fbpx

กลุ่มผู้ปลูกมันฯ ค้านยกเลิก “พาราควอต”

กรุงเทพฯ 15 ต.ค.-กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังบุกกระทรวงเกษตรฯ  เรียกร้อง “มนัญญา” ทบทวนยกเลิก “พาราควอต” ชี้ตัดสินใจเรื่องยกเลิกอย่างไร้เหตุผล


ในวันนี้ (15 ต.ค.) นายวชิระ ถนัดค้า ประธานกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังพร้อมด้วยเกษตรกรประมาณ 60 รายจากอำเภอหนองบุญมาก, ครบุรี, เสิงสาง และด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมาเดินทางมายังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ยื่นพวงหรีด และหนังสือแก่นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  โดยมีตัวแทนของกระทรวงเกษตรฯมารับแทน และระบุว่า นางสาวนมนัญญาเดินทางไปราชการที่ประเทศบรูไน 

ทั้งนี้ ข้อเสนอของ กลุ่มเกษตรกร ขอให้ทบทวนการพิจารณายกเลิกสารเคมี โดยระบุว่า ไม่ต้องการยกเลิก “พาราควอต” ซึ่งเป็นสารกำจัดวัชพืชที่เกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมได้แก่ มันสำปะหลัง อ้อย ปาล์มน้ำมัน และยางพารามีความจำเป็นต้องใช้ โดยยังไม่มีสารใดมาทดแทนได้ การประกาศจะยกเลิกนั้นไร้เหตุผลและขาดข้อเท็จจริง โดยใช้ข้อมูลที่บิดเบือน เช่น จาก กลุ่มองค์กรนอกภาครัฐหรือ NGO โดยอ้างผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน 


นายวชิระกล่าวว่า ประเทศไทยผลิตมันฯเป็นอันดับ 2 ของโลกและอันดับ 1 ของอาเซียน แต่เป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก คิดเป็นมูลค่า 100,000 ล้านบาท เกษตรกรผู้ปลูก 542,000 ครอบครัวหรือ 1.5 ล้านราย พื้นที่ประมาณ 7.9 ล้านไร่เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารคน อาหารสัตว์ เอทานอล และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องเช่น กระดาษ กาว ยา จากประเด็นการเสนอยกเลิกสารพาราควอตเนื่องจากมีพิษร้ายแรงนั้นเชื่อว่า มีขบวนการบิดเบือนข้อมูลหลายด้านมาตรฐานอุตสาหกรรมการผลิต ในความเป็นจริงนั้น การนำมันฯไปใช้ในกระบวนการผลิตอาหาร โรงงานผลิตมันสำปะหลังมีระบบประกันคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น ISO , GMP และ HACCP  ขณะเดียวกันสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยยังไม่เคยพบสารพาราควอตตกค้างในมันฯ แต่อย่างใด

“ชาวไร่มันฯต้องออกเรียกร้อง  เพราะเดือดร้อนหนัก โครงการประกันรายได้มัฯก็ยังไม่ชัดเจน รมช. มนัญญา ก็จะให้ยกเลิกพาราควอตอีก ตั้งแต่มีการเสนอให้ยกเลิกใช้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ราคาพาราควอตสูงขึ้น เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุน เคยถามเกษตรกรบ้างหรือไม่  สิ่งที่กระทรวงเกษตรฯ ต้องให้ความสำคัญและเร่งช่วยเหลือ ไม่ใช่มาซ้ำเติม ผู้ปลูกมันฯจำเป็นต้องใช้พาราควอตเพราะไม่มีแรงงานที่จะมาใช้ในดายหญ้า อีกทั้งเป็นสารเคมีที่ปลอดภัยมากที่สุดเพราะไม่ดูดซึมเข้าไปในหัวมัน แล้วเราจะกลับมาฟังคำตอบอีกครั้ง หากกระทรวงเกษตรฯ ยังเดินหน้ายกเลิก เกษตรกรจะรวมกลุ่มกันเพื่อเรียกร้องให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร” นายวชิระกล่าว-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย