BIG STORY : “เอ็ม” สารภาพฆ่าเศรษฐินีจริง อ้างโลภ อยากได้ทรัพย์สิน

เชียงใหม่ 31 ต.ค.-“เอ็ม” ผู้ต้องหาฆ่าเศรษฐินียัดตู้เย็นที่เชียงใหม่ เปิดปากรับสารภาพลงมือก่อเหตุจริง อ้างโลภ อยากได้ทรัพย์สินผู้ตาย หลังจนมุมถูกจับกุมได้ที่นครสวรรค์ เมื่อช่วงบ่ายวันนี้


ในที่สุดนายเอ็ม ผู้ต้องหาคดีฆ่าเศรษฐินีแล้วยัดตู้เย็นที่เชียงใหม่ จนมุมตำรวจถูกจับกุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนหมายเลข 1072 ต.หนองกระโดน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ขณะขี่จักรยานยนต์ที่พึ่งซื้อใหม่หลบหนี อยู่ระหว่างการนำตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5


ล่าสุด พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยืนยันนายเอ็ม ผู้ต้องหาคดีฆ่าเศรษฐินี เปิดปากรับสารภาพลงมือก่อเหตุจริง เพราะต้องการทรัพย์สิน แต่ยังไม่ให้การซัดทอดใคร อ้างเกิดความโลภ หลังสนิทคุ้นเคยกันจากการขับรถรับส่งจนรู้ว่าเป็นคนที่ร่ำรวย มีทรัพย์สินจำนวนมาก จนลงมือก่อเหตุ กดเงินสดจากบัตรผู้ตายไปกว่า 1 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังต้องคุมตัวนายเอ็ม เพื่อขยายผลก่อนสอบสวนอย่างละเอียด ทั้งวิธีการลงมือ การซ่อนเร้นศพ การทำลายหลักฐาน รวมทั้งต้องสอบสวนมีใครร่วมลงมือหรือให้ความช่วยเหลือในการหลบหนีหรือไม่ และต้องคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หากผู้ต้องหายินยอม


นายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร์ หรือ เอ็ม วัย 39 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่า น.ส.วรรณี จิรเจริญยิ่ง เศรษฐินีวัย 58 ปี แล้วนำศพยัดตู้เย็นในบ้านพักที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งพบศพเมื่อ 5 วันที่แล้ว ถูกตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจกองปราบปรามสกัดจับได้ที่บริเวณริมถนนสาย 1072 ต.หนองกระโดน อ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ฟอร์ซ่า ที่ซื้อจากร้านแห่งหนึ่งที่ อ.สนามจันทร์ จ.นครปฐม ในราคา 160,000 บาท พร้อมกับเงินสดติดตัวอีก 1.2 ล้านบาท

โดยเบาะแสพบนายเอ็ม หลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.ระยอง ชลบุรี กรุงเทพฯ ก่อนที่เมื่อคืนนี้พบว่า นายเอ็ม หลบหนีไปทาง จ.กาญจนบุรี ก่อนจะใช้เส้นทาง อ.ด่านช้าง สุพรรณบุรี มุ่งหน้าสู่พื้นที่ชัยนาทและตัดเข้าสู่ จ.นครสวรรค์ ก่อนถูกจับกุมได้ โดยนายเอ็ม มีสภาพอิดโรย หลังถูกตำรวจไล่ล่ากดดันอย่างหนัก หลังจากที่หลบหนีการจับกุมมานาน 5 วัน นับตั้งแต่เจ้าหน้าที่พบศพเจ๊วรรณ แต่หากนับตั้งแต่นำเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดเงินครั้งแรก ซึ่งคาดว่าเป็นวันหลังก่อเหตุ รวมเป็นเวลา 20 วัน โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการควบคุมตัวนายเอ็ม มาสอบสวนที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5

สำหรับคดีสยองฆ่าเศรษฐินียัดตู้เย็นในบ้านพักที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งซื้อไว้ระหว่างการปฏิบัติธรรมที่วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและพบศพเจ๊วรรณ ช่วงบ่ายของวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมกับรถยนต์บีเอ็มดับบลิว โทรศัพท์ บัตรเอทีเอ็ม และตุ้มหูเพชรของผู้ตายหายไป

จากนั้นตำรวจจึงติดตามเบาะแสจนพบภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพนายเอ็ม นำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดเงินครั้งแรกที่ อ.ฮอด เมื่อ 11 ตุลาคมและอีกหลายครั้งในหลายพื้นที่ และยังมีภาพนายเอ็ม ขับรถยนต์ของผู้ตายไปตามเส้นทางทั้งเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง และกลับมาเชียงใหม่ ก่อนจะนำรถยนต์ไปฝากคนรู้จักที่รับจำนำรถไว้ แต่เมื่อกลายเป็นข่าวดัง คนรับฝากนำรถยนต์ไปจอดทิ้งในป่าละเมาะที่ อ.สารภี เชียงใหม่ ส่วนป้ายทะเบียนถอดไปทิ้งในห้องน้ำที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ จากนั้นนายเอ็ม พร้อมแฟนสาว จึงขึ้นเครื่องบินไปกรุงเทพฯ เช่ารถยนต์ต่อไปเที่ยวเสม็ด ก่อนย้อนกลับมากรุงเทพฯ และให้แฟนสาวขึ้นเครื่องกลับเชียงใหม่ ส่วนนายเอ็ม หลบหนีต่อ จนกระทั่งจนมุมในที่สุด

ล่าสุด มีรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนจะควบคุมตัวนายเอ็ม ไปเก็บหลักฐานและชี้จุดต่างๆ ตามเส้นทางการหลบหนี และจะขยายผลสอบปากคำเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการแถลงข่าวเกี่ยวรายละเอียดของคดีฆาตกรรมเศรษฐินียัดตู้เย็นในวันพรุ่งนี้ ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร