ศาลยกฟ้อง “ศรีสุวรรณ” แจ้งเท็จเอาผิด “ทักษิณ” ปมครอบงำเพื่อไทย

ศาลอาญา 21 ก.พ. – ศาลยกฟ้อง “ศรีสุวรรณ” แจ้งเท็จเอาผิด “ทักษิณ” ปมครอบงำเพื่อไทย ศาลเห็นว่าการกระทำของจำเลยสามารถกระทำได้ และที่ผ่านมาจำเลยได้ฟ้องร้องนักการเมืองบุคคลอื่นในลักษณะนี้มาแล้ว ด้านเจ้าตัวยืนยันยังไม่คิดดำเนินคดีกลับ ขอนำคำพิพากษามาถกกันก่อน


กรณีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียนชื่อดัง จากการที่ก่อนหน้านี้นายศรีสุวรรณ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการลือกตั้ง (กกต.) ว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมิได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ได้ควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยยินยอมให้นายทักษิณ ควบคุม ครอบงำหรือชี้นำ เรื่องนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ทำให้พรรคการเมืองขาดความเป็นอิสระ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28, 29 ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ เวลา 09.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟังคำพิพากษาของศาลโดยให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารับฟังคำพิพากษาศาลว่า วันนี้ศาลอาญาได้นัดคู่กรณีมาฟังคำพิพากษาคดีที่นายวิญญัติ ชาติมนตรี ได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษตนที่ สน.ทุ่งสองห้อง ว่ามีเจตนากลั่นแกล้งนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยให้ได้รับโทษ เนื่องจากได้ไปร้องเรียน กกต.ให้ดำเนินการไต่สวนสอบสวน กรณีที่นายทักษิณ ไลฟ์สนับสนุนนโยบายค่าแรง 600 บาทของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเห็นว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนพระราชบัญญัติพรรคการเมือง อาจเป็นการครอบงำหรือควบคุมพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะนายทักษิณไม่ได้เป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการสู้คดีและตนก็ปฏิเสธมาโดยตลอด


นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เชื่อว่านายวิญญัติ ได้รับมอบอำนาจจากนายทักษิณ หรือพรรคเพื่อไทยให้ดำเนินคดีกับตัวเอง กระทั่งนายวิญญัติได้แถลงต่อศาลว่าไม่ได้เป็นผู้รับมอบอำนาจ แต่แจ้งความดำเนินคดีกับตนในฐานะประชาชนที่ได้รับฟังข่าว จึงมองว่าผู้ที่จะแจ้งความดำเนินคดีได้คือ ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย หรือ เป็น กกต. ซึ่งมีหน้าที่ในการไต่สวนเท่านั้น ทั้งนี้ได้เคยแถลงไว้ชัดเจนแล้วว่าการร้องเรียนต่อ กกต. เป็นสิทธิของประชาชนตามกฎหมาย ในการนำความไปร้องเพื่อให้ กกต.ดำเนินการไต่สวนสอบสวนพฤติการณ์ของนักการเมืองหรือพรรคการเมืองว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

อีกทั้งสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่ตนดำรงตำแหน่งอุปนายกและเลขาธิการในช่วงที่ไปร้องเรียนก็มีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการตรวจสอบการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม การทำหน้าที่ของตนจึงถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์ของสมาคมชัดเจน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด แต่ไปร้อง กกต. ในฐานะประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งหาก กกต.สอบสวนแล้วมีมูลก็ดำเนินการต่อไป หากไม่มีมูลก็ทิ้งไปเท่านั้น ซึ่งการร้องเรียนต่อ กกต. เป็นสิ่งที่หลายคนทำมาโดยตลอด ไม่ใช่เฉพาะตนเท่านั้น ดังนั้นวันนี้เมื่อเรื่องถึงชั้นศาลแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับศาลอาญาว่าจะพิจารณาวินิจฉัยและมีคำพิพากษาอย่างไร

ต่อมาเวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า มีคำพิพากษาเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ทุกประการ การที่ผมใช้สิทธิ์ไปร้องเรียนให้มีการไต่สวนสอบสวนนายทักษิณ และพรรคเพื่อไทยกรณีไลฟ์พูดสนับสนุนนโยบายค่าแรง 600 บาท ของพรรคเพื่อไทยเข้าข่ายการชี้นำครอบงำพรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งศาลได้วินิจฉัยชัดเจนว่า เป็นสิทธิโดยชอบของประชาชน และตัวเองก็มิได้ฝักใฝ่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเนื่องจากอดีตที่ผ่านมาเคยไปร้องเรียน กกต.ให้ยุบพรรคการเมืองมาแล้วหลายพรรค ทั้งพรรคอนาคตใหม่ พรรคไทยรักษาชาติ รวมทั้งนักการเมืองอื่นถูกศาลฎีกาพิพากษาตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปหลายคนจึงเป็นการชี้ให้เห็นว่าการทำหน้าที่ของตัวเองเป็นไปโดยชอบไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง เพราะใช้สิทธิ์ของการร้องเรียนกับ กกต.ในกรณีดังกล่าว เพื่อให้ทาง กกต. ได้ตรวจสอบไม่ได้เป็นการใส่ร้ายแต่อย่างใดเพียงต้องการให้ กกต.ปฏิบัติหน้าที่ไปตามกฎหมายในการไปไต่สวนสอบสวนว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามคำร้องเรียนหรือไม่เท่านั้นจึงไม่มีประเด็นที่จะอ้างได้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือใส่ร้ายป้ายสีแต่อย่างใด ศาลพิพากษายกฟ้อง


นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นบรรทัดฐาน การมากล่าวโทษร้องเรียนตัวเองเป็นการเตะตัดขาไม่ให้ไปร้องเรียนนักการเมืองหรือพรรคการเมือง ทำให้ตัวเองต้องมาสู้คดี เมื่อศาลมีคำพิพากษาอย่างนี้ ทำให้ผม รวมถึงคนทั้งประเทศและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสามารถใช้สิทธิ์ตามกฎหมายโดยไม่ต้องไปพะวงว่าการไปร้องเรียนกับหน่วยงานใดก็ตามจะมีความผิด เพราะถือว่าการใช้สิทธิ์ของประชาชนเป็นไปโดยชอบ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว

เมื่อถามว่าจะเอาผิดกับใครหรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องว่ากันอีกครั้ง หลังจากนี้จะต้องไปคัดสำนวนว่ามีกรณีไหนที่จะเป็นการจงใจที่จะขัดขวางการใช้สิทธิ์โดยชอบ หรือจงใจที่จะสร้างภาระให้กับตัวเองโดยไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่กล่าวโทษ รวมถึงพนักงานสอบสวน เหมือนที่ศรีปราชญ์เคยพูดไว้ ดาบนั้นต้องคืนสนอง

นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า วันนี้ยังไม่คิดจะดำเนินคดีกลับ ยังมีระยะเวลาที่จะต้องมานั่งคิด นั่งทำความเข้าใจ โดยเฉพาะตัวเองมีทีมที่ปรึกษากฎหมายค่อนข้างเยอะ จะต้องนำคำพิพากษามาดูและถกกันในแต่ละประเด็น นำคำให้การของพยานทั้งพยานวัตถุ พยานเอกสาร พยานบุคคล มาตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วน. -419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย