รัฐสภา 12 ก.ย.- “ปิยบุตร-สุทิน” เดินหน้าอภิปรายปมถวายสัตย์ต่อ ย้ำเป็นหน้าที่โดยชอบธรรมของสภาฯ ในการตรวจสอบ “นายกรัฐมนตรี-ครม.” ระบุศาลไม่รับคำร้องแต่ไม่ได้ชี้ว่าผิดหรือถูก
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ ไม่รับคำร้องที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีทีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ว่า คำสั่งดังกล่าวยิ่งแสดงให้เห็นถึงความชอบธรรมของสภาผู้แทนราษฎร ที่จำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป เพราะหนึ่งเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญยกขึ้น เพราะมองว่าเป็นการกระทำของรัฐบาลจึงเป็นเรื่องที่องค์กรตุลาการ จะไม่เข้าไปตรวจสอบว่าหรือถูกหรือไม่ ในทางกฎหมาย ตนคิดว่าประเด็นนี้ เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฏหมายสูงสุด และคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาไม่ได้มีการชี้ว่าถูกหรือผิด เพียงบอกว่า ไม่รับเท่านั้น
ส่วนในการอภิปรายวันที่ 18 กันยายนนั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านได้มีการวางตัวผู้อภิปรายไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้มีการจัดสรรเวลา ส่วนตัวจะใช้เวลาประมาณ 60 นาที จะชี้ให้เห็นความเป็นมาและความสำคัญของการถวายสัตย์ปฏิญาณตามรัฐธรรมนูญ และนอกจากนั้นก็จะเสนอทางออกให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย และย้ำว่ายังต้องการให้การอภิปรายเป็นไปอย่างเปิดเผย เพราะเป็นแนวทางที่โปร่งใสมากที่สุด และการอภิปรายที่จะเกิดขึ้นก็เจาะจงไปที่ตัวนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
ด้านนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านเดินหน้ากระบวนการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ประเด็นนายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วน แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับคำร้องวินิจฉัยกรณีดังกล่าว เนื่องจากศาลบอกเพียงว่าไม่มีอำนาจวินิจฉัย ตนเชื่อโดยสุจริตว่าองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่ศาลรัฐธรรมนูญหมายถึงคือองค์กรอิสระ ไม่ได้หมายความรวมถึงสภาผู้แทนราษฎร จึงเป็นเหมือนการย้ำว่าเรื่องนี้ควรให้สภาผู้แทนราษฎรหาทางออก และยิ่งรู้สึกโล่ง เพราะการอภิปรายไม่ได้กระทบต่อกระบวนการในศาลรัฐธรรมนูญแล้ว มั่นใจว่ากระบวนการสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ถือเป็นการก้าวล่วงศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง เพราะศาลไม่ได้มีข้อยุติในเรื่องนี้
ส่วนกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาคดี นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย จงใจปกปิดการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน นายสุทิน กล่าวว่า หากศาลตัดสินว่าผิดจริง ก็จะทำให้เสียงฝ่ายค้านหายไปอีก 1 เสียง ซึ่งจะต้องมีการเลือกตั้งซ่อมใหม่.-สำนักข่าวไทย