นายกฯ ระบุแก้ปัญหาสงครามทางการค้าต้องยึดผลประโยชน์ของไทย

กรุงเทพฯ 28 ต.ค.-นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานมหกรรมแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลระดับนานาชาติ ระบุเมื่อเกิดสงครามทางการค้า ต้องแก้ปัญหาจากภายในภายใต้ผลประโยชน์ของคนไทย จะไปก้าวล่วงคนอื่นไม่ได้  และคนอื่นจะมาก้าวล่วงเราไม่ได้เช่นกัน ยันรัฐบาลเร่งสร้างความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลขอทุกฝ่ายร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยดิจิทัลอย่างไร้รอยต่อ 


ที่ไบเทค บางนา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลระดับนานาชาติ Digital Thailand Big Bang 2019 : โลกเปิด เราปรับ ประเทศเปลี่ยน : ASEAN Connectivity ที่จัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อบทบาทของประเทศไทยในเวที ASEAN Connectivity 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้การสร้างการเชื่อมโยงภายในเพียงอย่างเดียวไม่พอ ต้องเชื่อมโยงกับรอบบ้านภายนอกกับต่างประเทศด้วย ในวันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะเห็นพัฒนาการทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล ตนขอชื่นชมและให้กำลังใจในความเข้มแข็งของทุกภาคส่วนในการเร่งสร้างความพร้อมเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยดิจิทัล  วันนี้ต้องทำให้ดิจิทัลเกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วน ทั้งการเงินการบริการ เพื่อนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ให้ได้มากที่สุด อย่างเชื่อมโยง ไร้รอยต่อ ไม่มีอุปสรรค


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของการนำข้อมูลจากภาครัฐ หรือ Big Data เข้ามาแก้ไขต่าง ๆ ของประเทศไทย เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ซึ่งต้องทำ Big Data มาใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อลดความซับซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพรัฐบาลกำลังเดินหน้า แม้ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถทำได้ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำ ทุกอย่างต้องเดินไปตามขั้นตอนจนถึงการก้าวไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยการทำตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทุกอย่างมีโรดแมปในการเดินหน้าของประเทศ หลายอย่างไม่ใช่คิดแล้วทำได้เลย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก มีกฎหมายหลายตัว ต้องค่อย ๆ แก้ไปเป็นขั้นตอน อะไรที่ร่วมมือทำได้เร็วก็ต้องเร่งทำทุกอย่างต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นหลัก 

พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งเน้นการดำเนินนโยบายประเทศไทย 4.0 การนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยและประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ของภาครัฐมาพัฒนากลุ่มคนและกลุ่มธุรกิจสำคัญคือเกษตรกรและ SMEs  ซึ่งเป็นสัดส่วนประชากรส่วนใหญ่ของประเทศเพื่อยกระดับรายได้ให้ทั่วถึง หากสำเร็จประเทศไทยจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น และก้าวสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้ตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ บนพื้นฐานการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ตามนโยบายเร่งด่วน 12 ข้อ ได้สนับสนุนเรื่องการเดินหน้าเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อให้การพัฒนาเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงยุทธศาสตร์ชาติด้านเศรษฐกิจ ช่วงหนึ่งว่า เมื่อเกิดสงครามทางการค้า ต้องยอมรับว่าเมื่อไม่สามารถแก้ไขกฎหมายของประเทศเขาได้ ก็ต้องเริ่มที่ตัวเราภายใต้ความเห็นชอบและผลประโยชน์ของประชาชนคนไทย จะไปก้าวล่วงคนอื่นไม่ได้ แต่คนอื่นก็จะมาก้าวล่วงเราไม่ได้เช่นเดียวกัน


“สิ่งที่ผมพูดอาจยาว แต่ต้องการให้คนไทยได้เรียนรู้ว่า รัฐบาลมุ่งหวังเดินหน้าประเทศไทย พร้อมกับประเทศรอบข้าง จะขัดแย้งกับใครไม่ได้ทั้งสิ้น ปัญหาของใครของมัน กฎหมายต่างคนต่างมี ต้องเคารพกฎหมายของแต่ละประเทศ หลายอย่างเสี่ยงมีความอ่อนไหวมากในยุคปัจจุบัน ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีและในส่วนของดิจิทัลที่ต้องระมัดระวังในการพูด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับยุทธศาตร์ด้านความมั่นคง การใช้สื่อออนไลน์มีมากมาย มีทั้งดีและไม่ดี หากใช้ในทางที่ดีก็เกิดประโยชน์ หากใช้ในทางไม่ดี ก็มีเรื่องที่ลุกลามไปถึงความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์ หรืออาชญากรรมทางไซเบอร์ ที่รัฐบาลต้องเตรียมการแก้ไขตรงนี้ โดยออกพระราชบัญญัติ 2 ฉบับ ประกอบด้วย พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และพ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งขณะนี้มีผลบังคับใช้แล้ว พร้อมกับมีการตั้งคณะกรรมการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ มาดูแล ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ทุกรูปแบบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการใช้สื่อออนไลน์ ด้วยการอย่าหลงเชื่อสิ่งผิด ๆ หรือโฆษณาต่าง ๆ เช่น แชร์ลูกโซ่ เป็นต้น หากหลงเชื่อจะกลายเป็นเหยื่อที่ถูกหลอก ทุกคนต้องสร้างภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งให้ตนเอง 

“ระหว่างที่ผมเดินทางมา ดูเหตุการณ์ในโทรทัศน์ เป็นข่าวหลอกลวงเรื่องของการลงทุนร่วมลงทุน จะเป็นไปได้อย่างไรลงทุน 1,000 บาท ได้กำไร 930 บาทต่อเงิน 1,000 บาท มีคนหลงเชื่อมากมายที่สำคัญคือคนต้องมีภูมิต้านทานภูมิคุ้มกันตนเองก่อน ไม่มีอะไรได้กำไรขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นก็จะหลอกลวงกันไปเรื่อย ๆ ยอมรับว่าทุกประเทศมีปัญหาเรื่องเหล่านี้ ซึ่งต้องช่วยกันแก้สร้างภูมิคุ้มกันของคนไทยให้เข้มแข็ง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการจัดอันดับดิจิตอลของไทยนั้นดีขึ้น ได้อันดับที่ 38 จาก 40 เพราะฉะนั้นสิ่งที่คนไทยปรับและเห็นได้ชัดเจน คือ เรื่องการใช้บริการอินเตอร์เนตแบงก์กิ้งมากขึ้น หรือมีการใช้ระบบออนไลน์ทางการเงินมากขึ้น เพื่อความสะดวกคล่องตัว ส่วนเรื่องเมืองอัจฉริยะ รัฐบาลจะเร่งพัฒนาอย่างเร่งด่วนให้เป็นเมืองอัจริยะด้วยการใช้เทคโนโลยี ให้มีความน่าอยู่ขึ้น 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับกลุ่มเกษตรกร ที่เป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ยังอาจเข้าถึงเทคโนโลยีได้ไม่มากนัก รัฐบาลจึงต้องหาวิธีการให้เกษตรกรเรียนรู้ไปด้วยกัน เพิ่มช่องทางหารายได้ จัดทำเอสเอ็มอีให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในทุกกระบวนการผลิตไปจนถึงการขายสินค้า โดยรัฐบาลจะเข้าไปช่วยอย่างเต็มที่ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องกับการที่ประเทศไทยได้รับบทบาทประธานอาเซียนอีกครั้งหนึ่งในรอบ 10 ปี งาน Digital Thailand Bigbang 2019 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ASEAN Connectivity ที่มีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลร่วมกับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน อาทิ การเพิ่มประสิทธิภาพอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การสร้างแรงงานที่มีทักษะผ่านระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต การพัฒนาระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลการเพิ่มประสิทธิภาพและระบบโลจิสติกส์ ให้เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ 

นายกรัฐมนนตรี กล่าวว่า การรวมตัวกันเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจธุรกรรมระหว่างประเทศสมาชิกให้มีมาตรฐาน และกฎระเบียบข้อบังคับที่มีประสิทธิภาพทั้งในด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกระแสข้อมูลระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยให้เศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขยายตัวได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน เพิ่มโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและหากประชาชนช่วยกันสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อใช้โอกาสจากเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างสรรค์ความก้าวหน้าให้กับภูมิภาคอาเซียน และประชาคมอาเซียนที่จะก้าวไปสู่การเติบโตด้วยกันอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาเสร็จสิ้น ได้เดินชมบูธและร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงาน อาทิ บูธ set ห้องเรียนผู้ประกอบการ บูธสมาร์ทโชห่วย บูธธนาคารต่างๆ บูธธุรกิจออนไลน์ และบูธนวัตรกรรมดิจิตอลต่าง ๆ และบูธชงกาแฟด้วยหุ่นยนต์  นายกรัฐมนตรีได้สั่งกาแฟเย็นมารับประทาน และบอกว่าอันนี้ซื้อ  นายกรัฐมนตรีได้ทดสอบรถยนต์ไร้คนขับควบคุมระยะไกลผ่านทางเครือข่าย 5จี ด้วยรีโมทคอนโทรล ซึ่งบรรยากาศภายในงานมีประชาชน นักเรียน นักศึกษา มาชมงาน และเมื่อเจอนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความชื่นชมและพยายามจะถ่ายรูปนายกรัฐมนตรีด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]

ศบ.ทก.​ ยืนยันคลิปทหารกัมพูชาของจริง​ ชี้​ชัดละเมิดข้อตกลงใช้ทุ่นระเบิด

ทำเนียบ 20 ส.ค.-ศบ.ทก.​ ยืนยันคลิปทหารกัมพูชาเป็นของจริง​ ชี้​ชัดละเมิดข้อตกลงใช้ทุ่นระเบิด ขัดอนุสัญญาออตตาวา เตรียมยื่นหลักฐานศุกร์นี้ ย้ำพื้นที่บ้านหนองจาน​ จ.สระแก้ว​ เป็นอธิปไตยไทย​ 100% หลังปี​ 2518 ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามฆ่าล้าง​เผ่าพันธุ์​ แต่ไม่ยอมกลับ​ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม​ และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ประจำวันพุธที่ 20 สิงหาคม​ 2568 พลเรือตรี​สุร​สันต์​ กล่าวว่า​ สถานการณ์ชายแดนทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ ขณะที่การตรวจพบโทรศัพท์มือถือของฝ่ายกัมพูชา โดยกองทัพเรือ ได้พบหลักฐานสำคัญ​ ยืนยันว่าทหารกัมพูชา​ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN 2 บริเวณภูมะเขือ สืบเนื่องมาจากวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม​ กองทัพเรือ ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติการกู้ระเบิดและกวาดล้างในพื้นที่ภูมะเขือ​ จังหวัดศรีสะเกษ ของกองร้อยทหารราบที่ 132 กองพันที่ 13 ฐานเหนือเมฆ​ ได้ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว […]