กรมชลฯ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เกษตร-ชุมชน

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – กรมชลประทานระบุมีน้ำท่วม 19 จังหวัด เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เกษตรและชุมชน คาดสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็ววันนี้ หากไม่มีฝนตกเพิ่มตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ ยืนยันเขื่อนต่าง ๆ ยังรับน้ำได้อีกมากและมั่นคงแข็งแรงดี



นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ระบุว่า พายุโพดุลจะส่งผลให้มีฝนตกหนักวันนี้ (1 ก.ย.) เป็นวันสุดท้าย ขณะนี้โครงการชลประทานทุกแห่งทั่วประเทศระดมแก้ปัญหาอุทกภัย ล่าสุดมีน้ำท่วม 19 จังหวัด ได้แก่ แพร่ พิจิตร น่าน พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร สกลนคร สระแก้ว ชุมพร และระนอง 


ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมรายจังหวัดดังนี้ จังหวัดแพร่ ฝนตกหนักอำเภอร้องกวางวัดได้ 100 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมขังและเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมโรงเรียนบ้านผาตารางวังหม้อ ตำบลทุ่งศรี นอกจากนี้ อ่างเก็บน้ำแม่คำปองมีน้ำล้นทางระบายน้ำล้น (Spillway) ลงลำน้ำเดิม โครงการชลประทานแพร่ส่งเครื่องจักรเครื่องมือเข้าช่วยเหลือในพื้นที่ คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 2 วัน

จังหวัดพิจิตร มีน้ำป่าจากอำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ไหลเข้าท่วมพื้นที่ในเขตอำเภอสากเหล็ก รวมทั้งเกิดน้ำป่าเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลล้นตลิ่งจากคลองธรรมชาติเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนและถนนสาย 11 ตำบลเขาทราย เทศบาลตำบลทับคล้อ อำเภอทับคล้อ ซึ่งโครงการชลประทานพิจิตรผันน้ำผ่านอาคารท่อระบายน้ำคลองร่องกอกใหญ่ไปยังตำบลวังหลุม อำเภอตะพานหินและส่งเครื่องสูบน้ำ 23 เครื่องเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่


 

จังหวัดน่าน ฝนตกหนักทำน้ำในอ่างเก็บน้ำน้ำแหง อำเภอนาน้อยไหลล้นทางระบายน้ำล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรประมาณ 300 ไร่ ตำบลเชียงของ และเกิดพื้นที่น้ำท่วมในตำบลสันทะ ศรีสะเกษ บัวใหญ่ และสถานของอำเภอนาน้อย รวมทั้งมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนราษฎรด้วย โครงการชลประทานน่านได้ส่งเครื่องสูบน้ำ 11 เครื่องเร่งสูบน้ำออกและใช้รถตักหน้าขุดหลัง 1 คันขุดขยายทางระบายน้ำแล้ว 

จังหวัดพิษณุโลก มีน้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือน ส่งผลให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเนินมะปราง วังทอง และนครไทย โครงการชลประทานพิษณุโลกส่งเครื่องจักรเครื่องมือเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

จังหวัดอุตรดิตถ์ มีน้ำท่วมขังบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ เนื่องจากการะบายน้ำในพื้นที่ไม่ทันและมีน้ำป่าไหลหลาก ล่าสุดพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมเหลืออำเภอน้ำปาด ส่วนอำเภอพิชัย สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โครงการชลประทานอุตรดิตถ์ส่งเครื่องสูบน้ำ 10 เครื่อง เพื่อให้ความช่วยเหลือและยังเฝ้าระวังภัยอย่างใกล้ชิด โดยแนวโน้มจากการสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่จะเข้าสู่สภาวะปกติ หากไม่มีฝนตกหนักเพิ่มเติม  

จังหวัดยโสธร น้ำจากลำเซบายล้นตลิ่งเข้าท่วมที่ลุ่มต่ำและพื้นที่การเกษตรบ้านกุดสำโรง ตำบลศรีฐาน ชุมชนบ้านโพธิ์ไทร ตำบลโพธิ์ไทร และบ้านแซซ่ง ตำบลเซียงเพ็ง อำเภอป่าติ้ว โครงการชลประทานยโสธรติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่องเร่งระบายน้ำออก

จังหวัดร้อยเอ็ด มีน้ำท่วมจากห้วยเหนือและคลองคูเมือง น้ำล้นบ่าเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน ถนนทางหลวง ถนนเทศบาล เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ระดับน้ำลึก 50 เซนติเมตร – 1.20 เมตร ซึ่งทางระบายน้ำออกจากจังหวัดมีจุดเดียวที่ปากห้วยกุดขวางทำให้ระบายไม่ทัน โครงการชลประทานร้อยเอ็ดติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง ช่วยเร่งระบายน้ำให้ออกจส่งลงห้วยกุดขวางและแม่น้ำชีโดยเร็ว ส่วนน้ำที่ท่วมด้านฝั่งซ้ายของลำน้ำยังสูงประมาณ 2.20 ม. พื้นที่รวม 53,253 ไร่  2 อำเภอ คือ อำเภอโพนทอง 12,730 ไร่ และอำเภอเสลภูมิ 40,523 ไร่ ทั้งนี้ จะมีพื้นที่น้ำท่วมขยายตัวเพิ่มอีกประมาณ 27,000 ไร่ จากเหตุการณ์คันพนังกั้นน้ำยัง กม.12+000 ขาดจากน้ำไหลล้นข้าม เมื่อเวลา 07.45 น. ของวานนี้ (31 ส.ค.) โครงการชลประทานร้อยเอ็ด และส่วนเครื่องจักรกลติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 15 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่อง และสนับสนุนกระสอบทรายประมาณ 2,950 ใบเข้าเสริมพนังกั้นน้ำ

จังหวัดกาฬสินธุ์ มีพื้นที่น้ำท่วมอำเภอเขาวง 1,110 ไร่ และในเขตบริเวณแก่งดอนกลางมีน้ำท่วมจากการเร่งพร่องน้ำอ่างฯ ห้วยสีทน โดยโครงการชลประทานกาฬสินธุ์และส่วนเครื่องจักรกลสำนักงานชลประทานที่ 6 ติดตั้งกาลักน้ำบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนเพื่อลดปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีระดับสูงขึ้น ป้องกันไม่ให้สูงกว่าระดับเก็บกัก

จังหวัดชัยภูมิ มีน้ำท่วม 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแก้งคร้อ อำเภอคอนสวรรค์ และอำเภอเมือง โครงการชลประทานชัยภูมิส่งเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อเข้าช่วยเหลือแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง

จังหวัดขอนแก่นมีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ คือ อำเภอบ้านไผ่ โดยท่วมบริเวณเทศบาลบ้านไผ่และถนนมิตรภาพ ส่งผลให้ถนนสายบ้านไผ่-บ้านเปือย ตำบลบ้านลานถูกน้ำกัดเซาะขาด ราษฎรไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยทรายซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง น้ำได้ล้นสันทางระบายน้ำล้นประมาณ 5 เซนติเมตร โครงการชลประทานขอนแก่นเร่งระบายน้ำเพื่อพร่องน้ำออกแล้ว

จังหวัดมหาสารคาม มีน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม เส้นทางหลวงหมายเลข 2322 (โกสุม-โสกขุ่น) อำเภอโกสุมพิสัย ข้างโรงพยาบาล น้ำท่วมผิวจราจรเป็นระยะ 200 เมตร ต้องปิดการสัญจรเร่งสูบระบายลงแม่น้ำชี นอกจากนี้ มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ชลประทานหนองหวายรวม 2,700 ไร่ ตำบลหัวขวาง 300 ไร่ ตำบลเลิงใต้ 450 ไร่ ตำบลแห่ใต้ 1,800 ไร่ ตำบลยางน้อย 150 ไร่ ทางชลประทานเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง

จังหวัดอุดรธานี มีน้ำท่วมบริเวณโรงเรียนบ้านหมากแข้งและบริเวณสะพานคลองผันน้ำ อำเภอเมือง น้ำกัดเซาะทำให้คอสะพานฝั่งขวาชำรุด รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้  โครงการชลประทานอุดรธานีนำรถแบ็คโฮ 2 คันมาเปิดทางน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงอ่างเก็บน้ำหนองสำโรง 

จังหวัดอุบลราชธานีเกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาพนมดงรักไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 อำเภอได้แก่ อำเภอดอนมดแดงและอำเภอตระการพืชผล โดยลำเซบกและลำห้วยสาขาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ และน้ำกัดเซาะคอสะพานข้ามลำเซบกทรุดตัว โครงการชลประทานอุบลราชธานีเข้าช่วยราษฎรขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงและเร่งสูบระบายน้ำ

จังหวัดอำนาจเจริญน้ำท่วมสูงในเขตชุมชนเมืองอำนาจเจริญประมาณ 20-30 เซนติเมตร โดยสำนักงานชลประทานที่ 7 เร่งสูบน้ำออกอย่างต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจ

จังหวัดมุกดาหารมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนิคมคำสร้อยและอำเภอเมือง โครงการชลประทานมุกดาหาร ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่องเพื่อเร่งการระบายน้ำ 

จังหวัดสกลนครเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนรวม 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโพนนาแก้วและโคกศรีสุพรรณ โครงการชลประทานสกลนครติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 4 เครื่องบริเวณสะพานบ้านด่านม่วงคำ อำเภอโคกศรีสุพรรณเพื่อเร่งระบายน้ำในลำน้ำก่ำสู่พื้นที่ด้านท้ายน้ำและเรียงกระสอบทรายบริเวณพนังกั้นน้ำต่ำที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการไหลข้ามคันเข้าสู่พื้นที่การเกษตรอำเภอโพนนาแก้วแล้ว

จังหวัดสระแก้ว ฝนตกหนักบริเวณอุทยานแห่งชาติปางสีดา วัดได้ 174.4 มิลลิเมตร ทำให้มีน้ำท่วม 2 จุดได้แก่ บริเวณสะพานคลองโป่งดาวเรือง กม.16+450 สูงประมาณ 40 เซนติเมตร ปริมาณน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจุดนี้อยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำห้วยกระบากที่รับน้ำจากอุทยานแห่งชาติปางสีดา นอกจากนี้บริเวณบ้านโป่งดาวเรืองมีน้ำท่วมสวนยูคาลิปตัสประมาณ 100 ไร่ และบ้านเรือน 3 หลัง ขณะนี้น้ำลดลงแล้ว หากไม่มีฝนตกจะเข้าสู่ปกติใน 1 วัน 

จังหวัดชุมพร ฝนตกหนักบริเวณต้นน้ำคลองชุมพรทำให้ได้เกิดน้ำล้นตลิ่งที่คลองชุมพร โครงการชลประทานชุมพรติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 4 ชุด บริเวณตำบลวังไผ่และอีก 4 ชุดที่บริเวณตำบลตากแดด อำเภอเมืองชุมพร

จังหวัดระนอง น้ำในคลองน้ำจืดไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนหน้าตลาดบ้านน้ำจืด ตำบลน้ำจืด อำเภอกระบุรี เกิดผลกระทบกับราษฎรประมาณ 100 หลังคาเรือน โครงการชลประทานระนองติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่องทางฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของชุมชน เพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำออกจากพื้นที่ 

“กำชับโครงการชลประทานทุกพื้นที่เร่งสูบระบายน้ำที่ท่วมขังให้คลี่คลายเร็วที่สุด โดยจะดำเนินการจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติตามข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรีและคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หากไม่มีฝนตกมาเพิ่มพื้นที่ลุ่มต่ำมากจะใช้เวลาระบายน้ำไม่เกิน 1 สัปดาห์ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่จะระบายออกได้หมดภายใน 2-3 วัน” นายทองเปลว กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]