กทม.18 ต.ค.- ส่ง “เสี่ยท็อป” ลวงโลกหมื่นล้านขังเรือนจำ 6 เดือน คดีเช็คเด้งเมื่อปี 59 คดีถึงที่สุดเพราะไม่อุทธรณ์ตามเวลาที่กำหนด
ว่าที่ร้อยตรีสุรพล สินธุนาวา ทนายความนายธนณัฏฐ์ สิริปิยพร หรือ เสี่ยท็อป อายุ 49 ปี เปิดเผยถึงคดีที่ทำให้”เสี่ยท็อป”ถูกจับกุม ว่า เมื่อปี 2559 “เสี่ยท็อป”ได้ตกลงกับคู่ค้าจะลงทุนทำธุรกิจเสริมความงามวงเงิน 8,000,000 บาท ต่อรองเหลือ 4,500,000 บาท และตกลงกัน ล่าสุดเหลือ 1,000,000 บาท โดย”เสี่ยท็อป”ได้จ่ายเป็นเช็คให้ แต่เช็คไม่สามารถ ขึ้นเงินได้ หรือเช็คเด้ง ทำให้ คู่กรณีฟ้องร้อง”เสี่ยท็อป”ต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ทั้งนี้มารดา”เสี่ยท็อป”ได้เตรียมโฉนดที่ดิน ลำลูกกาคลอง 4 มาวางเพื่อเป็นหลักค้ำประกัน ว่าจะนำเงินมาชดใช้ให้ในภายหลัง ขณะนี้โฉนดที่ดินยังอยู่กับคู่กรณี และยังไม่มีการโอนที่ดินให้กันแต่อย่างใด
เมื่อถึงวันฟังคำพิพากษา 14 พฤศจิกายน 2559”เสี่ยท็อป”กลับไม่มาและไม่แจ้งเหตุผล โดยอ้างว่าเพียงว่า ติดภารกิจที่ต่างประเทศ ศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย ลงโทษจำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ แก้คำพิพากษาโดยลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา พร้อมให้ออกหมายจับจำเลยไว้
ต่อมา”เสี่ยท็อป”ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ตามระยะเวลา ที่กฎหมายกำหนดทำให้ขาดอุทธรณ์และทำให้คดีถึงที่สุดแล้วมาถูกจับกุมที่สนามบินดอนเมืองขณะกลับจากฮ่องกง
จากนั้นได้นำตัวส่งศาล ศาลได้แจ้งคำพิพากษาให้”เสี่ยท็อป” ทราบว่า คดีนี้ถึงที่สุดแล้วและให้รับโทษตามคำพิพากษาจำคุก 6 เดือน จึงส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งญาติจะไปเยี่ยม”เสี่ยท็อป”ช่วงบ่ายวันนี้
ทนายความยังระบุว่า”เสี่ยท็อป”อ้างว่ามีความกังวลเรื่องของสุขภาพ เนื่องจากเป็นโรคเบาหวาน และกังวลเรื่องเงินจากการทำธุรกิจที่จะได้รับประมาณ 1,000 ล้านบาทในต่างประเทศ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอะไร.-สำนักข่าวไทย