ก.พลังงาน 6 ก.ย. – ปตท.กระทบสูญค่าเช่าคลังแอลเอ็นจี หลัง กบง.ล้มประมูลการนำเข้าของ กฟผ. ด้าน “สนธิรัตน์” พบ สร.กฟผ.พร้อมเคลียร์ทุกเรื่อง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการหารือร่วมกับตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(สร.กฟผ.) วันนี้ (6 ก.ย.) ว่า ได้ชี้แจงถึงมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่ให้ยกเลิกแผนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) 1.5 ล้านตัน/ปีและให้นำเข้ารูปแบบราคาจร (Spot) เพื่อทดสอบระบบจำนวน 2 ลำเรือ (ลำละ 90,000 ตัน) เนื่องจากการดำเนินงานที่ผ่านมามีจุดบกพร่องปล่อยไว้จะส่งผลกระทบค่าไฟฟ้า ประกอบกับสถานการณ์การใช้ก๊าซธรรมชาติในประเทศเปลี่ยนไป จึงจำเป็นต้องมาพิจารณาปริมาณการนำเข้าที่เหมาะสมใหม่ ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวจะไม่มีความเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้นเกิดกับ กฟผ.และจะไม่เกิดการฟ้องร้อง เพราะกระทรวงพลังงานจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ทั้งหมดโดยเร็ว
รมว.พลังงาน กล่าวว่า กฟผ.ได้คัดเลือกปิโตรนาส แอลเอ็นจี เป็นผู้ชนะประมูลนำเข้าแอลเอ็นจี ไม่เกิน 1.5 ล้านตัน/ปี กำหนดเดิมจะต้องลงนามในสัญญาภายในเดือนกันยายนนี้ เมื่ิอ กบง.มีมติล้มประมูล ดังนั้น ในเวทีประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนครั้งที่ 37 (AMEM) จึงได้หารือเบื้องต้นกับรัฐมนตรีพลังงานของมาเลเซียยืนยันว่าจะไม่กระทบใด ๆ ทั้งสิ้น เช่นเดียวกรณีค่าเช่าคลังแอลเอ็นจีกับบริษัทในกลุ่ม บมจ.ปตท.ที่ กฟผ.ได้ลงนามสัญญาไปแล้ว ทางกระทรวงพลังงานจะมีการเจรจายกเลิก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแต่อย่างใด
“ยืนยันต่อ สร.กฟผ.ว่านโยบายการเปิดเสรีก๊าซฯ เพื่อให้ไทยเป็นฮับภูมิภาค โดยการนำเข้าต้องเหมาะสมกับสถานการณ์ของโลก ต้นทุนค่าไฟถูกลง และ กฟผ.จะเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าแอลเอ็นจีต่อไป ซึ่งจะมีการหารือถึงปริมาณที่เหมาะสม เพื่อที่จะดำเนินการให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ๆ นี้” รมว.พลังงาน กล่าว
นายศิริชัย ไม้งาม ประธาน สร.กฟผ. กล่าวว่า สิ่งที่ สร.กฟผ.กังวล คือ ความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของตัว กฟผ.ในฐานะรัฐวิสาหกิจที่ได้ประมูลและได้ปิโตรนามาส แอลเอ็นจี เป็นผู้ชนะประมูลซึ่งเป็นบริษัทมาเลเซียซึ่งมีชื่อเสียง และที่ผ่านมาได้มีลงนามสัญญาเช่าคลังแอลเอ็นจีกับบริษริษัทในเครือ บมจ.ปตท.ไปแล้ว โดยจะเช่าเดือนละ 190 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 33 ปี คิดเป็นมูลค่า 75,000 ล้านบาท จึงเกรงว่าหากไปยกเลิกสัญญาจะได้รับผลกระทบ โดยทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าวทาง รมว.พลังงานได้รับปากที่จะแก้ไขให้ทั้งหมดแล้ว
“ยืนยันว่าการนำเข้าแอลเอ็นจีครั้งนี้ของ กฟผ. 1.5 ล้านตัน/ปี เพื่อเป็นการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ.เองไม่ได้นำมาขายแต่อย่างใด โดยมีสัญญา 8 ปี ซึ่งรัฐมนตรีพลังงานได้ชี้แจงว่ามีข้อบกพร่องในอดีต 3-4 ปีที่ผ่านมา จึงต้องกลับมาแก้ไขและทบทวนใหม่และพร้อมจะให้ กฟผ.มีการนำเข้าต่อไป โดยจะเร่งเคลียร์ภายใน 2-3 เดือน ๆ นี้และยืนยันว่าจะให้โควตา กฟผ.นำเข้าแอลเอ็นจีร้อยละ 15 ของการใช้ กฟผ.ที่มีทั้งหมด 8 ล้านตัน/ปี” นายศิริชัย กล่าว
นอกจากนี้ รมว.พลังงานยังแจ้งว่าจะเสนอต่อ ครม.เร็ว ๆ นี้ ให้นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานเข้ามารับตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการ กฟผ.จากปัจจุบันไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งนี้.-สำนักข่าวไทย