ปทุมธานี 5 ต.ค. – สวทช.ลงนามความร่วมมือกับ อ.ส.ค. เพื่อพัฒนากิจการ โคนมแบบครบวงจร หวังยกระดับกิจการโคนม เดินหน้าวิจัย “นมผงพันธุ์ไทย–นมอัดเม็ดพรีเมี่ยม–ผลิตภัณฑ์จากนมเพื่อผู้สูงวัย”
เมื่อวานนี้ ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ลงนามความร่วมมือกับองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพัฒนากิจการ โคนมแบบครบวงจร หวังยกระดับกิจการโคนม เดินหน้าวิจัย “นมผงพันธุ์ไทย–นมอัดเม็ดพรีเมี่ยม–ผลิตภัณฑ์จากนมเพื่อผู้สูงวัย” เฟสแรก 63-65 พร้อมลุยตลาดต่างประเทศ นำร่องบุกอาเซียน ปี 64
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนากิจการโคนมไทยระหว่าง สวทช. โดยนาโนเทค และ อ.ส.ค. นับเป็นการตอบยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2561-2580 ซึ่งศักยภาพของ สวทช. มีทั้งส่วนของงานวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์งานด้านอุตสาหกรรมการเกษตร ได้อย่างครบวงจร โดยจะเข้ามาดำเนินการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและนวัตกรรมในกิจการโคนม พร้อมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้จากการวิจัยและพัฒนาเพื่อยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงโคนมและผลิตภัณฑ์นมด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ให้แก่ อ.ส.ค.
ด้าน ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงษ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ อ.ส.ค. กล่าวว่า อ.ส.ค. ได้พัฒนาประสิทธิภาพการเลี้ยงโคนมเพื่อให้ได้น้ำนมที่ดีมีคุณภาพสูงและได้มาตรฐาน พร้อมแข่งขันกับตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศในแถบอาเซียน ตลอดจนการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมโคนมโดยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาพัฒนาทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
ปัจจุบัน อ.ส.ค. มีการจัดตั้งฟาร์มโคนมสาธิตเชิงธุรกิจประสิทธิภาพสูง หรือ “Smart Farm” มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยทั้ง Hardware และ Software เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการฟาร์มโคนมของเกษตรกร ความร่วมมือกับ สวทช. เป็นอีกหนึ่งแนวทางเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ด้าน นาโนเทค ดร. วรรณี ฉินศิริกุล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ บอกว่า หลังจากนี้เตรียมวิจัย9k,ความร่วมมือในระยะที่ 1 ปี พ.ศ. 2563-2565 ทั้งกลุ่มนมอัดเม็ดพรีเมียม, นมผง และผลิตภัณฑ์จากนมเพื่อผู้สูงอายุ โดยจะประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนาโนการกักเก็บในระดับนาโน
ในการลงนามครั้งนี้ ยังมีการเสวนาหัวข้อ “นมโคไทยก้าวไกลด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม” อีกด้วย จากข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดการณ์ว่าปี 2562 จะมีการบริโภคนม 1,332,180 ตัน เพิ่มขึ้นถึง 8% จากปี ทำให้การส่งออก ผลิตภัณฑ์นมจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการในตลาดนมพาณิชย์มีการผลิตเพิ่มขึ้น อีกทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีการร่วมมือกันสนับสนุนการขยายตลาดส่งออกนมสู่ประเทศในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มมากขึ้นด้วย จึงเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมนมของประเทศไทยในตลาดโลก .- สำนักข่าวไทย