ชลประทานยืนยันเขื่อนห้วยสีทนแข็งแรง

กรุงเทพฯ 3 ก.ย. –  กรมชลประทานเร่งระบายน้ำภาคอีสานออกแม่น้ำโขง ด้านสำนักชลประทานที่ 6 ยืนยัน น้ำล้นตลิ่งแม่น้ำลำปาวจากฝนตกหนักต่อเนื่องจังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่ได้เกิดจากอ่างห้วยสีทนล้นอย่างที่เกิดข่าวลือ ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก


นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 6 กล่าวถึงข่าวที่ว่าจังหวัดกาฬสินธุ์เตือนพี่น้องประชาชนให้อพยพและขนข้าวของขึ้นที่สูง เนื่องจากชลประทานต้องเร่งระบายน้ำที่ล้นอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนออกสู่แม่น้ำลำปาวจนล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำ ว่า สาเหตุที่ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปาวสูงขึ้นเกิดจากฝนตกต่อเนื่องวัดได้กว่า 300 มิลลิเมตร ไม่ใช่เกิดจากอ่างห้วยสีทนล้นจนต้องเร่งระบายน้ำออก ทั้งนี้ อ่างเก็บน้ำห้วยสีทนเดิมก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูฝนมีน้ำ  20% เท่านั้น แต่เมื่อฝนตกหนักมากใน 4-5 วันที่ผ่านมา น้ำในอ่างเก็บน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากที่ปริมาตรเก็บกัก 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำเพิ่มไปถึง  5 ล้านกว่าลูกบาศก์เมตร  โดยระดับน้ำสูงกว่าทางระบายน้ำล้น 50 เซนติเมตร แต่ยังต่ำกว่าสันทำนบดิน 1.5 เมตร และระบายน้ำออกวันละ 350,000 ลูกบาศก์เมตร 

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าตระหนกตกใจเนื่องจากการระบายน้ำผ่านทางระบายน้ำล้นเป็นกลไกปกติของอ่างเก็บน้ำ กรณีระดับน้ำในอ่างสูง แต่อ่างเก็บน้ำมั่นคงและแข็งแรงดี ไม่ได้ล้นหรือเสี่ยงที่จะแตก ปัจจุบันน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนไหลลงไปบรรจบกับลำน้ำปาว ซึ่งมีความจุอยู่ที่ประมาณ 300  ลูกบาศก์เมตร.-วินาที แต่น้ำไหลผ่านประมาณ 350 ลูกบาศก์เมตร./วินาที ดังนั้นน้ำส่วนนี้จะล้นตลิ่งขึ้นบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ ทางชลประทานกำลังเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำลำปาวที่ไหลลงสู่ลำน้ำชี แต่ด้านท้ายลำน้ำชีมีระดับน้ำสูงจึงคาดว่า จะใช้เวลา 7-10 วัน น้ำลำน้ำปาวจึงจะต่ำกว่าตลิ่ง ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำจากทางราชการอย่างใกล้ชิดและอย่าเชื่อข่าวลือใด ๆ ทั้งสิ้น 
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางมีฝนตกหนักจากอิทธิพลจากพายุโพดุลแล้วต่อเนื่องด้วยพายุโซนร้อนคาจิกิ ทำให้เกิดอุทกภัยเป็นบริเวณกว้าง โดยเขตชุมชนที่มีน้ำท่วม ได้แก่ เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด  และเทศบาลบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น สำหรับพื้นที่การเกษตรมี 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมรวม  581,576 ไร่ ได้แก่ ขอนแก่น 68,079 ไร่ มหาสารคาม 206,475 ไร่ ร้อยเอ็ด 213,476 ไร่ และกาฬสินธุ์ 93,546 ไร่
สำหรับจังหวัดขอนแก่น สถานการณ์น้ำท่วมอำเภอบ้านไผ่เริ่มคลี่คลายถนนมิตรภาพสามารถสัญจรได้ คาดว่าน้ำจะแห้ง 1-2 วันนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยทราย อำเภอบ้านไผ่ ปริมาณน้ำอยู่ที่ระดับเก็บกัก เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสภาพความพร้อมของอาคารควบคุมการระบายน้ำและเร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ ส่วนพื้นที่เกษตรมีน้ำท่วมขังประมาณ 40-60 เซนติเมตร ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายในบางจุด หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1-2 วัน ส่วนในพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่นติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ 12 เครื่อง พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือทันทีหากมีน้ำท่วมขัง 
จังหวัดมหาสารคาม ฝนที่ตกหนักในเขตพื้นที่ต้นน้ำลุ่มน้ำเสียวใหญ่อำเภอบรบือและวาปีปทุมส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลทะลักลงมาตามลำเสียวใหญ่ มีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรสองฝั่งลำน้ำในทั้ง 2 อำเภอ น้ำป่าไหลข้ามคันกั้นน้ำเข้ามาในลำเสียวใหญ่ ทำให้คันกั้นน้ำบางช่วงเสียหาย ขณะนี้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเสียวใหญ่เร่งระบายน้ำลงไปทางด้านล่างให้เร็วที่สุด พื้นที่ด้านล่างยังสามารถรับน้ำได้ ทั้งนี้ ได้แจ้งเตือนให้ทางท้องถิ่น ฝ่ายปกครองได้รับทราบและเตรียมการแล้ว หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มอีกคาดว่า สถานการณ์น่าจะคลี่คลายภายใน 6-7 วันนี้
จากการตรวจสอบบานระบายน้ำอ่างเก็บน้ำหนองบ่อ ตำบลบรบือ อำเภอบรบือ ปัจจุบันน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำหนองบ่อเพิ่มขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องเร่งยกบานระบายเพื่อให้สามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ส่วนคันกั้นน้ำหน้าฝายบ้านเขวาน้อยเขวาคำที่ทรุดตัว ทางชลประทานกับชาวบ้านช่วยกันเสริมกระสอบทรายเพื่อปิดคันกั้นน้ำที่ขาดเรียบร้อยแล้ว แก้ปัญหาน้ำไหลทะลักเข้าท่วมนาข้าวสำเร็จ 
จังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานชลประทานที่ 6 ระดมเครื่องจักร-เครื่องมือและกระสอบทรายเข้าเสริมความมั่นคงแข็งแรงของพนังกั้นน้ำยัง ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่องที่สะพานยโสธร-ร้อยเอ็ด (ปากน้ำยัง) และอีก 6 เครื่องที่เขื่อนธาตุน้อย จังหวัดอุบลราชธานีเพื่อเร่งระบายน้ำลงแม่น้ำชี นอกจากนี้เขื่อนลำปาวได้หยุดการระบายน้ำ ส่วนเขื่อนร้อยเอ็ด เขื่อนยโสธร เขื่อนปากมูลและเขื่อนธาตุน้อยได้แขวนบานระบายเพื่อเร่งระบายน้ำในน้ำชี ส่วนเขื่อนหัวนา 
จังหวัดสุรินทร์ปิดบานสนิทช่วยหน่วงน้ำมูลที่จะไหลมาบรรจบกับน้ำชี พร้อมเปิดคันพนังบริเวณประตูระบายน้ำ (ปตร.) บ้านปาก ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำออกจากบึงเกลือ ปตร.ปากปุ่ง และปตร.ห้วยน้ำเค็ม นอกจากนี้นำรถบรรทุกออกบริการประชาชน แพทย์ พยาบาลอาสา รับส่งชาวบ้านที่ออกไปเกี่ยวหญ้ามาเลี้ยงสัตว์ รับ-ส่งนักเรียน และผู้สัญจรไปมาระหว่างตำบลนาแซงไปยังบ้านท่าเยี่ยม อำเภอเสลภูมิ พร้อมมอบน้ำดื่มและสิ่งของช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยแนวโน้มสถานการณ์ลุ่มน้ำยังคาดการณ์ว่าระดับน้ำจะลดลงภายใน 10-15วัน  ส่วนบริเวณถนนวงแหวนรอบเมืองชั้นนอก (บายพาส) ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว 5 เครื่อง ขนาด 8 นิ้ว 2 เครื่องเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่เศรษฐกิจเมืองร้อยเอ็ด สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ถนนหลักชุมชนชั้นในเข้าสู่สภาวะปกติ 
จังหวัดกาฬสินธุ์ โครงการชลประทานกาฬสินธุ์ร่วมกับสำนักเครื่องจักรกลติดตั้งกาลักน้ำขนาด 8 นิ้ว 5 แถว เร่งระบายน้ำออกจากอ่างห้วยสีทนซึ่งมีระดับน้ำสูงกว่าทางระบายน้ำล้น (Spillway) ออกสู่แม่น้ำลำปาวเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ปฎิบัติการอ่างเก็บน้ำ (Rule Curve) ขณะนี้ระดับน้ำยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ได้ปิดบานอาคารบังคับน้ำคลอง LMC เพื่อเพิ่มการระบายน้ำออกจากอ่างห้วยสีทนคาดว่า น้ำที่ล้นตลิ่งแม่น้ำลำปาวเข้าท่วมพื้นที่เกษตรจะกลับสู่ภาวะปกติใน 7 – 10 วัน -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ส่องความเสียหายน้ำท่วมหล่มสัก ชาวบ้านหวั่นท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนร้านค้าหลายร้อยหลังเจอน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านกังวลหล่มสักจะกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

ไรเดอร์ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ขี่รถประกบ-ข่มขู่

กทม. 21 ก.ย. – ไรเดอร์หนุ่ม สุดงง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจสายสืบขี่รถตามประกบ ข่มขู่ดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน ขณะ สน.หนองแขม ยันไม่ใช่ตำรวจในสังกัด “ต๊ะ” ไรเดอร์วัย 27 ปี โพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก และนำมาร้องสื่อ โดยบอกว่า ชายคนนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถมาประกบ และจอดขวางขณะกำลังขี่รถมาถึงปากซอยเพชรเกษม 81/5 เพื่อไปรับงานส่งลูกค้า ส่วนตอนคนที่อ้างเป็นตำรวจ เดินลงจากรถจักรยานยนต์ ก็อ้างว่าที่เรียกตรวจ เพราะเห็นว่าเป็นไรเดอร์ แต่ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ ซึ่งชายคนนี้ตามตัวมีครบทั้งวิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อที่ปักว่า “สืบ” มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนคือนิสัยที่ไม่เหมือนตำรวจ ทำให้ “ต๊ะ” ตัดสินใจถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน หลังเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายชายคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจก็ไล่ “ต๊ะ” บอกจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวโดนร้องเรียนเอง “ต๊ะ” จึงขี่รถกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เพราะที่จะไปรับลูกค้าก็ไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อขี่รถออกมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังขี่รถตามมา “ด่า” จนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วก็ขี่รถฉีกออกไปมุ่งหน้าไปทางอ้อมใหญ่ ทำให้ “ต๊ะ” ค่อนข้างมั่นใจว่า ชายคนนี้ไม่ใช่ตำรวจ […]

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]

ทบ.ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC พร้อมเรียกร้องกัมพูชาหยุดบิดเบือนความจริง และให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตไทยย้ายออกนอกพื้นที่ กรณีสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการชายแดนกัมพูชา แถลงการณ์เมื่อ 21 ก.ย. 68 ว่า “พบการเผยแพร่ข้อมูลผ่านบัญชี Facebook Page ชื่อ “Royal Thai Army: Update” เมื่อ 19 กันยายน 2568 โดยใช้แผนผังที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตำแหน่งหลักเขตแดน ซึ่งเป็นบันทึกการประชุมลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 (พ.ศ. 2560) และภาคผนวกของบันทึกการประชุมลงวันที่ 28 ธันวาคม 2016 (พ.ศ. 2559) ของคณะกรรมการรังวัดร่วมกัมพูชา–ไทย ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจหาตำแหน่งที่แท้จริงของหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข 43 ในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน โดยมีการบิดเบือนให้เข้าใจผิดไปว่า คณะผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการพรมแดน (ฯพณฯ ลาย เซียงลี) ได้ลงนามยอมรับเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน ซึ่งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข […]