อีสานกลางน้ำน้อย เตือนใช้น้ำตามแผนชลประทาน

กรุงเทพฯ 16 ธ.ค. – สำนักงานชลประทานที่ 6 ระบุ 2 เขื่อนใหญ่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย สามารถสนับสนุนน้ำได้เฉพาะการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น ขอให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดตามแผนที่ชลประทานวางไว้


นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 กล่าวว่า น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น และเขื่อนจุฬาภรณ์ จังหวัดชัยภูมิ อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยสามารถสนับสนุนน้ำได้เฉพาะการอุปโภค-บริโภคและรักษาระบบนิเวศเท่านั้น ส่วนเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ มีน้ำเก็บกักอยู่ในเกณฑ์ปกติ สามารถสนับสนุนน้ำสำหรับทุกกิจกรรมได้ไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า  


ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 6 ช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการขาดแคลนน้ำ ด้วยการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและส่งน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคให้แก่พื้นที่ทั้ง 5 จังหวัดได้แก่ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูแล้ง (1 พ.ย. 62) กว่า 80 เครื่อง ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย โดยบางพื้นที่เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว แต่ยังคงเครื่องสูบน้ำไว้ช่วยเหลือเฉพาะการอุปโภคบริโภค 14 เครื่อง นอกจากนี้ ในพื้นที่ท้ายเขื่อนลำปาวยังได้มีการนำรถแบคโฮบูมยาวเข้าไปดำเนินการขุดลอกตะกอนดินในคลองส่งน้ำสายต่าง ๆ ที่มีตะกอนดินทับถมเพื่อให้การส่งน้ำจากเขื่อนลำปาวไปถึงเกษตรกรได้ทั่วถึง ซึ่งโครงการฯ ลำปาวเริ่มส่งน้ำให้เกษตรกรในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ 

นายศักดิ์ศิริ กล่าวต่อว่า ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับชี้แจงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ได้รับทราบอย่างทั่วถึง พร้อมรณรงค์ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุด ได้แก่ โครงการชลประทานชัยภูมิติดตามสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำบ้านเพชร ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตประปาอำเภอภูเขียวและอำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำท้องถิ่นทราบสถานการณ์และขอความร่วมมือให้ใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์ โครงการชลประทานกาฬสินธุ์จัดประชุมกลุ่มผู้ใช้น้ำอ่างเก็บน้ำห้วยผึ้งและอ่างเก็บน้ำห้วยฝา เพื่อชี้แจงสถานการณ์น้ำและแจ้งแผนกำหนดการส่งน้ำในฤดูแล้งปี 2562/2563 ร่วมกับคณะกรรมการบริหารกลุ่มผู้ใช้น้ำทั้ง 2 อ่างและกำหนดให้กลุ่มผู้ใช้น้ำทำความสะอาดและขุดลอกคลองและคูน้ำส่งน้ำก่อนการส่งน้ำตามหลักการมีส่วนร่วม ด้านจังหวัดร้อยเอ็ด โครงการชลประทานร้อยเอ็ดประชุมร่วมกับคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) อ่างเก็บน้ำหนองหญ้าม้าและอ่างเก็บน้ำห้วยกุดแดงเพื่อชี้แจงสถานการณ์น้ำและแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2562/2563 โดยมติที่ประชุมจะเริ่มส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง อ่างเก็บน้ำหนองหญ้าม้า วันที่ 5 มกราคม 2563 และอ่างเก็บน้ำห้วยกุดแดงจะเริ่มส่งน้ำ ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2563 เป็นต้นไป


ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 6 สั่งการให้โครงการชลประทานทั้ง 5 จังหวัดเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์น้ำ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรน้ำ ใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]