วันเบาหวานโลก 14 พ.ย. สธ.ปรับกลยุทธ์สู้โรคเบาหวาน

รพ.ราชวิถี 14 พ.ย.-สธ.พบคนไทยป่วยโรคเบาหวานร้อยละ 10 แนวโน้มเพิ่มขึ้น ปรับกลยุทธ์ใช้ อสส.และอสม.ที่เป็นเบาหวาน จัดอบรมให้ความรู้ดูแลตนเอง และแนะนำคนอื่นๆ ร่วมเป็นเครือข่ายสู้ภัยเบาหวาน นำร่อง ใน กทม.และขยายสู่ อสม. ทั่วประเทศ




นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดโครงการเสริมสร้างพลังในทีมผู้บริบาลผู้เป็นเบาหวานและอาสาสมัครสาธารณสุข” (Empowerment DM team and health care volunteers) วันนี้ (14พ.ย.) ที่ รพ.ราชวิถี ว่า องค์การอนามัยโลกและสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ ประกาศให้ วันที่ 14 พฤศจิกายน เป็นวันเบาหวานโลก ซึ่งในปีนี้รณรงค์ภายใต้คำขวัญ “เบาหวานกับครอบครัว” สร้างความรู้และเสริมทักษะให้ทุกครอบครัว สามารถปกป้องครอบครัวของตนให้พ้นภัยจากเบาหวาน มีสุขภาพดีอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข 

นายสาธิต กล่าวต่อว่า ปัจจุบันคนไทยประมาณร้อยละ 10 ป่วยเป็นโรค เบาหวานและมีความชุกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พบว่าสาเหตุโรคเบาหวานส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ดูแลรักษาหรือรักษาแต่ควบคุมไม่ได้ ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรงหลายอย่างตามมา เช่น ไตวาย ตาบอด หัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาต แผลเรื้อรัง หากอาการรุนแรงมาก อาจทำให้ต้องตัดขาหรือเท้า เกิดความพิการหรือเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควร กระทรวงสาธารณสุขได้มีแผนดำเนินงานทั้งด้านการป้องกัน รักษา ฟื้นฟู ลดอัตราป่วย ลดการเสียชีวิต เพื่อเข้าสู่การรักษาได้รวดเร็วขึ้น อาทิ การจัดบริการการรับยาใกล้บ้านเพื่อลดเวลาการรอคอย การพัฒนาทีมผู้ดูแลเบาหวานของแต่ละโรงพยาบาล รวมทั้งการใช้นวัตกรรม การจัดระบบสารสนเทศข้อมูลโรคเบาหวานเป็น Big data การจัดคิวอัจฉริยะในโรงพยาบาล นาฬิกาอัจฉริยะในการตรวจน้ำตาลต่ำ เครื่องตรวจลมหายใจเพื่อดูเบาหวานภาวะวิกฤติ การถ่ายภาพจอตาในเบาหวานโดยระบบ AI และการให้ความรู้ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ เป็นต้น


นายสาธิต กล่าวอีกว่า การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนับเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาผู้ป่วยเบาหวาน เพราะแพทย์ผู้ดูแล ทีมสหวิชาชีพ และยาเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาเท่านั้น  ทีมผู้ดูแลและครอบครัวเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญด้านพฤติกรรม ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้จัดโครงการอบรมพัฒนาความรู้ ให้กับอาสาสมัครกรุงเทพ (อสส.)และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน เข้าร่วมเรียนรู้การดูแลตนเอง สามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปแนะนำเพื่อนผู้เป็นเบาหวาน ในการดูแลตนเองและป้องกันโรค จะช่วยให้การจัดการโรคเบาหวานมีประสิทธิภาพและยั่งยืน 

ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รับความร่วมมือจากประเทศเดนมาร์ก และworld diabetes foundation ช่วยในการพัฒนาทีมผู้ดูแลผู้เป็นเบาหวาน รวมทั้งจัดตั้งชมรมเบาหวานในโรงพยาบาล โดยในระยะแรกจะจัดอบรม อสส.ที่เป็นโรค เบาหวานจาก 50 เขตๆละ10 คน รวม 500 คน เข้าร่วมเพื่อเรียนรู้การดูแลตนเอง และจะก่อตั้งเป็น ชมรมเบาหวาน อสส.กทม.นำความรู้ไปแนะนำผู้เป็นเบาหวานในการดูแลและป้องกันโรค ในระยะต่อไปจะขยายการอบรม อสม.ในทั้ง 13 เขตสุขภาพทั่วประเทศต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน