กทม.2 ก.ย.- สุดสลด!!! ไต้ก๋งเรือประมง จับโลมาติดอวนทำเนื้อแดดเดียวกินช่วงหาปลากลางทะเล โทษปรับสูงสุด 3 ล้านบาท
พลตำรวจโทจารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี ระบุว่า พนักงานสอบสวนศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ ศปมผ. ได้แจ้งข้อหานายธนัญชัย มิ่งมิตร หรือไต้หาร ไต้ก๋งเรือ KNF7779 และนายสันติ บัวผุด หรือไต้ติ ผู้ช่วยไต้เรือ เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก กรณีวันที่ 14-15 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ภาพขณะไต้ก๋งเรือสั่งลูกเรือทั้งชาวไทย และ สปป.ลาว กว่า 10 คน นำโลมากว่า 30 ตัว ที่ติดอวนขึ้นมาบนเรือ ในขณะลากอวนฝูงปลาโอที่น่านน้ำมาเลเซีย ทำให้โลมาบางตัวหลังหักและตาย เป็นภาพที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็น
สอบสวนรับสารภาพว่า ได้สั่งให้ลูกเรือนำโลมาขึ้นมาบนเรือจริง และมีบางตัวตายก่อนโยนทิ้งลงทะเล และยอมรับว่าให้ลูกเรือชำแหละโลมา 4 ตัว เพื่อทำเป็นเนื้อแดดเดียวเป็นอาหารช่วงทำประมงในทะเล ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นการกระทำผิดครั้งแรก เนื่องจากพฤติกรรมมีข้อสงสัย จึงสืบสวนขยายผลว่าไต้ก๋งเรือเคยก่อเหตุในลักษณะนี้หรือไม่
ตำรวจแจ้งข้อหา ผิดตามพ.ร.กประมงมาตรา 66 “ห้ามมิให้ผู้ใดจับสัตว์น้ำชนิดที่เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำที่ยากและใกล้สูญพันธ์ มาตรา 145 ระวางโทษปรับตั้งแต่ 300,000 บาท ถึง 3,000,000 บาท และมาตรา 8 ซึ่งเป็นอนุสัญญาเกี่ยวกับการอนุรักษ์และจัดการประมงที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก
ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี ยังระบุว่า แม้การกระทำความผิดจะเกิดขึ้นนอกอาณาจักรไทยแต่สามารถดำเนินคดีกับคนไทยที่ก่อเหตุได้ทั่วโลก
สำหรับเรือลำนี้ เดิมเป็นเรือสัญชาติไทย ชื่อ ส.พรนาวี เป็นของนายสุรัตน์ บัวผุด ต่อมาได้ขายให้ชาวมาเลเซีย พร้อมโอนสัญชาติไปเป็นเรือประมงมาเลเซีย ชื่อ KNF7779.-สำนักข่าวไทย
