สำนักข่าวไทย 21ก.ย.-เลขาธิการ ป.ป.ส.เตือนระวังภัยยาเสียสาว ถูกนำมาใช้ประกอบอาชญากรรมในรูปแบบการมอมยา รูดทรัพย์ ล่วงละเมิดทางเพศตามสถานบันเทิง บางรายถึงกับเสียชีวิต
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวการใช้สารที่เรียกว่า “ยาเสียสาว” ในกลุ่มวัยรุ่น โดยผสมในน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อความมึนเมา ส่งผลให้เกิดอาการสะลึมสะลือมึนงง หากมีการใช้เกินขนาดหรือใช้ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมาก อาจจะทำให้เสียชีวิตได้
นายนิยม อธิบายว่า “ยาเสียสาว” คือ สารที่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด โดยผู้ประสงค์ร้ายแอบลักลอบนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรม มีหลายชนิด อาทิ อัลปราโซแลม เคตามีน มิดาโซแลม สาร GHBฯ ที่นิยมนำไปใช้ในทางที่ผิดมักอยู่ในรูปแบบที่เป็นของเหลว มีลักษณะใส ไม่มีสี กลิ่น และรสชาติ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้มีอาการง่วงนอน มึนงง คลื่นไส้อาเจียน เคลื่อนไหวลำบาก หากได้รับยาในขนาดที่สูงมาก อาจทำให้เกิดการกดการทำงานของหัวใจ กดการหายใจ ชัก หมดสติและเสียชีวิตได้ ปัจจุบันพบยากลุ่มดังกล่าวถูกนำมาใช้ประกอบอาชญากรรมในรูปแบบของการมอมยา รูดทรัพย์หรือล่วงละเมิดทางเพศตามสถานบันเทิงต่างๆ บางรายถึงกับเสียชีวิต
ขณะเดียวกันก็มีคดีการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาตัวนี้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์การใช้ยาดังกล่าวมีการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น ป.ป.ส.ขอให้ผู้ปกครอง เฝ้าระวังบุตรหลานเยาวชน เรื่องการซื้อยาผ่านทางเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมทั้งตักเตือนหากพบพฤติกรรมที่จะนำไปสู่อันตรายต่อตนเองและผู้อื่นได้ โดยเฉพาะการไปเที่ยวสถานบันเทิงในยามวิกาล สุ่มเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงให้ใช้สารดังกล่าว จึงขอความร่วมมือให้ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันสอดส่องดูแล ไม่ให้มีการมั่วสุมใช้สารเสพติด รวมถึงควบคุมอย่างเข้มงวดที่จะไม่ให้เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการตามกฎหมายได้กำหนดบทลงโทษตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559 สำหรับผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000-2,000,000 บาท สำหรับผู้ขาย ต้องโทษจําคุกตั้งแต่ 4-20 ปีและปรับตั้งแต่ 400,000 – 2,000,000 บาท สำหรับผู้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ ต้องโทษจําคุกตั้งแต่1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และสำหรับ ผู้เสพ ต้องโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ. –สำนักข่าวไทย