เติมน้ำเขื่อนยโสธรช่วยลุ่มน้ำชีตอนล่าง

กรุงเทพฯ 20 ก.พ. –  สำนักงานชลประทานที่ 6 เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนร้อยเอ็ดกว่า 5 ล้านลูกบาศก์เมตร เติมหน้าเขื่อนยโสธรสนับสนุนน้ำอุปโภค-บริโภค จ. ยโสธร อุบลราชธานี ส่วนนครราชสีมาผันน้ำจากเขื่อนลำตะคองช่วยพื้นที่นอกเขตชลประทาน อ.โนนสูง แต่พบการลักลอบสูบน้ำทำนาปรัง วอนใช้น้ำตามข้อกำหนด เพื่อบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง



นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 กล่าวว่า ได้ประชุมหารือการบริหารจัดการน้ำแม่น้ำชีร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 7 จากสถานการณ์น้ำปัจจุบันหลายพื้นที่มีความเสี่ยงน้ำจะไม่เพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค โดยอ่างเก็บน้ำของเขื่อนในลำน้ำชีทั้ง 6 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนชนบท เขื่อนมหาสารคาม เขื่อนวังยาง เขื่อนร้อยเอ็ด เขื่อนยโสธร และเขื่อนธาตุน้อยมีอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย โดยเฉพาะหน้าเขื่อนยโสธร จ. ยโสธร ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานชลประทานที่ 7 ปัจจุบันระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ +122.30 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ปริมาตรน้ำ 4.51 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 23.88 ของความจุอ่าง เสี่ยงน้ำกินน้ำใช้จะไม่เพียงพอ


ดังนั้น สำนักงานชลประทานที่ 6 จะช่วยเหลือด้วยการเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ดสนับสนุนการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สาขายโสธร จากเดิมระบายอัตรา 25 ลูกบาศก์เมตร/วินาที หรือวันละ 2.16 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มเป็น 35 ลบ.ม./วินาที หรือวันละ 3.02 ล้าน ลบ.ม. รวม  6 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 – 25 กุมภาพันธ์ รวมปริมาตรน้ำที่เขื่อนร้อยเอ็ดจะระบายไปเติมหน้าเขื่อนยโสธรประมาณ 5.2 ล้าน ลบ.ม. เพื่อเพิ่มระดับน้ำหน้าเขื่อนยโสธรและรักษาเก็บกักที่ +123.00 ม.รทก. จากปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ +122.30  ม.รทก. เป็นการสร้างความมั่นคงด้านน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคให้แก่ กปภ.ยโสธรและแม่น้ำชีตอนล่าง จ.ยโสธรและอุบลราชธานี จากการประเมินความต้องการใช้น้ำ คาดว่าจะมีน้ำกินน้ำใช้ไปจนถึงสิ้นฤดูแล้งนี้อย่างแน่นอน


สำหรับสำนักงานชลประทานที่ 8 ได้ผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำตะคอง เพื่อสนับสนุนพื้นที่ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคในเขตอำเภอโนนสูง ซึ่งเป็นอยู่นอกเขตชลประทานมาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 แต่ระหว่างทางเกษตรกรทำนาปรังจำนวนมาก ทั้งที่ไม่มีแผนสนับสนุนส่งน้ำเพื่อทำนาปรัง เกิดการลักลอบสูบน้ำ ทำให้มีน้ำเข้าพื้นที่เป้าหมายไม่พียงพอ ขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในอำเภอต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณทางน้ำไหลผ่านจัดชุดเฝ้าระวังและติดตามน้ำทำให้ปริมาณน้ำไหลไปถึงในเขต ต.เมืองปราสาทและลำคอหงษ์มากขึ้น ส่วน ต.ธารปราสาทและหลุมข้าวนั้นน้ำยังไปไม่ถึงเนื่องจากต้องลำเลียงน้ำไปอีกเส้นทางคือ เส้นทางลำเชียงไกร อีกทั้งจำเป็นต้องลดปริมาณส่งน้ำลงเพื่อควบคุมปริมาตรน้ำในเขื่อนตามเกณฑ์การจัดการน้ำ รวมทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำน้ำไปใช้ทำนาปรังเพิ่มขึ้น จากผลการระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2562 ถึงปัจจุบันระบายน้ำไปแล้วทั้งสิ้นประมาณ 12 ล้าน ลบ.ม. โดยพื้นที่เป้าหมายรับน้ำไปแล้วประมาณ 2 ล้าน ลบ.ม. จากเป้าหมาย 3 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งสามารถบรรเทาการขาดแคลนน้ำได้ระดับหนึ่ง 

ทั้งนี้ กรมชลประทานสั่งการให้โครงการชลประทานทุกพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พื้นที่ใดจัดรอบเวรส่งน้ำต้องควบคุมการสูบน้ำตามรอบเวรอย่างเคร่งครัด อีกทั้งขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรน้ำและใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคไปจนถึงต้นฤดูฝนนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]