วงเสวนาวิชาการนิติศาสตร์ ระบุไม่ควรให้อธิบดีศาลตรวจร่างคำพิพากษา

จุฬาฯ 10 ต.ค. – วงเสวนาวิชาการนิติศาสตร์ จุฬาฯเห็นพ้อง ศาลต้องมีความเป็นอิสระ ระบุไม่ควรให้อธิบดีศาลตรวจร่างคำพิพากษาหรือสำนวนคดี ชี้ควรให้ความเห็นเฉพาะข้อกฎหมาย ชี้ ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมตัวปัญหา ยกกรณีผู้พิพากษา “คณากร” เป็นกรณีศึกษา


คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานเสวนา เรื่อง “ความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการ : สถานการณ์ ปัญหา และอนาคต”  โดยมี นายปกป้อง ศรีสนิท  อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  นายสมชาย หอมลออ นักกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชน   นายอธึกกิต แสวงสุข สื่อมวลชน และ นายเข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเสวนา 

นายปกป้อง กล่าวว่า การดำเนินคดีอาญา ผู้พิพากษาต้องมีความเป็นกลางระหว่างคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งผู้ถูกดำเนินคดีจะได้รับสิทธิในการสู้คดี หากกระบวนการพิสูจน์ว่าจำเลยไม่มีความผิด ศาลก็จะยกฟ้อง โดยศาลต้องมีความเป็นกลาง เป็นธรรม เป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซง เพื่อให้เกิดการต่อสู้อย่างเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งการตีความ ความเป็นอิสระของศาล กรรมการสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ กำหนดว่า ศาลต้องไม่ถูกแทรกแซงจากฝ่ายใด และหลักความเป็นอิสระของตุลาการในภูมิภาคเอเชียแปซิกฟิก ได้กำหนด ในข้อ 6 ว่า ลำดับชั้นภายในองค์กรศาล ไม่ว่าเป็นอธิบดี หัวหน้าศาล ผู้บริหารไม่สามารถแทรกแซงการทำหน้าที่ได้ ความเป็นอิสระการทำหน้าที่วินิจฉัยต้องเป็นปราศจากการแทรกแซงอย่างแท้จริงฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถแทรกแซงได้ 


อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มธ. กล่าวว่า ปัญหา ไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีข้อความที่ขัดหรือไม่แย้งกับพระธรรมนูญศาลยุติธรรม แต่มองว่าจุดที่เป็นปัญหา คือ  ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ข้อ 14 กำหนดว่า การตรวจร่างคำพิพากษาหรือคำสั่ง ให้ดำเนินการเพื่อรักษาแนวบรรทัดฐานของคำพิพากษาหรือคำสั่ง และให้การใช้ดุลพินิจของศาลเป็นไปโดยถูกต้องในแนวทางเดียวกัน ในกรณีที่แตกต่างไปจากแนวบรรทัดฐาน ควรมีเหตุผลพิเศษ และแสดงเหตุผลไว้ในร่างคำพิพากษานั้นด้วย

นายปกป้อง กล่าวว่า โดยเนื้อหาต้องการให้มีการส่งสำนวน ร่างคำพิพากษาให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลเป็นคนดู เพื่อรักษาคำพิพากษาให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน หากเป็นคดีพิเศษองค์คณะต้องทำความเห็นส่งไปยังอธิบดี และทำรายงานส่งกลับไปยังอธิบดีผู้พิพากษาด้วย  จุดนี้น่าจะเป็นประเด็น เพราะไม่ได้พูดเรื่องความเป็นอิสระของศาล ไม่ได้พูดว่าหากผู้พิพากษาที่ทำคดีมีความเห็นแย้งอธิบดีผู้พิพากษาศาลมาก ๆ จะทำอย่างไร เหล่านี้จึงต้องตั้งคำถามว่าทำให้เกิดความกดดันหรือไม่  

อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มธ. ยังเสนอให้ยกเลิกการส่งร่างคำพิพากษาและสำนวนคดีให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลตรวจ แต่หากไม่ยกเลิก อธิบดีผู้พิพากษาน่าจะให้คำแนะนำเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนปัญหาข้อเท็จจริงควรให้ผู้พิพากษาผู้สืบพยานเป็นผู้ตัดสิน หากผู้บริหารจะเข้ามีส่วนตัดสินปัญหาข้อเท็จจริง ผู้บริหารศาลควรนั่งสืบพยานด้วย และระเบียบปี 62 ควรมีการยืนยันหลักความเป็นอิสระของศาลว่า การไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำผู้บริหารโดยมีเหตุผล เป็นเพียงความเห็นที่ต่างกันในทางกฎหมาย ไม่มีผลเสียต่อการทำงานหรืออนาคตของผู้พิพากษา 


“การที่อธิบดี เข้ามามีบทบาทให้การตรวจร่างคำพิพากษา เป็นการแทรกแซงหรือไม่ ขอดู ข้อแก้ ทำให้ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนหวาดกลัวหรือไม่ เพราะการไม่เชื่ออธิบดี ผู้พิพากษาอาจถูกลงโทษหรือไม่  นี่เป็นเป็นการปะทะกันในแนวคิดระหว่างอธิบดีและผู้พิพากษาเจ้าของคดีที่อยากมีอิสระในการทำสำนวน การวัดหรือการตัดสินจะเอาเกณฑ์ใดมาวัดว่าศาลชั้นต้นคุณภาพน้อยกว่าแนวฎีกา ซึ่งการคืนความเป็นอิสระ และต้องค่อย ๆ ปรับเพื่อความประณีประนอม หากอยากจะตรวจอธิบดีควรตรวจสอบเฉพาะข้อกฎหมาย” นายปกป้อง กล่าว

ด้านนายเข็มทอง กล่าวว่า ทุกหน่วยงานต้องยืนอยู่บนความเป็นอิสระ โดยเฉพาะองค์กรศาล เพราะเป็นหน่วยสุดท้ายในการตัดสินความถูกผิด ความน่าเชื่อถือต้องมีสูงกว่าองค์กรทั่วไป มีหลัก มีบรรทัดฐานที่ต้องยึดไว้ เนื้องานไม่เหมือนฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ความเป็นอิสระขององค์กรศาล ต้องรวมถึงความโปร่งใส ความมีเหตุมีผล ความเป็นอิสระไม่ใช่ว่าจะทำแบบไหนก็ได้ และเห็นว่าปัญหาความเป็นอิสระของศาลบางครั้งกลายเป็นโดดเดี่ยวแปลกแยก โดยเฉพาะตัวบุคคลถูกแยกออกไป ไม่เคยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสังคม พอความเป็นอิสระผสมกับอำนาจนิยม จึงอาจละเลยการชี้แจงกับสาธารณะ เช่น กรณีของ นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น ยิงตัวเอง เป็นกรณีศึกษาที่ดี

นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้ที่ประชุม ก.ต.ตั้งอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงปมผู้พิพากษา ศาลยะลายิงตัวเอง แต่น่าเสียดาย ว่า การตั้งอนุกรรมการฯ น่าจะมีผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกเข้าไปร่วมตรวจสอบด้วย เพื่อให้การตรวจสอบน่าเชื่อถือ ส่วนความเป็นอิสระของศาล มองว่า ไม่ใช่จะทำอะไรได้ตามอำเภอใจ เพราะต้องพิจารณาตามหลักอรรถคดี ความเป็นอิสระต้องไม่หมายถึงความไม่โปร่งใส แต่ต้องตรวจสอบได้ ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติถอดถอนฝ่ายตุลาการได้ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ ขณะเดียวกันศาลจะต้องตัดสินคดีโดยไม่ลำเอียง ปราศจากข้อจำกัดใด ๆ ทั้งการแทรกแซงทางตรงและทางอ้อม ผู้พิพากษาจำนวนมากไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายความเป็นอิสระ หรือเปิดโอกาสให้มีการกระทำที่ไม่เป็นอิสระ เหล่านี้ก็ต้องแก้ไข การพูดถึงปัญหาต้องพูดถึงหลักการที่ถูกต้องในการเป็นอิสระของตุลาการ 

นายสมชาย กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมต้องแก้ทั้งระบบ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการส่งร่างคำพิพากษาและสำนวนคดีให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลตรวจ เพราะอธิบดีผู้พิพากษาไม่ได้นั่งฟังการพิจารณาคดี คงไม่สามารถวิฉัยคดีได้ ไม่สามารถจับท่าทางกริยาของจำเลยได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]