fbpx

ให้ออกจากราชการ ด.ต.ปืนดุ ยิงถล่มบ้านอดีต ส.ส.

ตรัง 21 ต.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ออกจากราชการไว้ก่อน ดาบตำรวจปืนดุยิงถล่มบ้าน “สมชาย โล่สถาพรพิพิธ” อดีต ส.ส.คนดังเมืองตรัง คาดคลั่งยาและฝังใจจึงก่อเหตุ ล่าสุด มีการแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 5 ข้อหา


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยตำรวจ สภ.ย่านตาขาว คุมตัวดาบตำรวจสุรพงษ์ จิตรบุญ อายุ 52 ปี หรือ “ดาบเอก” ตำรวจสายตรวจตำบลนาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หลังใช้ปืนพก 2 กระบอก ยิงถล่มบ้านเลขที่ 226 ถ.ตรัง-ปะเหลียน ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของอดีต ส.ส. และ ส.ส.คนดังในพื้นที่ จากนั้นผู้ก่อเหตุหนีไปกบดานที่บ้าน ห่างจาก สภ.ย่านตาขาว 500 เมตร จนมีการสนธิกำลัง 10 นายเข้าจับกุม แต่ระหว่างนั้น “ดาบเอก” อยู่ในอาการขาดสติ และใช้ปืนยิงใส่ชุดจับกุม 1 นัด แต่ไม่มีใครบาดเจ็บ ก่อนถูกจับตัวมาดำเนินคดี


จากการสอบปากคำ “ดาบเอก” รับสารภาพว่า เป็นคนลงมือยิงถล่มบ้านของสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ เขต 3 และเป็นบ้านของ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ บุตรสาวของนายสมชาย ซึ่งปัจจุบันเป็น ส.ส.เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ก่อนหน้านี้เคยขี่รถจักรยานยนต์ไปก่อกวนขบวนรถของอดีต ส.ส. มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ครั้งนี้หนักหน่วงสุด เพราะยิงปืนใส่บ้าน 

หลังจากนั้นตำรวจนำตัว “ดาบเอก” ไปตรวจปัสสาวะที่ รพ.ย่านตาขาว เนื่องจาก “ดาบเอก” เคยมีอาการติดยาเสพติดอย่างหนัก แต่ครั้งนี้ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาเสพติดหรือไม่ จากนั้นจึงแจ้งข้อหากล่าวหาเบื้องต้น 2 ข้อหา คือ พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ และข้อหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่


สำหรับ “ดาบเอก” เพิ่งย้ายมาประจำที่ สภ.ย่านตาขาว เมื่อเดือนกรกฎาคม หลังถูกย้ายจาก สภ.ปะเหลียน และเมื่อ 5 เดือนก่อนเคยขี่รถจักรยานยนต์ติดตามรถของนายสมชาย แต่ครั้งนั้นไม่ได้พกอาวุธปืนและตะโกนโวยวายใส่เท่านั้น จึงถูกผู้บังคับบัญชาเรียกมาว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งอาการดังกล่าวอาจเกิดมาจากอาการเมายาบ้า มีอาการคลุ้มคลั่ง และประสาทหลอน

ขณะที่ พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ โดยพบประตูรั้วบ้านและต้นไม้หน้าบ้านมีรอยกระสุน

ด้านนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเจ้าของบ้าน ให้ข้อมูลว่า  ก่อนเกิดเหตุไม่ได้อยู่บ้าน มีเพียงภรรยาและลูกที่อยู่ในบ้าน ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบดาบตำรวจสุรพงษ์ มาเขย่าประตูบ้านและยิงปืนเข้ามาในบ้านประมาณ 10 นัด ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับผู้ก่อเหตุ แต่ทราบข่าวมาว่าผู้ก่อเหตุมีอาการติดยา และเวลาที่อาการกำเริบ ผู้ก่อเหตุมักจะนึกถึงตนเองก่อนเป็นอับดับแรก เพราะคิดว่าตนเองสั่งให้ตำรวจไปจับขณะที่กำลังเสพยา และที่ผ่านมาเคยก่อเหตุมาหลายครั้ง ทั้งขับรถขวางหน้าบ้าน ซึ่งคาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นจิตใต้สำนึกที่ฝังใจ และกำเริบในภาวะที่คลุ้มคลั่งจากยาเสพติด

ส่วนความเคลื่อนไหวของส่วนกลาง ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับดาบตำรวจสุรพงษ์ และให้ออกจากราชการไว้ก่อนระหว่างสอบสวน ขณะที่ล่าสุดพบว่า มีการแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าผู้อื่น, พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนผลตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด จึงแจ้งข้อหาเพิ่มฐานเสพยาเสพติดให้โทษ รวมทั้งหมด 5 ข้อหา.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ ส่วนปมหลอกนายกฯ ยืนยันเป็นตำรวจตัวเล็กจะไปทำกับผู้นำประเทศได้อย่างไร ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่กระทบบริหารตำรวจทั่วประเทศ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว