ป.ป.ส. 21 ส.ค.- ไทย-เวียดนาม ผนึกกำลังจับ 4 ผู้ต้องหาชาวเวียดนาม พร้อมของกลาง คีตามีน เอ็กซ์ตาซี ผงยาอี เครื่องอัดเม็ดพร้อมหัวตอก และอุปกรณ์อัดเม็ดยา
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.ร่วมกับผู้แทน กรมศุลกากร กองทัพบกและบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดชาวเวียดนาม จำนวน 4 คน ของกลาง คีตามีน 5.2 กก. เอ็กซ์ตาซี (ยาอี) 514 เม็ด ผงยาอี เครื่องตอกอัดเม็ดอัตโนมัติ แบบ single punch พร้อมหัวตอกยาอี logo ต่าง ๆ และอุปกรณ์อัดเม็ดยาจำนวนหลายรายการ เหตุเกิดที่ คอนโดมีเนียมย่านรามคำแหง ต่อเนื่อง บ้านเช่าย่านลาดพร้าว กทม.
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า จากการนำคณะผู้แทนไทยประชุมทวิภาคีไทย – เวียดนาม ว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 17 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการสืบสวนและปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งพบว่านักค้ายาเสพติดชาวเวียดนามที่ผลิตเอ็กซ์ตาซี (ยาอี) เป็นส่วนใหญ่ ปีที่ผ่านมามีการจับกุมยาบ้าและเอ็กซ์ตาซี (ยาอี) ในชาวเวียดนามกว่า 3 ล้านเม็ด และมีแนวโน้มที่นักค้ายาฯ ชาวเวียดนาม จะเข้ามาเคลื่อนไหวในประเทศไทย


โดยเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ได้ตรวจยึดคีตามีน 5,200 กรัม บรรจุในพัสดุระหว่างประเทศ ซุกซ่อนอำพรางปะปนมากับถุงขนม ต้นทางประเทศเนเธอร์แลนด์ จากนั้น ขยายผลไปยังผู้รับพัสดุ กระทั่งวันที่ 18 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณโดยรอบคอนโดมิเนียม ที่ถูกระบุเป็นสถานที่จัดส่งพัสดุ และในช่วงเย็นพบชายชาวเวียดนาม 2 คน เป็นผู้มาติดต่อรับพัสดุที่ซุกซ่อนคีตามีน 5,200 กรัม จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาไปขยายผลตรวจค้นบ้านเช่าย่านลาดพร้าว พบชายชาวเวียดนามอีก 2 คน ผลการตรวจค้น พบ เอ็กซ์ตาซี (ยาอี) 514 เม็ด ผงยาอี เครื่องตอกอัดเม็ดอัตโนมัติ แบบ single punch พร้อมหัวตอกยาอี logo ต่าง ๆ และอุปกรณ์อัดเม็ดยาจำนวนหลายรายการ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า เตรียมนำคีตามีนมาผสมกับ MDMA ให้เป็นผงยาอี และทำการอัดเม็ด โดยปัจจุบันพบว่าเอ็กซ์ตาซีมีการนำคีตามีนมาเป็นส่วนผสมในเม็ดยา เพื่อเพิ่มการออกฤทธิ์ของยาเสพติด ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิต โดยกระจายขายในสถานบันเทิง และบางส่วนลักลอบส่งกลับไปจำหน่ายที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
เลขาฯ ป.ป.ส. กล่าวว่า เครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวต่างชาติที่เข้ามาเคลื่อนไหวในประเทศไทย มีการสั่งยาเสพติดมาจากต่างประเทศ โดยจัดส่งผ่านพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศ ซุกซ่อนยาเสพติดมากับสินค้าประเภทต่าง ๆ ก่อนส่งมาที่ประเทศไทย จ่าหน้าพัสดุใช้ชื่อชาวต่างชาติ โดยระบุสถานที่รับพัสดุเป็นคอนโดมิเนียม ไม่ระบุเลขที่ห้องพัก ซึ่งไม่ได้พักอาศัยอยู่จริง จากนั้นให้บุคคลในเครือข่ายมารับพัสดุโดยใช้ภาพหนังสือเดินทางในโทรศัพท์แสดงต่อนิติบุคคลของคอนโดมิเนียม เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่ 3 จึงต้องประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อขอข้อมูลระหว่างกัน
ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวได้มีการทดสอบสารเสพติดที่ยึดมาได้ ซึ่งได้ผลว่าเป็นยาอีและยาเคตามีน พร้อมเปิดเตรื่องตอกเม็ดยาที่ยังใช้งานได้จริง ผลิตยาอีผสมยาเคได้มากถึงวันละแสนเม็ด.-119-สำนักข่าวไทย