กรุงเทพฯ 10 ต.ค. – หอการค้าไทยเผยสงครามการค้า ราคาพืชเกษตรตก ฉุดดัชนีเชื่อมั่นเดือน ก.ย.ลดต่อเนื่อง 7 เดือน แตะ 72.2 ต่ำสุดรอบ 39 เดือน ชี้เม็ดเงินกระตุ้นลงช้าไม่เห็นผล คาดจีดีพีปีนี้ เหลือโตร้อยละ 2.6-2.8 และซบเซายาวถึงปีหน้า
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคดือนกันยายน 2562 ว่า ดัชนีมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 มาอยู่ที่ระดับ 72.2 ซึ่งเป็นดัชนีที่ต่ำสุดในรอบ 39 เดือน เป็นผลมาจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังมีผลมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยชะลอตัว โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 59.3 โอกาสในการหางานทำลดลงมาอยู่ที่ระดับ 68.5 และรายได้ในอนาคตลดลงอยู่ที่ระดับ 88.9 ความเชื่อด้านต่าง ๆ ที่ลดลงดังกล่าวส่งให้ความเชื่อมั่นไม่ดี ประกอบกับสถานการณ์ราคาพืชผลทางการเกษตรในประเทศยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะยางพาราและปาล์มน้ำมัน ทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดลดลง
นอกจากนี้ ศูนย์พยากรณ์ฯ ได้ประเมินผลจากเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ออกมาขณะนี้ เห็นว่ายังคงล่าช้าและไม่มีผลกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเท่าที่ควร ทั้งเม็ดเงินจากการโอนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการชิมช้อปใช้และการประกันรายได้ ที่เม็ดเงินยังไม่เข้าสู่ระบบเท่าที่ควร ประกอบกับสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีความเป็นไปได้ว่าการเจรจาจะไม่ประสบความสำเร็จ สหรัฐอาจมีการปรับขึ้นภาษีกับประเทศจีนเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมนี้ การประกาศออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรแบบไม่มีเงื่อนไข และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจมีการใช้มาตรการทางการเงินที่เข้มข้นมากขึ้น ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและมีผลโดยตรงกับการส่งออกของประเทศไทยอาจขยายตัวติดลบร้อยละ 2-3 และจีดีพีของประเทศอาจขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 3 เหลือเพียงร้อยละ 2.6-2.8 และหากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยังไม่เห็นผลไตรมาส 4 ทางศูนย์พยากรณ์ฯ กังวลว่าเศรษฐกิจจะซบเซาลากยาวไปจนถึงปีหน้า.-สำนักข่าวไทย