สยบข่าวรอยร้าว “ปิยบุตร-พิธา”

รัฐสภา 22 ก.พ.- “รังสิมันต์” สยบข่าวรอยร้าว “ปิยบุตร-พิธา” รับใช้ถ้อยคำแรง แต่ไม่ขัดแย้งแบ่งขั้วแน่นอน ชี้ เบื้องหลังมีแต่ความปรารถนาดี ขอทุกคนก้าวข้าม เดินหน้าขจัด 3 ป.

นายรังสิมันต์ โรม โฆษกและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการตอบโต้ทางการเมืองระหว่างนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า ถ้าให้พูดกันตรงๆ ก็คือ ทุกฝ่ายอยากจะเห็นการกระทำของแต่ละฝ่ายที่ดีต่อกัน อย่างนายปิยบุตร โพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่อง เชื่อว่า นายปิยบุตร อยากเห็นพรรคก้าวไกลประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ส่วนนายพิธา อาจจะคาดหวังให้นายปิยบุตร ทำในส่วนอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการเคลื่อนไหวในเรื่องประชาธิปไตย จนสุดท้ายสามารถบรรลุเป้าหมายตั้งแต่ตั้งพรรคอนาคตใหม่จนถึงยุบพรรค และมาถึงวันนี้


นายรังสิมันต์ ยังกล่าวอีกว่า หากมองเบื้องหลังถ้อยคำรุนแรง ทุกคนต่างมีความปรารถนาดี จึงเป็นเหตุผลที่นายพิธาและพรรคก้าวไกลอยากให้นายปิยบุตร ช่วยเท่าที่ช่วยได้ ซึ่งต้องยอมรับว่าหลังจากที่นายปิยบุตร ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง นายปิยบุตร ก็ไม่สามารถเข้ามามีบทบาทในพรรคได้ ดังนั้นจึงอาจทำเท่าที่ทำไหว เพื่อให้ประเทศไทยผลจากยุค 3 ป. แต่อาจจะมีคำพูดที่รุนแรงกันบ้าง ซึ่งตอนก็คิดว่าจะต้องปรับจูนกันใหม่

เมื่อถามว่า ภายในพรรคไม่ได้เป็นปัญหาใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คนที่เป็นสมาชิกพรรคและสนับสนุนพรรคก้าวไกล เขารักทุกคน ทั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร และนายพิธา รักทุกคนที่เคยเป็นองคาพยพในพรรคอนาคตใหม่ แต่ถ้าถามว่าเป็นไปได้ไหมที่จะมีความไม่เข้าใจกัน ตนมองว่าเป็นเรื่องทั่วไป เป็นธรรมดาของความเป็นพรรคการเมือง ยืนยันว่า ภายในพรรคไม่ได้ขัดแย้งกัน คนในพรรคไม่ได้แตกเป็น 2-3 ขั้ว ที่มักจะเห็นในพรรคการเมืองที่ผ่านมา แต่อาจจะมีความเข้าใจไม่ตรงกันและอาจใช้ถ้อยคำที่รุนแรงกันไปบ้าง คงต้องใช้เวลาในการปรับความเข้าใจที่จะเคลียร์กันให้ชัด ทั้งนี้ไม่ปฏิเสธว่า การใช้ถ้อยคำรุนแรงแล้วไม่มีปัญหา คงไม่เป็นแบบนั้น แต่ก็ไม่ถึงขนาดจะทำให้พรรคก้าวไกลไม่สามารถเดินหน้าเลือกตั้งต่อได้


ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากกระทบกับพรรคหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีเรื่องนายคริส โปรตะนันท์ อดีตสมาชิกพรรคและผู้ก่อตั้งกลุ่มเส้นด้ายลาออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นสถานการณ์ใกล้เลือกตั้ง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กรณีนายคริส ขอให้ตัดไปได้เลย เพราะไม่เป็นปัญหาอะไร เป็นเรื่องธรรมดาที่มีความเห็นส่วนตัวที่อาจจะไม่เห็นด้วยกับแนวทาง ก็เดินออกไป เป็นเรื่องธรรมดามาก คงไม่สามารถโยงกันได้

“กรณีของนายปิยบุตร ก็พยายามที่จะปรับ เอามาเป็นกระจกส่องตัวเอง แต่ก็ยอมรับว่าบางถ้อยคำอาจจะรุนแรง บางทีมันก็อาจจะขัดต่อความรู้สึกที่เวลาเราลงพื้นที่ก็จะเห็นว่า การตอบรับของประชาชนเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าแน่นอน มันก็อาจจะเป็นความเห็นที่ไม่ตรงกัน ถามว่าจะกระทบไหม ผมยังมองในแง่บวกว่า มันคือการถกเถียงกัน คือการพูดคุยกัน อาจจะใช้คำที่รุนแรงกันบ้าง แต่มันก็อยู่ในระดับนั้น แต่ไม่ถึงขนาดว่าที่จะทำให้เกิดความแตกแยกของพรรค ถ้ามีความแตกแยกของพรรค อาจจะบอกว่ามีปัญหาระยะยาว อันนี้อาจจะเป็น แต่กรณีนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า วันนี้เดินมาเจอ ส.ส.พรรคก้าวไกลหลายคน ไม่มีใครที่รู้สึกว่าจะเป็นปัญหาที่คุยกันไม่ได้ เป็นปัญหาที่ยังสามารถจัดการได้ โดยใช้การพูดคุยเป็นหลัก เป็นการทำความเข้าใจเรื่องเหตุผล


เมื่อถามว่า จะมีการนัดเคลียร์ใจกับนายปิยบุตรหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะตนยังไม่ได้เป็นคนนัดอะไร แต่คิดว่า เป็นกระบวนการที่ต้องนำไปคิด มองว่า การพูดคุยก็คือทางออก ซึ่งพรรคก้าวไกลต่างจากพรรคการเมืองอื่นเพราะว่าค่อนข้างเปิดพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็น ที่ผ่านมาก็มีสมาชิกพรรคที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นปกติอยู่แล้ว กรณีนี้ก็ต้องพิจารณาว่าควรทำอย่างไร ปรับได้หรือไม่ มีจุดใดที่ยังทำไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องปกติมากสำหรับพรรคก้าวไกล อย่างที่สอง เมื่อมีความขัดแย้ง ก็คุยกันด้วยเหตุผล ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุด

เมื่อถามถึงนายธนาธร ที่ยังโพสต์สนับสนุนพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ ตอบทันทีว่า ก็ชัดเจนว่า นายธนาธร ยังยืนยันในทวิตเตอร์ว่า พรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองที่เป็นคำตอบของสังคมไทย เป็นพรรคการเมืองที่รับมรดกจากพรรคอนาคตใหม่ และเชื่อว่า นายธนาธร ก็เป็นเพื่อนที่เดินร่วมทาง อาจจะไม่ใช่รถคันเดียวกัน แต่ปลายทางเดียวกัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ตนยังมั่นใจในการต่อสู้การเลือกตั้ง ถ้าเรามองสถานการณ์นี้ อย่าเพิ่งไปมองว่า เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย แต่เป็นเรื่องที่ต้องเดินผ่านไปให้ได้ เพราะเรายังมีศัตรู ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องเอาชนะให้ได้ คือ การปิดสวิตช์ 3 ป. เป็นเรื่องที่ฉุดหลังประเทศเราไว้ พร้อมย้ำว่า นโยบายพรรคก้าวไกลมีความแหลมคมมาก หากไม่สามารถก้าวข้ามผ่านได้ เราได้ที่นั่งในสภาไม่มากพอที่จะทำให้นโยบายที่แหลมคมประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาเข้มข้น มีความท้าทายรออยู่ ต้องก้าวผ่าน

เมื่อถามว่า มีอะไรฝากถึงนายปิยบุตรหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คงไม่ได้ฝากถึงใครเฉพาะเจาะจง แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องของการวิพากษ์วิจารณ์ ใครก็แล้วแต่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด เราอยู่ในอยู่ในบริบทที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ส่วนตัวมองไปถึงเรื่องต้องเอาชนะศัตรูทางการเมือง ดังนั้น ต้องเอา 3 ป.ออกจากการเมืองให้ได้ ไม่เช่นนั้นประเทศเสียหายแน่ๆ ดังนั้นต้องช่วยกันเดินหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]