กกต. 31 ต.ค.-“ศรีสุวรรณ” ร้อง กกต.สอบ “พิเชษฐ-พีระวิทย์” ปมโอนเงิน 1 ล้าน คาดเป็นค่ามัดจำพรรคไทรักธรรมเข้าร่วมรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.00 น. วันนี้ (31 ต.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษณ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบนายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย กรณีพบหลักฐานสลิปการโอนเงินวันที่ 1 เมษายน 2562 จำนวน 1 ล้านบาทของนายพิเชษฐ ผ่านระบบบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาสะพานใหม่ดอนเมือง ไปยังบัญชีออมทรัพย์ของนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ 11 พรรคการเมืองขนาดเล็กมีการประชุมเพื่อพิจารณาจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ได้รับหลักฐานสลิปการโอนเงินดังกล่าวจากนายชัยวุฑ ตรึกตรอง อดีตรองหัวหน้าพรรคและรักษาการเลขาธิการพรรคประชาธรรมไทย ที่มาขอความช่วยเหลือในเรื่องคดีความ ซึ่งตนเห็นว่าการโอนเงินดังกล่าวมีความผิดปกติ หากให้เพื่อประโยชน์ในการจัดตั้งรัฐบาล ก็จะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 28 , มาตรา 29 , มาตรา 44 , มาตรา 65 โดยเฉพาะมาตรา 72 ที่ระบุว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งผู้ให้และผู้รับ โดยฝ่ายผู้รับอาจถึงขั้นต้องถูกยุบพรรค แต่ถ้าให้เป็นการส่วนตัว ก็ต้องมีหลักฐานสัญญาการกู้ยืม ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กำหนดไว้ชัดว่าการกู้เงินกันเกินว่า 2,000 บาทจะต้องทำเป็นหนังสือสัญญากู้ยืม รวมทั้งจะเป็นการให้พรรคการเมืองด้วยกันยืมก็ไม่ใด้เช่นกัน เนื่องจากรายได้ของพรรคการเมืองต้องมาจาก 7 ข้อตามที่ พ.ร.ป.พรรคการเมืองกำหนด ซึ่งไม่มีเรื่องการกู้ยืม หรือถ้าเป็นการบริจาคให้กัน ก็ต้องแจ้งต่อ กกต.ทราบทุกเดือน ดังนั้นจึงขอให้ กกต.ดำเนินการตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง โดยอาจส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินและดำเนินการตามกฎหมาย
“จะถือเป็นการให้มัดจำเพื่อให้พรรคเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ผมไม่ทราบ เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องตรวจสอบ แต่มีข้อน่าสงสัยว่าหลังการเลือกตั้งที่ทราบว่าพรรคไหนมี ส.ส.ในสังกัดเท่าใดแล้ว และมีพรรคเล็กที่คาดว่าได้ ส.ส.รวม 11 พรรคการเมือง และจากนั้นวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 ก็มีการประชุมของ 11 พรรคเล็กและลงสัตยาบันว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการโอนเงินดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เหตุการณ์นี้ ฉะนั้นมันเป็นเหตุผลที่เชื่อมโยงกัน การโอนกัน 1 ล้านบาทของหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย จึงมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเป็นการให้เพื่อแลกกับสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาล” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ไม่เชื่อว่าการโอนเงินดังกล่าวเป็นการยืมกันส่วนตัวของบุคคล เพราะเงิน 1 ล้านบาทไม่ใช่เงินเล็กน้อย จะมาใจดีให้ยืมกันโดยไม่มีการทำสัญญา คงไม่ได้ ส่วนที่นายพิเชษฐ ระบุว่านายชัยวุฒิที่ให้ข้อมูลต่อตนเองก็เพื่อใช้ตนเป็นเครื่องมือเพื่อทำลายนายพิเชษฐ เพื่อที่นายชัยวุฒิจะได้เป็น ส.ส.และหัวหน้าพรรคแทน ก็ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะพยานหลักฐานเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งนายพิเชษฐ และนายพีระวิทย์จะต้องมาพิสูจน์ต่อ กกต.ว่าเป็นไปตามคำร้องที่ตนได้ร้องหรือไม่
“ผมไม่สนว่าจะเป็นการทำลายกันหรือไม่ของพรรคการเมือง แต่เมื่อข้อมูลปรากฏเช่นนี้ ก็ต้องมายื่นร้องเพื่อให้ กกต.ทำข้อเท็จจริงให้ปรากฏ และหากได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีการให้เงินในลักษณะดังกล่าวกับพรรคการเมืองอื่น ๆ ผมก็จะยื่นเรื่องต่อ กกต.อีก” นายศรีสุวรรณ กล่าว.-สำนักข่าวไทย