ประชารัฐสร้างไทย ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก

เมืองทองธานี  21 ก.ย. – รัฐบาลดึงประชารัฐสร้างไทยร่วม  “พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก”  ยกระดับ สร้างภูมิคุ้มกันชุมชน มุ่งพัฒนาไปสู่ตลาดออนไลน์ยุคใหม่   แบงก์รัฐพร้อมหนุนสินเชื่อยกระดับชุมชน   กระทรวงพลังงาน ส่งเสริมนำพืชเศรษฐกิจ ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง อ้อย แปลงเป็นพลังงาน หนุนโรงไฟฟ้าชุมชน 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ประชุมนโยบาย “ประชารัฐสร้างไทย” ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน  ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เอสเอ็มอีดีแบงก์  กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง หวังใช้โอกาส ในช่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง  ด้วยความร่วมมือในรูปแบบประชารัฐ ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ชุมชน ตลาดประชารัฐ การท่องเที่ยวขุมชนเข้มแข็ง นำแบงก์รัฐมาช่วยเหลือทั้งความรู้และการเติมทุน เพื่อร่วมพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งและพัฒนาครอบคลุมทุกด้าน 


นายสมคิด ย้ำว่า วันนี้ทุกหน่วยงานร่วมขับเคลื่อนในทิศทางเดียวกัน เมื่อเสียบปลั๊กร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศได้ ประเทศมีประชากรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ชีวิตขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ หากยิ่งด้อยในวิทยาการ ต้องรอธรรมชาติอย่างเดียว หากมีปัญหาแห้งแล้ง ตลาดโลกมีปัญหา เทคโนโลยีด้อยพัฒนา ต้องขายที่ดิน กู้เงินนอกระบบ วนเวียนซ้ำเดิม จีดีพีเติบโตลงไปไม่ถึงฐานราก ความยากจน ความเหลื่อมล้ำ จึงต้องแก้ปัญหาอย่างจริงจัง มุ่งลดการสร้างความแตกแยก คนรวย รวยมากขึ้น คนจน จนซ้ำซาก เป็นวลีทางการเมืองที่กล่าวอ้างบ่อยครั้ง หากนำเรื่องพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากมาเป็นเรื่องใหญ่ 

จึงมุ่งแก้ปัญหาความยากจนให้คืบหน้าอย่างรวดเร็ว ไทยต้องไม่นอนอยู่ในห้อง ICU ต้องลุกขึ้นมาด้วยการปฏิรูปตนเอง  ขณะที่สิงคโปร์ดีไซด์ความคิดอย่างเป็นระบบ มีพื้นที่เพียงเล็กน้อย แต่พัฒนาได้อย่างรวดเร็ว  เมื่อไทยกว้างใหญ่กว่าสิงคโปร์ ควรร่วมกันคิด ร่วมกันทำ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประชารัฐสร้างไทย จึงต้องร่วมกันยกระดับภาคเกษตร หากเศรษฐกิจดี สังคมจะดีตามไปด้วย เมื่อชุมชนแข็งแรงทุกอย่างจะดีขึ้น นำสมาทฟาร์มเมอร์ เป็นผู้นำในชุมชนภายใน 3 ปี ต้องพัฒนาให้ได้  3 แสนรายทั่้วประเทศ สร้างตลาดออนไลน์ ดึงมหาวิทยาลัยเข้าไปช่วยเหลือ จะกลายเป็นหมู่บ้านทันสมัย กลายเป็นสมาทเนชั่น เมื่อต่างประเทศเข้ามาลงทุนจะเชื่อมโยงได้ถูกทาง 


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวมอบนโยบายในที่ประชุมว่า กระทรวงคลัง พร้อมดึงพันธมิตรเครือข่ายทุกหน่วยงานมาร่วมลงทุน สร้างภูมิคุ้มกันให้กับชุมชน มุ่งพัฒนาไปสู่ตลาดออนไลน์ยุคใหม่ การสร้างศูนย์กระจายสินค้าในชุมชน   ธปท.วิเคราะห์  ดูแลสวัสดิการ ตาข่ายสังคมประชารัฐตามปัจจัยพื้นฐาน ต้องผลักดันสวัสดิการฯ เพิ่มเติม กรมธนารักษ์ กางแผนที่นำที่ราชพัสดุเหมาะสม  เปิดตลาดประชารัฐ ให้พ่อค้าแม่ค้านำสินค้าชุมชนมาจำหน่าย นำแบงก์รัฐมาช่วยเติมทุนให้ร้านค้า ผู้ประกอบการรายย่อย  กระทรวงการคลังกำลังพัฒนาระบบบิ๊กดาต้าเพื่อบูรณาการข้อมูลนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ยกตัวอย่าง ข้อมูลผู้ลงทะเบียนคนจนกว่า 14 ล้านคน จะทำให้เรารู้ข้อมูลด้านการใช้จ่ายทั้งจุดใช้จ่าย สินค้าที่ซื้อ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างวิสาหกิจชุมชน การสร้างตลาดการค้าชุมชนและการสร้างอำนาจการต่อรองในการซื้อสินค้าต่างๆ นอกจากนี้ ยังทำให้เรารู้ข้อมูลด้านแรงงาน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอาชีพอย่างเหมาะสมและยั่งยืน

ทั้งนี้ จากข้อมูลของเวิลด์แบงก์ที่สำรวจฐานรากพบว่า 40%ของผู้ถูกสำรวจระบุว่า ความเป็นอยู่โดยรวมไม่ดีขึ้น ปัญหาความเหลื่อมล้ำยังมี นี่คือสิ่งที่เรากำลังเผชิญ ฉะนั้น เราต้องเลือกโมเดลการพัฒนาที่เป็นโมเดลใหม่ๆ คือ เน้นลงทุนไปที่ชุมชน เพื่อสร้างให้คนระดับฐานรากอยู่ดีกินดี ซึ่งจะเป็นฐานสำคัญในการเติบโตของจีดีพีประเทศ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในที่ประชุมว่า กระทรวงพลังงาน จะใช้พลังงานเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จากความต้องการพลังงานของชุมชนจำนวนมาก ทั้งแก๊สหุงต้ม ไฟฟ้า น้ำมันในการเดินทาง จึงต้องพลิกฟื้นให้เข้ามีโอกาสเป็นผู้ผลิตโรงไฟฟ้าชุมชน โดยใช้วัตถุดิบในชุมชนมาใช้ผลิต เพื่อแปลงวัตถุดิบมาใช้เป็นสิ่งมีคุณค่า เพื่อใช้เป็นพลังงานชุมชนสำหรับการขนส่ง อย่างเช่น นำปาล์มน้ำมันคุณภาพ กระทรวงพลังงานเตรียมปรับขยับน้ำมันบี 7 เพิ่มเป็นบี 10 เริ่ม 1 ต.ค.นี้  จากนั้นแพร่กระจายทั้งประเทศในเดือนมกราคมปี 2563 ดูดซับปาล์มจากระบบได้ 4 แสนตัน  ทำให้มันสำปะหลัง อ้อย ถูกนำมาพัฒนาเป็นพลังงานทดแทนผสมเป็นแก๊สโซฮอลล์  เตรียมใช้ปั๊ม ปตท.เป็นตลาด เชื่อมโยงสินค้า หลังได้ทดลองนำร่องตลาดไทยเด็ดไปแล้วหลายแห่ง  และขยายไปยังปั๊มบางจาก เป็นช่องทางสร้างตลาดชุมชน 

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รายงานที่ประชุม ว่า ธ.ก.ส. พร้อมนำนโยบายชุมชนอุดมสุข มาพัฒนาชุมชน กำหนดเป้าหมายในการดูแลเศรษฐกิจชุมชน ด้วยการสร้างรายได้สุทธิให้คนในชุมชนระดับฐานรากเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% รวมถึงต้องมีอัตราการออมเงินไม่น้อยกว่า 10% ของรายได้รวม พร้อมทั้งมีการจัดการเพิ่มมูลค่าผลผลิตหลักทางการเกษตรไม่น้อยกว่า 20% ของปริมาณผลผลิตรวม และมีองค์กรการเงินชุมชนที่ได้มาตรฐานภายในชุมชน

ขณะที่มาตรการสินเชื่อนั้น จะเน้นให้กับผู้ประกอบการเกษตร ประกอบด้วย สินเชื่อสมาร์ฟาร์มเมอร์สร้างไทย อัตราดอกเบี้ย MRR ซึ่งมีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อให้ได้ 10,000 ล้านบาทในปี 2562 ใหักับผู้ประกอบการ 1 แสนราย ส่วนในปี 2563 ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท ให้ผู้ประกอบการจำนวน 200,000 ราย และในปี 2564 มีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อ 30,000 ล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการ 300,000 ราย 

สินเชื่อ SMAEs สร้างไทย ส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเกษตร อัตราดอกเบี้ย 4% มีเป้าหมายในปี 2562 จะปล่อยสินเชิ่อ 10,000 ล้านบาท จำนวน 10,000 ราย ส่วนปี 2563 ปล่อยสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท จำนวน 20,000 ราย และปี 2564 ปล่อยสินเชื่อ 30,000 ล้านบาท จำนวน 30,000 ราย   สินเชื่อวิสาหกิจชุมชนสร้างไทย อัตราดอกเบี้ย 0.01% โดยมีเป้าหมายปีนี้ปล่อยสินเชื่อได้ 10,000 ล้านบาท จากจำนวนวิสาหกิจ 10,000 กลุ่ม ขณะที่ปี 2563 จะปล่อยสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท ให้กับ 20,000 กลุ่มวิสาหกิจ และในปี 2564 จะปล่อยสินเชื่อ 40,000 ล้านบาท กับวิสาหกิจ 40,000 กลุ่ม 

และสินเชื่อสหกรณ์การเกษตรสร้างไทย อัตราดอกเบี้ย 0.01% มีเป้าหมายปีนี้ ปล่อยสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท จำนวน 1,000 แห่ง ส่วนปี 2563 จะปล่อยสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท ให้จำนวน 1,200 แห่ง และปี 2564 จะปล่อยสินเชิ่อ 30,000 ล้านบาท จำนวน 1,500 แห่ง   นอกจากนี้ธ.ก.ส.ยังสนับสนุนเกษตรกรปลูกป่าต้นน้ำ 11 จังหวัดภาคเหนือ วงเงินกู้ 5,000 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกรจำนวน 50,000 ราย พื้นที่ 500,000 ไร่ ด้วยการให้อัตราดอกเบี้ยต่ำ 1-3 ปีอีก คิด MRR-3 เพื่อนำเงินไปปลูกป่าในพื้นที่ที่กำหนด โดยมีระยะเวลากู้ไม่เกิน 15 ปี

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ได้เตรียมสินเชื่อสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน อัตราดอกเบี้ยต่ำ กลุ่มเป้าหมาย 2 ล้านราย โดยเตรียมวงเงินไว้ 1.5 แสนล้านบาท เฉลี่ยปล่อยสินเชื่อรายละ 75,000 บาท เช่น สินเชื่อหาบเร่แผงรอบ 4.0 เงื่อนไขผ่อนปรน เป้าหมาย 1 แสนราย ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท สินเชื่อสถาบันการเงินประชาชนปล่อยกู้รายละไม่เกิน 10 ล้านบาท สินเชื่อ street food ปล่อยกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท รวมทั้งยังมีสินเชื่อแรงงาน เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและสร้างอาชีพเสริม สินเชื่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปล่อยกู้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย