“กัน จอมพลัง” เอาผิดอินฟลูบางนา กล่าวหาหิวแสงช่วย “แบงค์ เลสเตอร์”

กทม. 4 ม.ค.-“กัน จอมพลัง” เอาผิดอินฟลูบางนา กล่าวหาช่วย “แบงค์ เลสเตอร์” เพราะหิวแสง เปิดรับเงินบริจาค พร้อมแจ้งความ บก.รายการดัง ช่องมากสี ลั่นไม่ใช่มาเฟีย แต่มาฟรี!

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ม.ค. ที่ สน.ทองหล่อ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ ‘กัน จอมพลัง’ พร้อมด้วย ทนายโรส น.ส.อังศวีร์ อนุวัตน์รุจิกร ทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าแจ้งความกับ อินฟลูเอนเซอร์บางนา หลังจากอีกฝ่ายไลฟ์สด กล่าวหาว่าตนเข้ามาช่วยเหลือ แบงค์ เลสเตอร์ เพราะหาแสง เพื่อจะเปิดรับเงินบริจาค พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหากับ บก.ของรายการดังช่องมากสี หลังจากโพสต์ข้อความต่อว่า ว่าเป็นมาเฟีย ทั้งหมดล้วนไม่เป็นความจริงอย่างใดส่งผลให้ตนเสียชื่อเสียง


‘กัน จอมพลัง’ กล่าวว่า วันนี้ตนมาเพื่อปกป้องตัวเอง เพราะที่ผ่านมาตนเองไปปกป้อง “แบงค์” และครอบครัวของแบงค์เต็มที่แล้ว และระหว่างทางก็เกิดอะไรขึ้นมากมาย ซึ่งๆ ตนเองก็สู้กับปัญหาต่างๆ แต่สิ่งที่ติดใจคือ อินฟลูบางนา และ บก.รายการดังช่องมากสี

โดยกรณีของอินฟลูบางนา มากล่าวหาว่า “กัน จอมพลัง” จะเอาความน่าสงสารของครอบครัวนี้มาแสวงหาผลประโยชน์จากการเปิดรับบริจาค ทำให้ก่อนหน้านี้มีทัวร์มาลงตัวเองไปแล้ว และตนเองก็ตกใจกับกรณีนี้ จากที่ช่วงแรกๆก็มองว่าคงไม่เป็นไร แต่หลังๆ สังคมเริ่มเข้าใจว่า ตนเองมาหาผลประโยชน์ตามที่อินฟลูคนดังกล่าวไลฟ์ทางโซเชียล ซึ่งความเป็นจริงตนเองไม่เคยเปิดรับบริจาคใดๆเลย ขนาดมีคนจะเอาบัญชีครอบครัวไปเขียนเพื่อรับบริจาคตนเองยังบอกว่าให้ปรึกษาก่อนเลย เพราะตนเองรู้เรื่องของครอบครัวนี้


ซึ่งพอมีสังคมไปเชื่อว่าตนเองไปเปิดรับบริจาค ทำให้รู้สึกว่ามันแฟร์ เพราะความจริงไม่ใช่แบบนั้น และสิ่งที่น่าหดหู่คือ อินฟลูบางนา ยังไปว่ายายว่าตอแหล ซึ่งมองว่าการไปพูดในลักษณะนี้เป็นคำพูดที่แรงเกินไป แต่พออินฟลูบางนารู้ว่าตนเองจะฟ้องก็มีการติดต่อมา ซึ่งถ้าไม่มีเจตนาจะว่าร้ายตนเองทำไมไม่ติดต่อมาตั้งแต่แรก “ตอนคุณด่าผมในที่แจ้งคือในไลฟ์ แล้วจะมาคุยกับผมในที่ลับ มันแฟร์หรือไม่”

และอีกจุดหนึ่งที่ตนเองติดใจคือ กรณีที่ อินฟลูบางนากล่าวอ้างว่า ผู้ใหญ่ส่งข้อมูลมาให้ ซึ่งผู้ใหญ่สำหรับเขาอาจจะไม่ใช่ผู้ใหญ่สำหรับตนเอง และผู้ใหญ่ของเขาก็ติดต่อมาหาตนเพื่ออยากจะคุย อยากจะเคลียร์ ซึ่งตนเองก็ยินดีที่จะพูดคุย เพราะอยากรู้ว่าใช่คนที่ส่งข้อมูลให้อินฟลูบางนามสโจมตีตนเองหรือไม่ จึงได้นัดมาเจอที่ สน.ทองหล่อ

ยอมรับว่าอินฟลูบางนาติดต่อมาหาตนเอง 1 ครั้ง ช่วงปลายปี 2567 หลังจบงานศพของน้องแบงค์ ตอนนั้นตนรับสาย / แต่มีการพยายามติดต่อมาทางอื่นอีกหรือไม่ตนเองไม่ทราบ ซึ่งถ้าจะมาคุยเพื่อไม่ให้ตนไม่ฟ้องก็ไม่เอา และตนก็ยังเห็นเขาไปพูดในไลฟ์ในลักษณะว่าตัวเขาไม่ผิด และมีเอฟซีไปติติงเขา เขายังมาบอกว่า “ถ้ากัน จอมพลังคุมเอฟซีไม่ได้ก็ให้เลิกช่วยคนไป” จึงเกิดความสงสัยว่ามีปัญหาอะไรกับตนหรือไม่ มีปัญหาอะไรกับการที่ตนเองออกไปช่วยคนหรือไม่ พร้อมยอมรับว่า ตนเองรู้สึกบั่นทอนกับเรื่องที่เกิดขึ้น และรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก


“กัน จอมพลัง” ยังพูดถึงการแจ้งความดำเนินคดีกับ บก.รายการดังในช่องมากสี ด้วยว่า ตนเองรู้สึกไม่โอเคกับการไปโพสต์โซเชียลของ บก.คนดังกล่าว ที่ไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีคำหนึ่งในข้อความ คือคำว่า ‘มาเฟีย’ เพราะตนเองมองว่า “ความหมายของมาเฟียคือ แก๊งค์อาชญากร รีดไถ รีดเงิน ซึ่งผมไม่ยอมรับคำนี้ ผมไม่ได้เป็นมาเฟีย ผมเป็นมาฟรี และช่วยคนไม่เคยได้เงินมีแต่เสียเงิน” จุดเริ่มต้นคือกรณีเรื่องของแบงค์ ที่ตนเข้าไปช่วยเหลือเพราะครอบครัวเขาขอให้ตนเองช่วย น้าของแบงค์เป็นคนเรียกไปแล้วน้าเขาติดใจว่า ถ้าจะเอาคนออกจากบ้านควรคุยกับเขาก่อนหรือไม่ เนื่องจากวันนั้นตนไปเจอกับทีมสายไหมฯ ทีมสายไหมกำลังจะพายายไปออกรายการ แต่ตนเองได้คุยกับทีมสายไหมแล้ว และทีมสายไหมก็เข้าใจ

จากนั้นก็มีการไปเตรียมสถานที่ ที่วัด และหลังจากนั้น ก็มีข้อความว่าปรากฎออกมาทางโซเชียล ที่ระบุว่า บก.ดังกล่าว รู้จักกับแบงค์มานาน ตนเองก็รู้จักแบงค์มาตั้งแต่ตนขายของตลานัด แล้วแบงค์ยังขายพวงมาลัยอยู่เช่นกัน และยืนยันว่า ตนไม่ได้พายายหนี

“คำที่มันเจ็บคือ คนดีเขาไม่จ้างการ์ดมาเดินตามให้เหมือนมาเฟียหรอก จึงอยากถามว่า วันนี้การที่ให้การ์ดมาดูแลความปลอดภัยให้เคส ถามว่าผมเป็นมาเฟียเหรอ และแต่ละเคสผมชนกับผู้มีอิทธิพลทั้งนั้น แล้วการที่ตนมีการ์ดมาดูแลเคส ตนดูไม่ดีเหรอ และที่ผ่านมา ช่องมากสี ก็ไม่ออกมาทำอะไรเลย ผมจึงมองว่า แล้วแบบนี้จะให้ความเป็นธรรมกับคนอื่นได้อย่างไร ถ้าจะด่าใครก็ได้ เงียบแล้วก็จบ”

“กัน จอมพลัง” ยังบอกทิ้งท้ายว่า “ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกคุณทำเพื่ออะไร อาจจะหมั่นไส้ หรือเกลียดการที่ผมออกมาช่วยสังคมมัน ลองนึกกลับกัน ถ้ามีคนไปทำแบบนี้กับลูกคุณ แม่คุณ ครอบครัวคุณ คุณจะโอเคหรือไม่ และหวังว่าเรื่องนี้จะบทเรียน และหวังว่าต้นสังกัดจะเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ และตนเองจะตามเรื่องนี้ต่อเนื่องด้วย ยืนยันด้วยว่า ทั้ง 2 เคส จะดำเนินคดีถึงที่สุด เต็มที่แน่นอน

โดยหลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ นายจี ที่ถูกระบุว่า เป็นผู้ใหญ่ของอินฟลูบางนาก็ได้เดินทางเข้ามาพูดคุยกับ “กัน จอมพลัง” ที่หน้า สน.ทองหล่อ

นายจี บอกว่า ตนเองคือบุคคลที่อินฟูบางนา กล่าวอ้างว่าอยู่เบื้องหลัง ทำให้ตนเองรู้สึกไม่สบายใจ วันนี้จึงต้องออกมา ซึ่งกรณีที่พูดว่า ผู้ใหญ่ฝากมาเตือน “กัน จอมพลัง” นายจี ยืนยันว่า ไม่เคยพูด ไม่เคยไปบอกให้อินฟูบางนามาเตือน “กัน จอมพลัง” เลย และตนเองก็ชื่นชม “กัน จอมพลัง” ด้วยซ้ำ ไม่จำเป็นต้องเตือน เพราะรู้อยู่แล้วว่ากัน จอมพลัง ทำอะไร ตนก็เป็นผู้ใหญ่พอจึงมาแสดงตัวในวันนี้

นายจี ยังบอกอีกว่าอินฟลูบางนาพยายามที่จะชวนตนเองเข้าไปในไลฟ์ของคืนวันที่ 26 ธันวาคม ซึ่งตอนนั้นตนเองก็รู้สึกว่าไม่ควรมายุ่งกับตนเองจึงได้ตอบปฏิเสธไปและเมื่อจบไลฟ์นั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่หลังจากนั้นก็พบว่ามีข้อมูลที่บิดเบือนจึงทำให้เกิดการไม่สบายใจ หลังจากนั้นวันที่ 27 ธันวาคม ก็ยังมีการพยายามชวนเข้าไลฟ์อีก

ย้ำว่า ตนไม่ได้ให้อินฟลูบางนาคนดังกล่าวไปพูดตามที่เค้าพูดในไลฟ์ และยืนยันว่าตนไม่ได้ฝากไปบอกคุณกัน จอมพลัง และตนเองยังมองด้วยว่า การที่อินฟลูบางนา ไปพูดในไลฟ์ลักษณะนั้นเป็นการกระทำที่แรง เพราะตนเองก็แอนตี้อินฟลูสายเทา สายดำอยู่แล้ว ส่วนจะมีผู้ใหญ่คนอื่นอีกหรือไม่ตนเองไม่ทราบ เพราะเวลาที่อินฟลูบางนามีการพูดคุยงานก็จะพูดถึงคำว่าผู้ใหญ่อยู่หลายครั้ง และส่วนตัวก็รู้จักกับอินฟลูบางนา เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น

โดยหลังนายจี ได้พูดคุยกับ “กัน จอมพลัง” เสร็จ “กัน จอมพลัง” บอกว่า “ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร เป็นคนแฟร์ๆอยู่แล้ว ก็รู้สึกโอเคที่กล้ามาคุย”.-420.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]