กรุงเทพฯ 31 ส.ค. – กสิกรไทยคาดสัปดาห์หน้าเงินบาท 30.40-30.80 บาท/ดอลลาร์ฯ ดัชนีหุ้นไทยแนวรับ 1,620-1,635 จุด จับตาสงครามการค้า BREXIT และถ้อยแถลงเฟด
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา (28-30 ส.ค.) เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 2 เดือนที่ 30.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับแรงหนุนของสินทรัพย์ปลอดภัยอื่น ๆ หลังจากสหรัฐและจีนปรับขึ้นภาษีตอบโต้กัน ทำให้สงครามการค้ามีความตึงเครียดมากขึ้น โดยวันศุกร์ (30 ส.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 30.56 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 30.72 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (23 ส.ค.)
สำหรับสัปดาห์หน้า (2-6 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาท 30.40-30.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐจีน และ BREXIT ตลอดจนสัญญาณดอกเบี้ยสหรัฐจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะประกาศระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนสิงหาคม รายจ่ายด้านการก่อสร้างและยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ ตลาดในประเทศอาจรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมของไทยด้วยเช่นกัน
ด้านดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (26-30 ส.ค.) พลิกกลับมาปิดบวกปลายสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,654.92 จุด เพิ่มขึ้น 0.50% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 60,717.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.82% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai เพิ่มขึ้น 0.46% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 352.72 จุด
สำหรับสัปดาห์หน้า (2-6 ก.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,635 และ 1,620 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,660 และ 1,675 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความคืบหน้าของการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน ประเด็นความเสี่ยง BREXIT รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร รวมถึงอัตราการว่างงานเดือนสิงหาคม ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/62 ของยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI Composite เดือนสิงหาคมของยูโรโซน ญี่ปุ่นและจีน.-สำนักข่าวไทย