อดีตกำนันบุกทวงหนี้ไม่ได้เงิน ยิงดับยกครัว 3 ศพ

ชุมพร 9 พ.ย.-อดีตกำนันตำบลขุนกระทิง จ.ชุมพร บุกทวงหนี้กว่า 10 ล้าน จากเจ้าของสวนทุเรียน แต่ถูกบ่ายเบี่ยงหลายครั้ง โมโหเดือดชักปืน รัวยิง แม่ ลูก และหลานสาว วัย 13 ปี ดับ รวม 3 ศพ ส่วนสองพี่น้องชายหญิงวัย 12-15 ปี  วิ่งหนีตายรอดหวุดหวิด  


เมื่อเวลา 08.00 น. ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายหลายศพที่บ้านเลขที่ 9/2 หมู่ 7 ตำบลขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร บ้านเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังใหญ่ หลังคาทำเป็นดาดฟ้า รอบ ๆ เป็นสวนทุเรียน และกล้วยหอมทอง รวมพื้นที่กว่า 15 ไร่ พบศพนางจินดา พรหมทอง อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านนอนตายอยู่โต๊ะนั่งรับแขกใกล้ประตูเข้าบ้าน มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. ที่ใบหน้า 3 นัด นอกจากนี้ยังพบศพ นางพรทิพย์ ทองพรหม อายุ 38 ปี ลูกสาว ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันที่ใบหน้า 2 นัด  และในห้องครัวยพบศพ เด็กหญิงนัยปพร ภูวิชิต อายุ 13 ปี ลูกสาวของนางพรทิพย์ เสียชีวิตอยู่ใต้โต๊ะกินข้าว บนโต๊ะมีจานข้าว 3 จาน พร้อมกับข้าวลักษณะกำลังนั่งกินกันอยู่ แต่มีผู้รอดชีวิตอีก 2 คนพี่น้อง เป็นเด็กหญิงอายุ 15 ปี และเด็กชายอายุ 12 ปี เป็นลูกของนางพรทิพย์ผู้เสียชีวิต ซึ่งวิ่งหนีได้ทัน 


จากการสอบสวนนายอนนต์ ภูวิชิต สามีของนางพรทิพย์ เล่าว่า ช่วงเช้ารีบขับรถออกไปทำงานแถวสี่แยกปฐมพร ส่วนแม่ยายกับภรรยาเตรียมหาอาหารให้ลูก ๆ ทั้ง 3 คน กินเพื่อจะไปส่งที่โรงเรียนในตัวเมืองชุมพร  ออกไปได้ไม่นานลูกสาวคนโตอายุ 15 ปี ที่รอดชีวิตกับน้องชายวัย 12 ปี โทรมาบอกว่าแม่กับยายและน้องสาวอายุ 13 ปี ถูก “กำนันไข่” อดีตกำนันตำบลขุนกระทิง บุกมายิงตายทั้ง 3 คน   

 


ด้านพ.ต.อ.ภัคพล ทวิชศรี รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร กล่าวว่าหลังเกิดเหตุไม่นาน “กำนันไข่” หรือนายสุนันท์ รามดง อายุ 65 ปี อดีตกำนันตำบลขุนกระทิง มือปืนที่ก่อเหตุ ขับกระบะไปมอบตัวกับตำรวจ พร้อมปืนขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุ  

สอบสวนสารภาพว่า มาหานางจินดา เพื่อทวงหนี้ที่กู้ยืมไปลงทุนทำสวนทุเรียน และกล้วยหอมทอง กว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2558 แต่ได้ทยอยจ่ายเป็นเบี้ยหัวแตกจนเหลือประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งผู้ตายก็พยายามบ่ายเลี่ยงเรื่อยมา ประกอบกับช่วงหลัง นายสุนันท์ เดือนร้อนเรื่องเงินและที่ดิน ซึ่งจำนองไว้ก็กำลังจะถูกยึด จึงมาตามมาทวงหนี้คืน แต่ผู้ตายยังไม่มีให้จนเกิดมีปากเสียงกันขึ้นอย่างรุนแรง ก่อนชักปืนยิงรัวใส่นางจินดานางพรทิพย์ ลูกสาว ซึ่งกำลังนั่งอยู่ด้วยที่โต๊ะรับแขกหน้าบ้าน และยังได้ถือปืนวิ่งเข้าไปในบ้านยิง เด็กหญิง อายุ 13 ปีหลานสาว ที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ ส่วนเด็กอีก 2 คน อายุ 12 และ 15 ปี ลูกนางพรทิพย์ วิ่งหนีออกไปทางประตูหลังบ้านได้ทัน แล้วไปขอความช่วยเหลือจากญาติในละแวกใกล้เคียง เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข