ทำเนียบขาวเผย “ไบเด” คุยเรื่องต้นตอโควิดกับผู้นำจีน

วอชิงตัน 11 ก.ย. – ทำเนียบชาวของสหรัฐเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ หารือเรื่องการสอบสวนหาต้นตอของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างที่เขาสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเมื่อวันพฤหัสบดี


เจน ซากี โฆษกหญิงประจำทำเนียบขาวกล่าววานนี้ว่า นายไบเดนและนายสี หารือในประเด็นต่าง ๆ หลากหลายที่เกี่ยวกับสองประเทศ ซึ่งรวมถึงเรื่องเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย และมีความเข้าใจว่า รัฐบาลสหรัฐมีความกังวลในเบื้องต้นในเรื่องต้นกำเนิดของโควิด-19 แต่ซากี กล่าวยอมรับว่า ประเด็นเรื่องต้นตอของโควิด-19 ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือ แต่เธอจะไม่ลงรายละเอียดในเรื่องนี้ นายไบเดน กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วให้คำมั่นว่า จะกดดันจีนเพื่อให้ได้คำตอบถึงที่มาของโรคระบาดที่ขณะนี้คร่าชีวิตประชาชนทั่วโลกไปแล้ว 4.8 ล้านคน หน่วยข่าวกรองต่าง ๆ ของสหรัฐกล่าวว่า ไม่สามารถหาข้อสรุปว่า เชื้อไวรัสหลุดออกมาจากห้องปฎิบัติการทดลองของจีนหรือไม่ หากไม่ได้รับความร่วมมือและช่วยเหลือจากฝ่ายจีน รัฐบาลปักกิ่งปฎิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐที่ว่า จีนไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนหาที่มาของโรคระบาด เจ้าหน้าที่สหรัฐคนหนึ่งกล่าวว่า นายไบเดน ไม่มีแผนการที่จะหยิบยกเรื่องแนวโน้มที่สหรัฐจะใช้มาตรการตอบโต้ หากจีนไม่ยอมร่วมมือในการสอบสวน ทางด้านสำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายสี ได้กล่าวกับนายไบเดนว่า ทั้งสองประเทศควรจะให้ความเคารพซึ่งกันและกันและจัดการกับความเห็นที่แตกต่างกันด้วยความเหมาะสม ซากี กล่าวว่า การสนทนาระหว่างผู้นำทั้งสองที่ดำเนินไปเป็นเวลา 90 นาที เป็นไปอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ใช่เป็นการสั่งสอนหรือดูหมิ่น และมีเป้าประสงค์ที่จะเปิดช่องทางการสื่อสารระหว่างทั้งสองประเทศไว้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย