ประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสแข่งรถ

กทม.3 ก.ย.- การตั้งรางวัลสำหรับการแจ้งเบาะการแข่งรถและขับรถผิดวิสัยการขับรถตามธรรมดาได้รับการตอบรับอย่างดี


ที่ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปก.ตร. พลตำรวจโทดำรงศักดิ์ กิตติประภัส ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปตรวจสอบการรับแจ้งข้อมูลเบาะแสผู้กระทำผิดที่เข้าข่ายแข่งรถในทางสาธารณะ ขับรถประมาทหวาดเสียวหรือกลุ่มที่ชักชวนหรือสนับสนุนให้เกิดการแข่งรถ 


ร้อยตำรวจเอกธรรมชาติ ดำรงจักษ์ ร้อยเวรฝ่ายโซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. ระบุว่า ช่วงเช้าวันนี้ มีผู้ร้องเรียนเข้ามาแล้ว 2 ราย รายแรกส่งภาพผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นแอดมินเพจ และมีภาพการขับขี่รถจักรยานยนต์ลักษณะยกล้อประกอบ ส่วนอีกรายเป็นคลิปวีดีโอที่เกี่ยวข้องกับการชักชวนแข่งรถ อยู่ระหว่างตรวจสอบจึงยังเผยแพร่ไม่ได้ หลังจากนี้จะส่งข้อมูลที่ได้รับการร้องเรียนไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง หากเข้าข่ายเป็นหลักฐานที่สามารถใช้ติดตามผู้กระทำผิดได้ ก็จะติดต่อกลับไปหาผู้แจ้งเบาะแส เพื่อสอบถามว่าจะรับเงินรางวัลหรือไม่ต่อไป

พลตำรวจโทดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ได้เรียกประชุมคณะทำงานชุดย่อย เพื่อสอบถามความคืบหน้าการรับเรื่องร้องเรียน หลังประกาศว่าวันนี้(3 ก.ย.)เป็นวันแรกของการรับแจ้งเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับการแข่งรถในทาง สาธารณะซึ่งพบว่า นอกจากข้อมูลที่แจ้งผ่านศูนย์โซเชียลมีเดีย ยังมีอีก 4-5 ราย ที่โทรศัพท์เข้ามาสอบถามเรื่องการมอบรางวัลผ่านหมายเลข 191 และ 1599 คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะจึงจะเห็นความชัดเจนเรื่องเบาะแสที่ร้องเรียนเข้ามา ข้อมูลที่จะนำมาพิจารณาต้องเป็นการกระทำผิดที่เกิดขึ้นในช่วง 5 ปีนี้ และผู้กระทำผิดยังไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาก่อน กรณีมีผู้โพสต์ชักชวนให้เกิดการแข่งรถผ่านทางโซเชียลมีเดีย นอกจากผู้ที่โพสต์จะมีความผิดฐานเป็นผู้จัด สนับสนุน หรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถ ผู้ที่เข้าไปแสดงความคิดเห็น ในลักษณะเป็นการตอบรับ ก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน ซึ่งความผิดในข้อหานี้ มีโทษสูงสุดคือ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท

สำหรับปัญหาการแข่งรถในทางสาธารณะ ภาพรวมพบสถิติการร้องเรียนลดลงไปมาก เหลือเพียง 10-15% เช่น พื้นที่กรุงเทพฯจากเดิมมีการร้องเรียนกว่า 300 ครั้ง เมื่อเดือนที่ผ่านมาการร้องเรียนเหลือแค่ 42 ครั้ง ซึ่งก็ได้ตั้งเป้าว่าในเดือนแรกที่เปิดรับแจ้งเบาะแส จะต้องมีผู้ร้องเรียนปัญหาไม่เกิน 40 ครั้ง และลดลงเรื่อยๆจนเหลือเพียง 10-20 ครั้ง ภายในสิ้นปีนี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พยาบาลถูกตบ

“สมศักดิ์” พร้อมช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า

“สมศักดิ์” รมว.สธ. พร้อมสนับสนุนหา “ทนายความ” ช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า บอกหากเจ้าตัวไม่ดำเนินคดี กระทรวงฯ พร้อมออกโรงแทน หวั่นเป็นเยี่ยงอย่าง

รพ.ระยอง ยันดำเนินคดีถึงที่สุดญาติคนไข้ตบพยาบาล

โรงพยาบาลระยอง แถลงปมญาติคนไข้ตบหน้าพยาบาล เผยหลังเกิดเหตุได้ดูแลอาการบาดเจ็บของพยาบาลผู้ประสบเหตุทันที ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

ข่าวแนะนำ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เสนอ 4 ข้อปราบแก๊งคอลฯ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เตรียมเสนอ 4 มาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “บิ๊กอ้วน” คณะทูตจีนรอต้อนรับ ขณะเจ้าตัวสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ตอบสื่อ

สธ.ลั่นเอาผิดญาติคนไข้ตบพยาบาลให้ถึงที่สุด

ผอ.โรงพยาบาลระยอง เข้าพบผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข ปมญาติคนไข้บุกตบพยาบาล สธ. ยืนยันต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านพยาบาลยังเครียด เยื่อบุแก้วหูอักเสบรุนแรง

รวบชาวจีนเช่าคอนโดพระราม 9 เปิดเว็บพนันออนไลน์

ตำรวจบุกจับ ชาวจีน 15 คน เช่าคอนโดยกชั้น ย่านพระราม 9 เปิดเป็นฐานปฏิบัติการเว็บพนันออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนในบัญชีดิจิทัล กว่า 9 ล้านบาท