กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – ซัสโก้คาดได้อานิสงส์ชิมช้อปใช้ เผยยอดขายน้ำมันยังโต แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว พร้อมทุ่มลงทุนกว่าพันล้านบาทขยายและปรับปรุงปั๊ม ติดแผงโซลาร์ หาทุกธุรกิจเสริมและหาประโยชน์จากที่ดินนับพันไร่
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) คาดว่าธุรกิจน้ำมันจะได้อานิสงส์จากโครงการชิมช้อปใช้ของรัฐบาลที่มีการคาดการณ์ว่าเม็ดเงินจะหมุนเวียนในระบบถึง 30,000 ล้านบาท แม้การค้าน้ำมันจะไม่ได้อยู่ในรายชื่อการใช้เงินในโครงการ แต่ร้านค้าในปั๊มบางส่วนร่วมโครงการและคาดว่าจะมีการเดินทางท่องเที่ยวจากโครงการนี้เพิ่มขึ้น ยอดซื้อน้ำมันก็จะสูงขึ้น โดยยอดขายผ่านปั๊มของซัสโก้ปีนี้โตถึงร้อยละ 4 สูงกว่าตลาดรวมที่โตประมาณร้อยละ 3
สำหรับยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากซัสโก้ขยายปั๊มใหม่ ดึงพันธมิตรจำหน่ายสินค้า ประกอบกับราคาน้ำมันที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำทำให้การใช้ยังเติบโต ทั้งตลาดขายในประเทศ ยอดขายน้ำมันเครื่องบินและการส่งออกไปเพื่อนบ้าน ค่าการตลาดน้ำมันอยู่ในระดับ 1.70-1.80 บาทต่อลิตร ดีกว่าปีก่อน คาดว่าปี 2562 มีรายได้รวมเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องอีก 1 ปี มีรายได้ในระดับ 30,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นร้อยละ 10 เทียบกับปี 2561 และคาดว่าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันรวมทุกตลาดจะอยู่ในระดับ 1,450 ล้านลิตร เติบโตขึ้นร้อยละ 9-10 เทียบกับปี 2561
ปัจจุบันซัสโก้มีจำนวนปั๊ม 238 แห่ง วางแผนปี 2563 ลงทุน 500-600 ล้านบาท และเร่งปรับโฉมดึงดูดลูกค้า เร่งหาธุรกิจเสริมอื่น ๆ โดยตั้งเป้าขยายสาขาปั๊มให้ครบ 300 แห่งในปี 2564 โดยปั๊มใหม่จะเกิดขึ้นในพื้้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะมียอดขายต่อแห่งสูง เนื่องจากจำนวนรถยนต์มีกว่า 12 ล้านคันมากกว่าการใช้รถยนต์ในต่างจังหวัดเป็นปัจจัยหนุนต่อการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น ขณะที่การลงทุนระยะ 5 ปี (2562-2566) คาดว่าใช้เงินลงทุนประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท และยังวางแผนติดแผงโซลาร์บนหลังคาปั๊ม เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองด้วย เพราะสามารถลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้มาก โดยบางแห่งลดต้นทุนค่าไฟได้ถึงร้อยละ 20 ซึ่งปัจจุบันมีการติดตั้งแล้ว 4 แห่ง
“บริษัทมีเป้าหมายรายได้จากการขายเติบโตร้อยละ 8-10 ต่อปี โดยจะรุกธุรกิจ non-oil ที่มีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูงกว่าธุรกิจน้ำมัน หาพันธมิตรใหม่เพิ่มขึ้น เบื้องต้นเตรียมติดตั้งป้ายโฆษณาดิจิทัล ขนาด 40 ตารางเมตร บริเวณสถานีฯ เพื่อเปิดให้เช่าป้าย รวมถึงจัดพอร์ตที่ดินที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณ 1,000 ไร่ให้มีความเหมาะสมแก่การลงทุนต่าง ๆ ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งเป็นผลดีที่จากที่อดีตสะสมที่ดินเป็น Land lord “นายชัยฤทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย