ยะลา 5 ต.ค.- กรณีผู้พิพากษายิงตัวเองอาการสาหัส ล่าสุดออกจากห้องไอซียูแล้ว แต่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ขณะที่โฆษกศาลยุติธรรม เตรียมเสนอข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการตุลาการศาล 7 ต.ค.นี้
หลังนายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาจังหวัดยะลา ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองภายในห้องพิจารณาคดี บัลลังก์ 4 ชั้น 2 ศาลจ.ยะลา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวานนี้(4ต.ค.62) วันนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ พร้อมด้วยแกนนำพรรค เข้าเยี่ยมนายคณากร ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลศูนย์ยะลา พร้อมเปิดเผยอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว รู้สึกตัว โต้ตอบได้เล็กน้อย เบื้องต้นได้ให้กำลังใจ นายคณากร ให้มีกำลังใจที่ดี อย่าไปคิดมาก ขอให้ลืมเหตุการณ์ที่ผ่านมา และมุ่งมั่นดูแลความยุติธรรมให้ประชาชนต่อไป สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นตัวอย่างที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก กระบวนการยุติธรรม ต้องอิสระ ยุติธรรม ปราศจากการแทรกแซง ซึ่งคิดว่าคำร้องของนายคณากร ที่ยื่นผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานรัฐสภา คงจะทำให้คณะกรรมการกระบวนการยุติธรรม องกรค์อิสระและสิทธิมนุษยชน นำไปพิจารณาต่อไป
จากนั้นช่วงบ่าย แพทย์ได้ย้าย นายคณากร จากห้องไอซียูมาพักฟื้นที่ห้องพิเศษชั้น 2 ตึกพิเศษยี่เกียว มีครอบครัว โดยเฉพาะภรรยาและลูกสาว คอยเฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิด ขณะที่ด้านนอกห้องพัก มีเจ้าหน้าที่จากศาล จ.ยะลา คอยดูแลความปลอดภัยบริเวณหน้าห้องผู้ป่วยและไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปเข้าเยี่ยม
ด้านนายอนิรุจ ใจเที่ยง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จ.ยะลา เดินทางเยี่ยมอาการ ใช้เวลาราว 20 นาที แต่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้น บอกเพียงสั้นๆ ว่า ขณะนี้อาการปลอดภัยดีแล้ว ส่วนรายละเอียดต่างๆ ให้เป็นไปตามขั้นตอน
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม เตรียมลงพื้นที่ไปเยี่ยม นายคณากร ในวันพรุ่งนี้ พร้อมเปิดเผยว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ดังกล่าว จากนายเพิ่มศักดิ์ สายสีทอง อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 9 และ นายอนิรุธ ใจเที่ยง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยะลาแล้ว โดยเตรียมเสนอข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการตุลาการศาล หรือ ก.ต. ในวันที่ 7 ต.ค.นี้ เรื่องที่อ้างมีการแทรกแซงคดีจนเป็นสาเหตุกดดัน นายสราวุธ ชี้คำพิพากษาถือเป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยก่อนการอ่านคำพิพากษาได้ ไม่เช่นนั้นจะรู้ผลล่วงหน้าและเป็นวิธีปฏิบัติของศาลที่จะปรึกษาหารือกันได้ ซึ่งในกระบวนการทำงานคดีที่มีโทษสูง คดีสำคัญ กฎหมายพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 11 (1) ให้อำนาจอธิบดีนั่งพิจารณาและพิพากษาคดีใดๆ ของศาลนั้น หรือเมื่อได้ตรวจสำนวนคดีใดแล้วมีอำนาจทำความเห็นแย้งได้ และสามารถให้คำแนะนำแก่ผู้พิพากษาในศาลนั้นในข้อขัดข้องเนื่องในการปฏิบัติหน้าของผู้พิพากษา แต่อธิบดีไม่สามารถไปก้าวก่ายการตัดสินของผู้พิพากษาได้ ไม่สามารถแทรกแซงการทำงานได้ เพราะหากผู้พิพากษาไม่เห็นตามนั้น ก็สามารถยืนยันความเห็นของตนเองได้ พร้อมย้ำผู้พิพากษามีความเป็นอิสระปราศจากการแทรกแซงแน่นอน
ขณะที่นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึง กรณีสื่อมวลชนเผยแพร่นายเพิ่มศักดิ์ สายสีทอง อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวใช้ชื่อว่า “เพิ่มศักดิ์ สายสีทอง อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9” ทำนองออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงและจะมีการไลฟ์ กรณีนายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ยิงตัวเองในห้องพิจารณาคดีนั้น ตนได้รับการประสานข้อมูลจาก นายเพิ่มศักดิ์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 ว่าถ้อยคำดังกล่าวไม่เป็นความจริงเนื่องจาก นายเพิ่มศักดิ์ ไม่เคยชี้แจงในลักษณะดังกล่าวลงในสื่อโซเชียล เฟซบุ๊กดังกล่าวจึงไม่ใช่ของนายเพิ่มศักดิ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 9 แต่อย่างใด ตรวจสอบล่าสุด พบว่าเพจดังกล่าวได้ปิดบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กไปแล้ว
ส่วนในเฟซบุ๊กของ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักคดีอาญาธนบุรี ได้แสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า “อย่ารีบวิจารณ์สิ่งที่เห็น เพราะอาจเป็นภาพลวงตา หลายครั้งที่โอละพ่อ” และอธิบายเพิ่มเติมว่า ….อยากให้นักกฎหมายทั้งหลายอ่านคำพิพากษาทัั้งหมด อย่าอ่านเพียงหน้าสองหน้า “คำพิพากษา” ที่ลงกันนั้น กล่าวถึง “อธิบดี” และท่านแทนตัวเองว่า “ผม” และช่วยพิจารณาว่า สิ่งที่ท่านเขียนนั้นเป็น “คำพิพากษา” ตามประมวลฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186, 183 หรือไม่ องค์คณะครบตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 26 หรือไม่
การวิจารณ์หรือการแชร์และให้ความเห็นดังกล่าวทั้งหลาย ควรให้ผู้ที่ปรากฏในคำพิพากษาได้มีโอกาสชี้แจงก่อน เพราะเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนต่อองค์กรตุลาการและความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศได้ง่าย เรามาช่วยกันรักษากระบวนการยุติธรรมทั้งระบบดีกว่า
เบื้องต้นเชื่อ นายคณากร คงอึดอัดกับการปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับค่าตอบแทนเพราะงานยุติธรรมเงินเดือนสูงกว่าข้าราชการอื่น ทั้งนี้ได้อ่านคำแถลงการณ์ของคดีทั้ง 25 หน้าแล้ว จึงตั้งข้อสังเกต เรื่องปกติมันมีระบบทำความเห็นแย้ง ถ้าผู้บังคับบัญชาไม่เห็นด้วยก็มีอำนาจทำความเห็นแย้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 183 พร้อมยืนยัน ตนรับราชการอัยการมาตั้งแต่ 1 ก.ค. 2526 ไม่เคยมีใคร หรือแม้แต่อัยการสูงสุดมาสั่งให้ตนสั่งคดี และตั้งแต่ตนเป็นผู้บังคับบัญชาก็ไม่เคยสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาสั่งคดีตามที่ตนต้องการ เพราะมีความเป็นอิสระในการสั่งคดี ถ้าไม่เป็น เราก็สั่งทับความเห็นเขาตามระเบียบ และเราต้องรับผิดชอบในคำสั่งของเรา
ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยืนยัน นายคณากร ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ยอมรับเคยส่งข้อความมาทางเฟซบุ๊กของพรรค ขอเข้าพบและบอกข้อมูลต่อประเด็นการแทรกแซงการทำคำพิพากษาของคณะผู้พิพากษา แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบ ไม่เคยได้นัดกับนายคณากร จนมาเหตุขึ้น ขอเรียกร้องให้สังคมให้ความเป็นธรรมกับ นายคณากร และยุติการนำประเด็นนี้มาเชื่อมโยงกับพรรคอนาคตใหม่ พร้อมเสนอให้นำเรื่องนี้มาพิจารณา เพื่อหาความสมดุลและหลักประกันของคำพิพากษาที่ไม่ถูกแทรกแซง ขณะเดียวกันยังคงมาตรฐานของการทำหน้าที่ของผู้บริหารในองค์กรตุลาการด้วย.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คดียิง 5 ศพบันนังสตา มูลเหตุผู้พิพากษาศาลยะลายิงตัวเอง
เปิดขั้นตอน “ตรวจ (ร่าง) คำพิพากษา”