“อนุทิน” เดือด “ภูมิธรรม” ใช้เขากระโดงดิสเครดิต

พรรคภูมิใจไทย 23 ก.ย.-“อนุทิน” เดือด “ภูมิธรรม” ใช้เขากระโดงดิสเครดิต อยู่มา 3 เดือนไม่เห็นทำอะไรได้เลยดีแต่พูดเป็นฮีโร่หน้าจอ เหน็บไปจับยาเสพติดก็เดินตามแบบก๊อปปี้การทำงาน “ภูมิใจไทยกับเพื่อไทย” ไม่ใช่รักร้าว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปัญหาเขากระโดงไม่คืบหน้า เพราะมีนายอนุทินคุมมหาดไทย นายอนุทิน ฟังคำถามแล้วหัวเราะ ก่อนถามกลับว่า “แกยังพูดแบบนี้อยู่หรือ แต่ก็ไม่เป็นไรเอาที่ท่านสบายใจ”


ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาแก้ต่างเรื่องที่ดินเขากระโดง จะถูกมองว่าเป็นการปกป้องพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยออกมาแถลงแล้ว ว่าสิ่งที่นายภูมิธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แถลงข่าวไม่ตรงกับผลการประชุม เพราะฉะนั้นต้องไปถามท่านไม่ใช่มาถามตน โดยกรมที่ดินแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน ไม่เกี่ยวกับตนเลยเพราะตนยังไม่ได้เข้าไปบริหารกระทรวงหรือรัฐบาลเลย

“เราไม่ได้กลัว เพราะบอกไว้อยู่แล้วว่าทุกอย่างต้องเป็นเป็นไปตามกฎหมาย หากเขาดำเนินการตามกฎหมายได้ เขาคงดำเนินการไปแล้ว แต่ออกมา 3 เดือนแล้วไม่เห็นทำอะไรเลย ได้แต่พูด พอตัวเองทำไม่ได้ก็มาโทษคนอื่น มาโทษหาว่าผมเข้ามาแล้ว ทุกอย่างจะหยุด เรื่องยาเสพติดไปจับโน่นไปจับนี่ ก็เดินตามผม ทีมผมทั้งนั้นที่ตั้งมา อยากเป็นฮีโร่ทางหน้าจอเท่านั้น กล้าไปเหมือนผมหรือเปล่า ลงพื้นที่ชายแดนแบบผมเคยไปหรือไม่ ไปจับยาเสพติด แถลงข่าวอยู่เสี่ยงกระสุนเสี่ยงลูกปืน เคยทำเหมือนผมไหมล่ะ ปากก็เอาแต่พูดไปเรื่องวาทกรรม” นายอนุทิน กล่าว


เมื่อถามว่าเป็นความพยายามจะดิสเครดิตหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า นายภูมิธรรมพยายามดิสเครดิตอยู่แล้ว และทำมาตลอด เพราะนายภูมิธรรมอยากเป็น มท.1 มาแต่ไหนแต่ไร จึงดิสเครดิตตนมาโดยตลอด

“จากคนที่เคยรักกันมา ครั้งล่าสุดที่ผมเจอคุณภูมิธรรมยังกอดกันอยู่เลย แต่ผมเข้าไปก็เปลี่ยนเป็นคนละคน แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเขาประสบความสำเร็จไป 2 เดือนกว่า“ นายอนุทิน กล่าว

ส่วนหากมีการอภิปรายประเด็นเขากระโดงในสภายินดีที่จะตอบหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่ยินดีตอบ แต่ต้องตอบเลย และตนเตรียมพร้อมที่จะตอบ เพราะข้อเท็จจริงมันมีอยู่แล้ว และฝ่ายที่จะพูดหรือชี้แจงก็เป็นฝ่ายข้าราชการประจำ ไม่เกี่ยวกับฝ่ายการเมือง และอย่างที่บอกว่าตอนนี้ยังไม่ได้เข้ากระทรวง และยังไม่ได้ติดต่อใคร มีแต่คนติดต่อเข้ามา ตอนที่ตนไม่อยู่ก็หายไปหมด แต่ตอนนี้ก็มีคนมาดักรอ ไปไหนมาไหนก็มาดักรอ ซึ่งตนก็ไม่ได้ถือโทษโกรธ และไม่เหมือน นายภูมิธรรม ที่เข้ามาฟาดเละหมดเลย แต่ตนไม่มีหรอก มีแต่คำว่าให้อภัย และร้องเพลง เบิร์ดกะฮาร์ต ชื่อเพลง “ลืม”


ส่วนกรณีที่ตอนนี้พรรคเพื่อไทยออกไปเป็นฝ่ายค้านแต่ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายแค้น และเปรียบเสมือนเป็นรักร้าว นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่รักร้าวหรอก มันแตกหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวย้ำถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าแสดงว่าไม่สามารถจับมือพรรคเพื่อไทยได้แล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็เป็นการเมือง หากเขาแรงมาเราก็แรงกลับ มันก็ไม่จบ ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็ทำกับผมขนาดไหน ผมก็ไม่เคยทำอะไรกลับ ทำงานอย่างเดียว ทำให้กับพี่น้องประชาชน ไอ้เรื่องที่จะไปคิดบัญชี เหมือนที่เขาทำกับผมไม่มีหรอกครับ ย้ำว่าไม่มีปัญญาทำด้วย ซึ่งตนต้องทำตามกฏหมาย ไม่ใช้อำนาจ ไม่ใช้กลไกใดๆ ทางการเมือง ป้ายสีทำให้เกิดความเสียหายกับคู่แข่งทางการเมือง เพราะตนต้องการแข่งขันทางการเมือง ต้องแข่งกันทำความดี แข่งกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ตนสู้เต็มที่ แต่จะไม่ใช้กฎหมายหรือกลไกของรัฐที่ตนรับผิดชอบ มาป้ายสีคนอื่นเหมือนรัฐบาลชุดที่แล้วทำ

ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยจะมีโอกาสร่วมกับพรรคประชาชนได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราขอไม่พูดถึงเรื่องการเมืองในอนาคต เพราะยิ่งพูดก็จะยิ่งเกิดความสับสน ทุกวันนี้ตนทำทุกอย่าง มีเวลา 4 เดือน ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนเท่าที่ทำได้ โดยเฉพาะข้อตกลงที่ได้ทำไว้กับพรรคประชาชน ก็ต้องปฏิบัติตามทั้ง 5 ข้อ หากไปย้อนดูในการอภิปรายของหัวหน้าพรรคประชาชน ที่มีช่วงหนึ่งบอกว่า เลือกพรรคภูมิใจไทยเข้ามาเพื่อให้ยุบสภา ไม่ได้เข้ามาเพื่อบริหาร แต่ตนเข้ามาแล้ว ยังไงก็ต้องเข้ามาบริหารประเทศด้วย ซึ่งอาจจะขอขัดใจหัวหน้าพรรคประชาชนนิดหน่อย ที่จะบริหารประเทศ แต่ยุบสภานั้น ยุบสภาแน่ 120 วัน หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

ผู้สื่อข่าวย้ำถามว่า มีความโกรธแค้นอะไรกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาถูกพรรคเพื่อไทยกลั่นแกล้งทางการเมือง นายอนุทิน ย้ำว่า พ่อผมสอนมาโกรธร้อยครั้ง ไม่เท่าอภัยครั้งเดียว โกรธ ร้อยครั้งก็นอนไม่หลับทุกคืน อภัยครั้งเดียวไม่ถือสาครั้งเดียว อย่างกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีความสัมพันธ์และความผูกพันที่ดี ซึ่งท่านเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เราไม่ได้มีอะไรกัน คนอื่นจะมีอะไรผมไม่ตอบโต้ ย้ำว่า ลืม ลืม ลืม ปล่อยวางครับ ผู้สื่อข่าวจึงย้ำถามว่า แก้วมันแตกไปแล้ว จะกลับมาประสานใหม่ได้หรือไม่ นายอนุทิน จึงย้ำว่า ลืมไปทุกอย่าง ถึงเวลาค่อยมาว่ากันใหม่ ตอนนี้ขอแข่งกับตัวเองก่อน ขนาดวันนี้ยังไม่ได้เข้าทำงานเลย ยังโดนเหมือนทำงานมาแล้วเดือนสองเดือน ตรงไหนประสานได้มีความพร้อมต้องรีบประสาน

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ามีอะไรจะฝากสั้นๆ หรือไม่ นายอนุทิน ส่ายหัว ไม่มีครับ ผมวาทกรรมไม่เก่ง

ก่อนออกจากวงสัมภาษณ์ ปฏิเสธไม่ทราบ เรื่องที่มีรายชื่อของคณะรัฐมนตรี ที่อยู่ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ปมเรียกรับเงิน ถูกสอบอยู่ในชั้น ป.ป.ช..-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

กต.ยันบังคับใช้กฎหมายไทยในดินแดนไทย จี้ “เขมร” หยุดปลุกระดม

ก.ต่างประเทศ 23 ก.ย.- กต.ยันบังคับใช้กฎหมายไทยในดินแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน และปฏิบัติตามหลักสากล ใช้ตํารวจควบคุมฝูงชน ไม่ใช่กําลังทหาร จี้ “เขมร” หยุดปลุกระดม-บิดเบือนประชาคมโลก ส่งผลสัมพันธ์ร้าวลึก นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการบังคับใช้กฎหมายไทยต่อพลเมืองกัมพูชา ที่รุกล้ำเข้ามาประท้วงในบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยยืนยันว่า ไทยบังคับใช้กฎหมายภายในของไทยกับบุคคลที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือน ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวของฝ่ายไทยเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐและเป็นไปตามหลักสากลที่ทุกประเทศยอมรับ สําหรับกรณีที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทย จงใจบิดเบือนแผนผัง ที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตําแหน่ง หลักเขตแดนที่ 42 และ43 ว่าเป็นเขตแดนจริงนั้นขอเรียนยืนยันว่าฝ่ายไทยไม่เคยระบุ แผนผังดังกล่าวกําหนด เส้นเขตแดนเพราะการเจรจาเส้นเขตแดนอยู่ภายใต้อาณัติ ของกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี ทั้งนี้แผนผังที่ไทยนําแสดงดังกล่าว เป็นเพียงการนําพิกัดหลักเขตแดน ไปทําภาพจําลองเส้นเขตแดน บนแผนที่แบบไม่เป็นทางการเท่านั้นเพื่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไป โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวถึง สําหรับข้อกล่าวหาที่กัมพูชาระบุว่าไทยละเมิดเอ็มโอยู 2543 ว่าด้วยการสํารวจและการจัดทําหลักเขตแดนทางบกนั้น กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาเองที่เป็นฝ่ายละเมิดโดยปล่อยให้มีการสร้างอาคาร บ้านเรือนชุมชนทั้งในเขต พื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์และในเขต ขณะที่เป็นอธิปไตยของไทยซึ่งฝ่ายไทยได้ทําการประท้วงในกรอบเอ็มโอยูแล้วกว่า 500 ครั้ง ในห้วง 20ปีที่ผ่านมาแต่ฝ่ายกัมพูชากลับเพิกเฉยและไม่ยอมแก้ไข ส่วนกรณีที่กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรม ที่บ่อนทําลายความพยายามลดความตึงเครียด ข้อตกลงหยุดยิงนั้น นายนิกรเดช กล่าวย้ำว่าประเทศไทยมุ่งมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง […]

นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว กลัวกลับมาไม่ทันแถลงนโยบาย

ภูมิใจไทย 23 ก.ย. – นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว เหตุเงื่อนเวลาไม่เอื้อ หวั่นกลับมาไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ไม่เสียโอกาสแจงเรื่องอธิปไตย เชื่อชาวโลกรู้ไทยมีนโยบายชัดเจน ยันร่างนโยบายปกน้ำเงินเสร็จแล้ว นำเข้า ครม.นัดพิเศษ พรุ่งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำโลก UNGA ครั้งที่ 78 ว่า ได้มีการหารือกับฝ่ายคนใหม่แล้ว ซึ่งจากการดูเวลา กลัวจะไม่ทันการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ทั้งนี้ก็จะมีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่สำคัญมีเรื่องของอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ด้วย ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ดี มีความคิดเห็นหลากหลาย ทั้งไปได้และไปไม่ได้ แต่ทั้งนี้มีแนวทางที่ชัดเจน ไม่ได้มีการลงนามในข้อตกลง แต่แนวทางของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลนี้เข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นที่เรียบร้อย ก็มีความชัดเจนที่จะบริหารสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างไร ส่วนจะเป็นการเสียโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าความเชื่อมั่นอยู่ที่การจัดการและการได้รับการสนับสนุนจากประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและกองทัพ ซึ่งความเชื่อมั่นอยู่ตรงจุดนี้ ไม่ใช่อยู่ที่เวทีไหน เพราะเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ขณะที่ทุกฝ่ายในบ้านเรามีความพร้อม ประชาชนให้การสนับสนุนนโยบายต่างๆ นโยบายของกองทัพและรัฐบาล นี่ต่างหากคือความเชื่อมั่น ส่วนกรณีที่กฤษฎีกาชี้ว่า หากมีเหตุที่จำเป็น ก็ถือว่าดำเนินการได้ นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่าจำเป็นคืออะไร อย่างสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ไม่จำเป็นจะต้องชี้แจงกับใคร เพราะประชาคมโลกก็รับทราบสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว […]

เร่งล่ามือมืดรัว 15 นัด ยิงดับสมาชิก อบต.กรงปินัง

ยะลา 23 ก.ย. – เร่งล่ามือมืดรัว 15 นัด ยิงสมาชิก อบต.กรงปินัง เสียชีวิตหน้าบ้านพัก อ.กรงปินัง จ.ยะลา ตำรวจตั้ง 2 ปม “แค้นส่วนตัว-สร้างสถานการณ์” จากเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายอิสมาแอ กาแจ อายุ 61 ปี สมาชิก อบต.กรงปินัง ขณะจอดรถยนต์กระบะเตรียมเข้าบ้านพักในพื้นที่บ้านลือมุ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ตรวจสอบรอยกระสุนในตัวผู้ตายพบ 12 นัด เข้าบริเวณหน้าอกและลำตัว โดยแขนซ้าย 2 นัด และใบหน้าอีก 1 นัด เมื่อเวลา 21.22 น. ของวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา เช้านี้ (23 ก.ย.) ตำรวจ สภ.กรงปินัง ลงพื้นที่เกิดเหตุรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบกองเลือดอยู่ใกล้รถยนต์กระบะของผู้ตาย แต่ไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งปมก่อเหตุเรื่องส่วนตัว แต่ยังไม่ตัดประเด็นการสร้างสถานการณ์ นายอาดือนัน ฮามิดง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ […]

นายกสมาคมค้าทองคำ รับทองขึ้นเร็ว-แรง สิ้นปีทองไทยอาจแตะ 59,000 บาท

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – ทองไทยทุบสถิตินิวไฮรอบใหม่ เปิดตลาดพุ่งพรวด 550 บาท ทองไทยแตะ 57,300 บาท ตามราคาทองโลกที่นิวไฮต่อเนื่อง นายกสมาคมค้าทองคำ รับทองขึ้นเร็ว-แรงกว่าคาด สิ้นปีทองไทยอาจแตะ 59,000 บาท สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทองคำเปิดตลาดเช้านี้ (23 ก.ย.) เวลา 09.04 น. ปรับเพิ่มขึ้นทันที 550 บาท โดยทองแท่ง ราคารับซื้อ 56,400 บาท ขายออก 56,500 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 55,273.36 ขายออก 57,300 บาท แตะระดับสุงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยล่าสุดเมื่อเวลา 09.49 น. ปรับเปลี่ยนไปแล้ว 3 ครั้ง ทองแท่ง รับซื้อ 56,300 บาท ขายออก 56,400 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ […]