“สนธิรัตน์” ไล่บี้ พพ.-สนพ.เร่งช่วยเศรษฐกิจฐานราก


กรุงเทพฯ 31 ต.ค. -“สนธิรัตน์” ให้นโยบาย ทั้ง สนพ.-พพ. เน้นให้พลังงานช่วยเศรษฐกิจฐานราก –เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ย้ำปรับโครงสร้างราคาน้ำมันไม่เน้นลดราคา แต่ทำให้เกิดต้นทุนต่ำแข่งขันได้  

วันนี้ (31.ต.ค.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เดินทางไปตรวจเยี่ยมทั้งกรมพัฒนาพลังงานทดแทน พพ.)และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)โดยระบุว่า ต้องการให้หน่วยงานของกระทรวงฯเร่งทำแผนให้พลังงานสร้างประโยชน์แก่เศรษฐกิจฐานรากให้มากที่สุด เพื่อสร้างรายได้แก่ชุมชน โดยเฉพาะ พพ.ที่ควรทำอย่างไรให้โครงการพลังงานทดแทน โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ให้สอดประสานกับ”ประชารัฐสร้างไทย”  ที่สอดคล้อง กับแผนงานของ ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), กองทุนหมู่บ้านและสภาเกษตรกร


ส่วน สนพ.ได้ให้นโยบายเร่งกรอบของโรงไฟฟ้าชุมชนให้เสร็จในกลางเดือน พ.ย.นี้ และ เดินหน้า ปรับโครงกสร้างราคาน้ำมัน นั้นเป้าหมายหลัก ไม่ได้หวังลดราคาน้ำมันของประเทศแต่ให้ดูถึงการสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศว่าจะปรับอย่างไรให้ต้นทุนเหมาะสมแข่งขันได้  เช่นเดียวกับการทำงานปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี 2018) ,การทำงานของกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ,การทำงานของ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) จะต้องมีการทบทวนตามเป้าหมายสร้างขีดความสามารถของประเทศให้ได้มากที่สุด

รมว.พลังงาน กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการเร่งการก่อสร้างโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีให้เสร็จเร็วขึ้น 2-3 ปีนั้น ได้ให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พิจารณาว่า สามารถเร่งได้ หรือไม่ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องดูว่า ต้องปรับปรุงแผนพีดีพีอย่างไร การเร่งมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด และท้ายที่สุดก็ต้องดูว่าการจัดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี เพื่อ โรงไฟฟ้าแห่งนี้ จะดำเนินการอย่างไร 

ทั้งนี้  โครงการที่ รมว.พลังงานเร่งรัด ในส่วนของโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี  จำนวน 2 โรง รวมกำลังผลิต 1,400 เมกะวัตต์  สร้างให้เร็วขึ้น 2-3 ปี จากเดิมสร้างเสร็จปี 2570 และ 2571 ก็ให้ปรับให้สร้างเสร็จปี 2568 และ 2569 คาดเงินลงทุนประมาณ 70,000 ล้านบาท, โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน  500-1,000 เมกะวัตต์ ที่กำหนดให้มีการประกาศแผนชัดเจนในเดือน พ.ย.นี้ เงินลงทุนราว 2-2.5 แสนล้านบาท , โครงการรับซื้อโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ ให้เข้าระบบภายในปี 2565 ,ในขณะที่ พพ. ศึกษา เพิ่มสัดส่วนโครงการโรงไฟฟ้าชีวภาพจากหญ้าเนเปียร์ 500 เมกะวัตต์ ,โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวลรวม 118 เมกะวัตต์ โดยจะมีการประกันการรับซื้อไฟฟ้าจากเกษรตรกรที่ปลูกพืชพลังงานอย่างชัดเจน เช่น หญ้าเนเปียร์ ไผ่โตเร็ว เป็นต้น -สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย

“เฉิน” ตัวการสำคัญฉกเงินคนจีนในไทย บงการอยู่ต่างประเทศ

คดีคนจีนหลอกฉกเงินคนจีน รวมมูลค่า 13 ล้านบาท ตำรวจตามไปพบรถคันก่อเหตุ และยึดเงินคืนมาได้ แต่ “อาเฉิน” ตัวการสำคัญ หนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ทำเนียบฯ เตรียมสถานที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ 2568

ทำเนียบรัฐบาล จัดเต็ม เตรียมสถานที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ2568 เปิดหน้าทำงาน-นั่งเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี สวมบทบาทโฆษกรัฐบาล “นิวส์จิ๋ว” อ่านข่าวภาคภาษาไทย และอังกฤษ พบขบวนมาสคอต “หมูเด้ง” และผองเพื่อน