อีเอพร้อมเปิดศึกราคารถอีวี

กรุงเทพฯ 4 ต.ค. – อีเอ ลงทุนครบวงจรยานยนต์ไฟฟ้า ผลิตทั้งเรือ-รถยนต์นั่ง-รถยนต์ขนาดใหญ่-แบตเตอรี่-สถานีชาร์จไฟฟ้า เตรียมปรับกลยุทธ์หั่นราคาขายหลังคู่แข่งกำหนดราคาต่ำกว่า


นางออมสิน ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมกำลังพิจารณากลยุทธ์การแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ภายใต้แบรนด์  “MINE” ที่ประกาศราคาไปก่อนหน้านี้ว่าไม่เกิน 1.2 ล้านบาท ขณะที่มีแบรนด์คู่แข่งกำหนดราคาจำหน่ายต่ำกว่า ซึ่งปัจจัยราคาก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาควบคู่ไปกับด้านอื่น ๆ โดยล่าสุดมียอดสั่งจองแล้ว 4,500 คัน เริ่มทยอยส่งมอบตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563


“ขณะนี้ทีมปรับกลยุทธ์แข่งขันให้มียอดจองเพิ่มขึ้น หากดูราคาอย่างเดียวอาจไม่แฟร์ ต้องดูคุณสมบัติอื่น ๆ ประกอบด้วย โดยเฉพาะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของ “MINE” ใช้ได้ 8,000  รอบการชาร์จ หรือนานกว่า 10 ปี ชาร์จแต่ละครั้งวิ่งได้ 200-250 กม.” นางออมสิน กล่าว

ทั้งนี้ อีเอ เดินหน้าลงทุนธุรกิจอีวีทั้งผลิตรถยนต์อีวี ,แบตเตอรี่อีวีและระบบกักเก็บไฟฟ้า (Energy Storage ,ผลิตเรือไฟฟ้าและให้บริการแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงสถานีประจุไฟฟ้า  ล่าสุดร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ เพื่อร่วมดำเนินโครงการผลิตรถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเข้ามาบ้างแล้ว  โดยจะใช้พื้นที่เดียวกับการประกอบรถยนต์นั่งอีวี  จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพร้อมที่จะเริ่มประกอบรถยนต์ปี 2563 ซึ่งเดิมมีเป้าหมายผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 10,000 คัน/ปี ก็จะมีการขยายสเกลขึ้นมา เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ขณะที่โรงงานผลิตแบตเตอรี่ อยู่ระหว่างก่อสร้างและจะเสร็จกลางปี 2563 

นางออมสิน กล่าวอีกว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีอีวี และรถไฮบริดทั่วประเทศ 40,000 คัน มีแนวโน้มเติบโตตามเทรนด์ของโลก ทำให้บริษัทเข้าร่วมทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับอีวี โดยตั้งโรงงานแบตเตอรี่ เฟสแรก ขนาด 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ด้วยเงินลงทุน 5,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า-เรือไฟฟ้า ร้อยละ 40 ส่วนอีกร้อยละ 60 จะใช้สำหรับในระบบกักเก็บพลังงาน เฟสแรกจะเสร็จกลางปี 2563 หลังจากนั้นจะใช้ระยะเวลาหนึ่งก่อนจะขยายเฟส 2 ต่อไป ขณะที่เป้าหมายการผลิตจะอยู่ที่ 50 GWh ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 ปี เงินลงทุนรวมกว่า 100,000  ล้านบาท ซึ่งช่วงแรกจะนำแบตเตอรี่จากพันธมิตรที่ไต้หวันเข้ามาใช้ในรถยนต์รุ่นแรกก่อน หลังจากนั้นจะใช้แบตเตอรี่จากโรงงานของบริษัทเพื่อประกอบรถยนต์ ส่วนมอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้าใช้เทคโนโลยีไต้หวัน แต่ผลิตในจีน  และบริษัท เตรียมนำ Energy Storage ไปใช้ในระบบผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ ซึ่งมีแผน ลงทุนในเวียดนามและเมียนมา 


ด้านธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) นั้น ปัจจุบันมีอยู่กว่า 400 แห่งทั่วประเทศ และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีทั้งสิ้น 600-700 แห่ง และจะครบ 1,000 แห่งในปี 2563 โดยต้นทุนค่อนข้างต่ำ เพราะบริษัทได้เข้าไปถือหุ้นกว่าร้อยละ 40 ใน GROWATT ผู้ผลิตสถานีชาร์จและอุปกรณ์ในจีน  อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทยังไม่สามารถกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าในการให้บริการ EV Charging ได้เพราะต้องรอให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำหนดอัตราออกมาก่อน ดังนั้น รายได้จาก EV Charging ปัจจุบันจะมาจากการเก็บค่าจอดตามระยะเวลาในอัตราชั่วโมงละ 50 บาท และบางจุดเปิดให้บริการฟรี ซึ่งกำไรที่ได้จะแบ่งสัดส่วนกันกับพันธมิตร อย่างไรก็ตาม คาดว่าธุรกิจดังกล่าวน่าจะเริ่มเห็นกำไรปี 2563 

“เชื่อรายได้ปีนี้ทะลุ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากประมาณ  12,000 ล้านบาทปีก่อน และปี 2563 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเกินร้อยละ 20 จากปีนี้ เพราะเมื่อธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะรถอีวี เริ่มทยอยเข้าระบบน่าจะเริ่มเห็นสัดส่วนรายได้ของบริษัทเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบันที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า” นางออมสิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน “ทักษิณ” ออกนอกเส้นทางไปไหน ?

4 ก.ย. – ไปไหน? เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” เลี้ยวออกนอกเส้นทาง หลังบินออกจากดอนเมือง ระบุปลายทางสิงคโปร์ พบบินวนอยู่ 2 รอบ ก่อนไปต่อ จับตามุ่งหน้า “ดูไบ” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกไหว้พ่อแม่ก่อนโหวตนายกฯ

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกยังไม่มี เผยตั้งใจไหว้พ่อ-แม่ เป็นสิริมงคลก่อนโหวตนายกฯ คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับเข้ามาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงโผ “ครม.อนุทิน 1” ว่า มีการจัดเตรียมให้ใครนั่งตำแหน่งใดและนายอนุทิน จะควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ร้องหูย ก่อนจะบอกว่ายังไม่มี ข่าวก็ลงไปเรื่อย ยังไม่ได้จัดอะไร ขนาดหัวหน้ายังไม่ได้เลย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก่อนจะเข้าอาคารรัฐสภา จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไหว้พ่อไหว้แม่นี่แหละ เป็นสิริมงคลที่สุดแล้ว -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่นไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป กลับมา […]