชียลของ บก.คนดังกล่าว ที่ไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีคำหนึ่งในข้อความ คือคำว่า ‘มาเฟีย’ เพราะตนเองมองว่า “ความหมายของมาเฟียคือ แก๊งค์อาชญากร รีดไถ รีดเงิน ซึ่งผมไม่ยอมรับคำนี้ ผมไม่ได้เป็นมาเฟีย ผมเป็นมาฟรี และช่วยคนไม่เคยได้เงินมีแต่เสียเงิน” จุดเริ่มต้นคือกรณีเรื่องของแบงค์ ที่ตนเข้าไปช่วยเหลือเพราะครอบครัวเขาขอให้ตนเองช่วย น้าของแบงค์เป็นคนเรียกไปแล้วน้าเขาติดใจว่า ถ้าจะเอาคนออกจากบ้านควรคุยกับเขาก่อนหรือไม่ เนื่องจากวันนั้นตนไปเจอกับทีมสายไหมฯ ทีมสายไหมกำลังจะพายายไปออกรายการ แต่ตนเองได้คุยกับทีมสายไหมแล้ว และทีมสายไหมก็เข้าใจ
จากนั้นก็มีการไปเตรียมสถานที่ ที่วัด และหลังจากนั้น ก็มีข้อความว่าปรากฎออกมาทางโซเชียล ที่ระบุว่า บก.ดังกล่าว รู้จักกับแบงค์มานาน ตนเองก็รู้จักแบงค์มาตั้งแต่ตนขายของตลานัด แล้วแบงค์ยังขายพวงมาลัยอยู่เช่นกัน และยืนยันว่า ตนไม่ได้พายายหนี
“คำที่มันเจ็บคือ คนดีเขาไม่จ้างการ์ดมาเดินตามให้เหมือนมาเฟียหรอก จึงอยากถามว่า วันนี้การที่ให้การ์ดมาดูแลความปลอดภัยให้เคส ถามว่าผมเป็นมาเฟียเหรอ และแต่ละเคสผมชนกับผู้มีอิทธิพลทั้งนั้น แล้วการที่ตนมีการ์ดมาดูแลเคส ตนดูไม่ดีเหรอ และที่ผ่านมา ช่องมากสี ก็ไม่ออกมาทำอะไรเลย ผมจึงมองว่า แล้วแบบนี้จะให้ความเป็นธรรมกับคนอื่นได้อย่างไร ถ้าจะด่าใครก็ได้ เงียบแล้วก็จบ”
“กัน จอมพลัง” ยังบอกทิ้งท้ายว่า “ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกคุณทำเพื่ออะไร อาจจะหมั่นไส้ หรือเกลียดการที่ผมออกมาช่วยสังคมมัน ลองนึกกลับกัน ถ้ามีคนไปทำแบบนี้กับลูกคุณ แม่คุณ ครอบครัวคุณ คุณจะโอเคหรือไม่ และหวังว่าเรื่องนี้จะบทเรียน และหวังว่าต้นสังกัดจะเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ และตนเองจะตามเรื่องนี้ต่อเนื่องด้วย ยืนยันด้วยว่า ทั้ง 2 เคส จะดำเนินคดีถึงที่สุด เต็มที่แน่นอน
โดยหลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ นายจี ที่ถูกระบุว่า เป็นผู้ใหญ่ของอินฟลูบางนาก็ได้เดินทางเข้ามาพูดคุยกับ “กัน จอมพลัง” ที่หน้า สน.ทองหล่อ
นายจี บอกว่า ตนเองคือบุคคลที่อินฟูบางนา กล่าวอ้างว่าอยู่เบื้องหลัง ทำให้ตนเองรู้สึกไม่สบายใจ วันนี้จึงต้องออกมา ซึ่งกรณีที่พูดว่า ผู้ใหญ่ฝากมาเตือน “กัน จอมพลัง” นายจี ยืนยันว่า ไม่เคยพูด ไม่เคยไปบอกให้อินฟูบางนามาเตือน “กัน จอมพลัง” เลย และตนเองก็ชื่นชม “กัน จอมพลัง” ด้วยซ้ำ ไม่จำเป็นต้องเตือน เพราะรู้อยู่แล้วว่ากัน จอมพลัง ทำอะไร ตนก็เป็นผู้ใหญ่พอจึงมาแสดงตัวในวันนี้
นายจี ยังบอกอีกว่าอินฟลูบางนาพยายามที่จะชวนตนเองเข้าไปในไลฟ์ของคืนวันที่ 26 ธันวาคม ซึ่งตอนนั้นตนเองก็รู้สึกว่าไม่ควรมายุ่งกับตนเองจึงได้ตอบปฏิเสธไปและเมื่อจบไลฟ์นั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่หลังจากนั้นก็พบว่ามีข้อมูลที่บิดเบือนจึงทำให้เกิดการไม่สบายใจ หลังจากนั้นวันที่ 27 ธันวาคม ก็ยังมีการพยายามชวนเข้าไลฟ์อีก
ย้ำว่า ตนไม่ได้ให้อินฟลูบางนาคนดังกล่าวไปพูดตามที่เค้าพูดในไลฟ์ และยืนยันว่าตนไม่ได้ฝากไปบอกคุณกัน จอมพลัง และตนเองยังมองด้วยว่า การที่อินฟลูบางนา ไปพูดในไลฟ์ลักษณะนั้นเป็นการกระทำที่แรง เพราะตนเองก็แอนตี้อินฟลูสายเทา สายดำอยู่แล้ว ส่วนจะมีผู้ใหญ่คนอื่นอีกหรือไม่ตนเองไม่ทราบ เพราะเวลาที่อินฟลูบางนามีการพูดคุยงานก็จะพูดถึงคำว่าผู้ใหญ่อยู่หลายครั้ง และส่วนตัวก็รู้จักกับอินฟลูบางนา เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น
โดยหลังนายจี ได้พูดคุยกับ “กัน จอมพลัง” เสร็จ “กัน จอมพลัง” บอกว่า “ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร เป็นคนแฟร์ๆอยู่แล้ว ก็รู้สึกโอเคที่กล้ามาคุย”.-420.-สำนักข่าวไทย