ย้อนรอยคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี

ศาลฎีกา 6 ก.ย.- ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ คดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี คดีนี้มีที่มาอย่างไร ติดตามจากรายงาน


ลุ้นกันนานกว่า 8 ชั่วโมง ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะพิพากษาคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งจำเลย 15 คน โดยเฉพาะนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำร่วมฟังคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ พร้อมทีมทนายความ และญาติ ที่มีนายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชายมาที่ศาลด้วย


ทนายความนายบุญทรง ยอมรับนายบุญทรงยังกังวล แต่มั่นใจในหลักฐานใหม่ ว่าจะได้รับความเมตตาจากศาล

เช่นเดียวกับกลุ่มข้าราชการกรมการค้าต่างประเทศ และสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ จำเลยร่วม ยื่นอุทธรณ์ทั้งประเด็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ยืนยันการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ขอให้พิพากษายกฟ้อง หรือลงโทษสถานเบา หรือรอการลงโทษ ตามขั้นตอนแนวทางการพิจารณาคดีอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม


ย้อนไปเมื่อ 25 สิงหาคม 2560 คดีระบายข้าวมีกลุ่มนักการเมือง ข้าราชการ เอกชนที่ประกอบกิจการโรงสีข้าว 28 ราย ร่วมกันทุจริต ซึ่งศาลเห็นว่า ข้อตกลงตามสัญญาให้ขายข้าวแก่บริษัท กว่างตง และบริษัท ไห่หนาน ที่อ้างว่าเป็นผู้แทนจากจีน 4 ฉบับ มีข้อพิรุธหลายประการ บริษัทที่อ้างเป็นผู้แทนจากจีนไม่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจีน เป็นเพียงรัฐวิสาหกิจของจีนจริงเท่านั้น จึงถือว่าจงใจปล่อยปละละเลย ซ่อนเร้นอำพราง ปิดบังความจริงเกี่ยวกับสัญญาการซื้อขายข้าว เพื่อเอื้อประโยชน์เปิดช่องทางให้มีข้าวกลับมาหมุนเวียนขายในประเทศ ไม่ได้เป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาหรือฮั้วประมูล จึงพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 48 ปี และชดใช้ค่าเสียหายแตกต่างกันไป โดย นายอภิชาต หรือเสี่ยเปี๋ยง ถูกจำคุกหนักสุด 48 ปี นายบุญทรง 42 ปี นายภูมิ 36 ปี นายมนัส สร้อยพลอย 40 ปี

ส่วน พ.ต.นพ.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ และนายสุธี เชื่อมไธสง คนสนิทเสี่ยเปี๋ยง หลบหนีคดี ศาลสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวและพิจารณคดีลับหลังสั่งจำคุก 72 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้วให้จำคุกทั้งสิ้น 50 ปี 32 ปี ตามลำดับ

เรื่องจีทูจีไม่ได้จบเพียงแค่นี้ ล่าสุด มีรายงานว่า อนุกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ลอตสอง “มีคำสั่งแจ้งข้อกล่าวหา” แก่ผู้ถูกกล่าวหาทุกราย แล้วย้อนกลับไปปลายเดือน ต.ค.61 กรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ มีมติให้ไต่สวน “สามพี่น้องตระกูลชินวัตร” ด้วย.-สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ กับมีลมแรง โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้าในภาคเหนือและภาคอีสาน ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย