ตร.ไซเบอร์ล่าต่อเนื่องเครือข่ายโจรออนไลน์ 5 ปฏิบัติการ จับผู้ต้องหา 7 คน

19 มี.ค. – กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้แถลงข่าวจับกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายโจรออนไลน์ หลอกลงทุนผ่านทางออนไลน์โดย 2 คดีแรกเป็นของ บก.สอท.1 ที่มีการจับกุมนางสาวอาภรณ์อายุ 36 ปี ได้ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังมีผู้เสียหายมาแจ้งความว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการค้นหาแหล่งกู้เงินผ่านทางออนไลน์ ไม่มีการสมัครทำสัญญากู้ยืมเงินแต่ต้องโอนเงินเพื่อสมัครค่าสมาชิกก่อน ผู้เสียหายก็โอนเงินไปหลายครั้งรวมแล้วมากกว่า 80,000 บาท แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เงิน และไม่สามารถติดต่อได้


อีกคดีของ บก.สอท.1 คือการจับกุมนายสุนันท์ อายุ 32 ปี หลังไปหลอกผู้เสียหายให้มีการลงทุนในแพลตฟอร์มต่างประเทศโดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สูง ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อและร่วมลงทุน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 370,000 บาท เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า มีเพื่อนที่รู้จักกันมาชักชวน อ้างว่าเป็นงานง่าย ๆ ได้เงินเร็ว เพียงแค่เปิดบัญชีออนไลน์แล้วจะได้ค่าจ้างบัญชีละ 500 บาท ก็เลยไปเปิดบัญชีให้ทั้งหมด 9 บัญชี หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าจะถูกเอาบัญชีไปหลอกลวงคนอื่น

คดีที่ 3 บก.สอท.3 จับกุมเครือข่ายหลอกลงทุนทำธุรกิจในแอปพลิเคชั่นช็อปปี้ โดยนางสาวนาตถยา อายุ 23 ปี ได้มีการหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการส่งลิงค์ผ่านทางข้อความชักชวนให้มาร่วมลงทุนและจะได้ส่วนแบ่งเป็นค่าคอมมิชชั่นภายใน 10 นาที เพียงแค่ทำภารกิจกดรูปหัวใจแล้วเข้าไปสั่งสินค้า ช่วงแรกผู้เสียหายสามารถถอนเงินได้จริง แต่เมื่อเริ่มลงทุนและจำนวนเงินที่มากขึ้นก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 410,000 บาท และ บก.สอท. 3 ยังคงกวาดล้างทลายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็มีการจับกุมนางสาวสุดฤทัย อายุ 35 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้า ที่มีการเปิดร้านขายเสื้อผ้าบังหน้า โดยมีการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทาง facebook และอยู่ห่างจากสถานศึกษาเพียงแค่ 400 เมตร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านางสาวสุดฤทัย เคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อปี 2567 มาก่อนแล้ว พร้อมทั้งได้ตรวจยึดของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 59 ชิ้น


นอกจากนี้ ตำรวจได้มีการขยายผลจนสามารถไปจับกุมนายณัฐภูมิ อายุ 20 ปี ซึ่งผู้ต้องหาคนนี้ได้มีการซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากนางสาวสุดฤทัยไปขายต่อให้คนอื่น เบื้องต้นได้ตรวจยึดของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 8 ชิ้น

สุดท้ายเป็นผลงานของ บก.สอท. 5 มีผลงานการจับกุมเครือข่ายเว็บพนัน henghengshot789 จากการสืบสวนพบว่าเว็บนี้มีเงินหมุนเวียนในระบบประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน และพบว่าผู้ต้องหาแบ่งหน้าที่การทำเป็น 3 กลุ่ม คือ แอดมิน, กลุ่มจัดหาบัญชีม้า, กลุ่มผู้ถอนเงิน เบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายได้แล้ว 2 คน คือนายพีรณัฐ อายุ 34 ปี และนายอภิชาติ อายุ 49 ปี

นายพีรณัฐ ยังคงให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าตนเองทำหน้าที่จัดหาบัญชีธนาคารของบุคคลต่างด้าวให้กับเครือข่ายเว็บพนันเท่านั้น ไม่ใช่ผู้บริหารของเว็บ ส่วนนายอภิชาติ ยอมรับว่าตนทำหน้าที่จัดหาบัญชีม้าได้ค่าตอบแทนบัญชีละ 3,000 บาท.-420-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา