ทำเนียบรัฐบาล 15 ต.ค. – ครม. อนุมัติแผนปฏิรูปการฟื้นฟูเยียวยาเกษตรที่ประสบฝนทิ้งช่วงและอุทกภัย 5 โครงการวงเงินกว่า 3,120 ล้านบาท
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (15 ต.ค.) ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปการฟื้นฟูเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยปี 2562 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ จำนวน 5 โครงการภายในกรอบวงเงิน 3,120 ล้านบาท แบ่งเป็น 5 โครงการ ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ถึง 30 กันยายน 2563
สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงฝนแล้งหรืออุทกภัยที่ได้รับความเสียหายสิ้นเชิง โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ประสบภัยจากพายุโพดุลและคาจิ โครงการแรกคือ โครงการส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร โดยส่งเสริมให้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเขียว หน่วยงานรับผิดชอบ คือ กรมส่งเสริมการเกษตร มีเป้าหมายเกษตรกรจำนวน 150,000 ครัวเรือน พื้นที่ 1.4 ล้านไร่ โดยสนับสนุนเป็นเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ของเกษตรกร เพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์ซึ่งให้ความช่วยเหลือตามพื้นที่ปลูกจริงรายละไม่เกิน 20 ไร่ จำนวน 374 ล้านบาท แบ่งเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เกษตรกร จำนวน 100,000 ครัวเรือน พื้นที่ 1 ล้านไร่ อัตราไร่ละ 245 บาท ถั่วเขียวเกษตรกร 50,000 ครัวเรือน พื้นที่ 400 ไร่ อัตราไร่ละ 200 บาท
โครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวปี 2563/64 หน่วยงานรับผิดชอบ คือ กรมการข้าว มีเป้าหมายเกษตรกรจำนวน 827,000 ครัวเรือน ช่วยเหลือเมล็ดพันธุ์ข้าว 63,200 ตัน พื้นที่ 6.32 ล้านไร่ โดยจะสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรไร่ละ 10 กิโลกรัม ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ จำนวนเงินทั้งสิ้นรวม 1,739 ล้านบาท ทั้งนี้จะจัดส่งเมล็ดพันธุ์ข้าวกลุ่มไม่ไวแสง ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนธันวาคมปีนี้ สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกลุ่มไวแสง จะจัดส่งช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2563
โครงการพัฒนาเสริมทางเลือกอาชีพด้านประมง โดยการเลี้ยงปลานิลแปลงเพศในบ่อดิน หน่วยงานรับผิดชอบ คือ กรมประมงมีเป้าหมายเกษตรกรจำนวน 50,000 รายพื้นที่ 50,000 ไร่ โดยสนับสนุนพันธุ์ปลาและอาหารสัตว์น้ำให้แก่เกษตรกรซึ่งเกษตรกรได้รับพันธุ์ปลานิลแปลงเพศรายละ 800 ตัว พร้อมอาหารสัตว์นำร่องจำนวน 120 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ารายละ 5,000 บาท รวม 260 ล้านบาท
โครงการสร้างรายได้จากอาชีพประมงในแหล่งน้ำชุมชน หน่วยงานรับผิดชอบ คือ กรมประมงมีเป้าหมายแหล่งน้ำในชุมชนจำนวน 1,436 แห่ง ในพื้นที่ 129 อำเภอ โดยปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำคือกุ้งก้ามกรามในแหล่งน้ำชุมชนขนาดกลางหรือขนาดเล็ก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำแบบปิด โดยสนับสนุนลูกพันธุ์กุ้งก้ามกราม ขนาดตั้งแต่ 5 ถึง 7 เซนติเมตรขึ้นไปจำนวน 200,000 ตัวต่อแหล่งน้ำ จำนวนเงินรวม 506 ล้านบาท
และโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ปีกเพื่อฟื้นฟูเกษตรกรที่ประสบปัญหาอุทกภัย หน่วยงานรับผิดชอบ คือ กรมปศุสัตว์ มีเป้าหมายเกษตรกร 48,000 ครัวเรือน โดยสนับสนุนเป็นเงินโอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส. ของเกษตรกรเพื่อซื้อพันธุ์ไก่ไข่ เป็ดไข่ ครัวเรือนละ 10 ตัว ไก่พื้นเมือง ครัวเรือนละ 30 ตัว พร้อมค่าอาหารและค่าวัสดุในการเลี้ยง คิดเป็นมูลค่ารายละ 4,850 บาท จำนวนเงินรวม 240 ล้านบาท . – สำนักข่าวไทย